โอวาทพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)
วันอาทิตย์ที่ ๖,๑๓ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๔๒
ความเชื่อเอาไว้บนหิ้ง แต่ความจริงต้องพิสูจน์
มีโยมท่านหนึ่งเป็นผู้ที่มิได้นับถือศาสนาพุทธ ท่านเป็นผู้ที่เคร่งครัดในข้อวัตรปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ทางพระศาสนาของท่าน ตอนแรกก็มีความรู้สึกขัดแย้งในการที่ได้รับคำแนะนำให้ปฏิบัติธรรม กลัวว่าจะไปกระทบกับความเชื่อดั้งเดิมเป็นบาป ความเชื่อเป็นสิ่งที่ดีควรเก็บเอาไว้บนหิ้งในที่บูชาอันสูง ส่วนความจริงของชีวิตเป็นเรื่องที่เราต้องแสวงหาต้องพิสูจน์ เพราะเป็นความรู้สากลไม่ได้ขัดแย้งกับความเชื่อ
ในที่สุดท่านก็ได้ลงมือปฏิบัติเมื่อเข้าใจว่าการปฏิบัติธรรมฝึกใจให้หยุดนิ่งเป็นของสากลเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ปฏิบัติได้ ไม่ขัดแย้งกับความเชื่อถือดั้งเดิม แล้วก็ไม่ขัดขวางในการดำเนินชีวิตประจำวัน ในที่สุดท่านวางใจเฉยๆ เพราะท่านรู้สึกว่าไม่สบายใจถ้าหากว่ากำหนดเป็นองค์พระหรือดวงแก้ว และเกรงว่าจะเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับระบบของคำสอนของท่าน ส่วนดวงแก้วท่านก็ไม่กล้ากำหนดเนื่องจากเกรงว่าจะนึกไปเองเวลาเห็นสิ่งนั้นขึ้นมา เพราะฉะนั้นท่านก็วางใจนิ่งเฉยๆ ไม่ขยับเขยื้อน นั่งไปเรื่อยๆ
แล้วในที่สุดก็ออกไปนั่งร้องไห้ข้างนอกห้อง พี่เลี้ยงก็เข้าไปถามว่าร้องทำไม เขาบอกว่าวางใจนิ่งเฉยๆ ไปโดยไม่คิดอะไร ใจมันสบายมันก็ตกศูนย์วูบเข้าไปสู่ภายใน เห็นดวงแก้วใสๆ ที่มาพร้อมกับความสุข และในกลางนั้นมีองค์พระใสๆ เกิดขึ้น เขาก็รีบลืมตาและปฏิเสธประสบการณ์ว่าเขาไม่ต้องการองค์พระ เขาอยากวางใจนิ่งเฉยๆ เท่านั้น ยิ่งปฏิเสธด้วยการทำใจนิ่งเฉยๆ เหมือนกับเรียกองค์พระ ให้ท่านออกมา เพราะว่าเป็นวิธีที่อัญเชิญท่านมาโดยที่เขาก็ไม่รู้ตัวว่าจะเข้าถึงพระต้องหยุด
พอหยุดนิ่งก็จะเข้าถึงพระภายใน องค์พระก็จะผุดเกิดขึ้นมามากมายทีเดียว พอยิ่งปฏิเสธโดยการทำใจนิ่งเฉยๆ ไม่สนใจ ยิ่งไม่ สนใจ ยิ่งมากันใหญ่ องค์พระผุดผ่านเกิดขึ้นมาทีละองค์ ๒ องค์ ๓ องค์ จนกระทั่งมากันเป็นสายทีเดียว และแต่ละองค์มาพร้อมกับความสุขที่เพิ่มพูนขึ้นมากกว่าเดิมเขามีความรู้สึกว่าใจเขาเกลี้ยงเกลา แต่องค์พระผุดเกิดขึ้นทีไรก็ลืมตาขึ้นทุกที พยายามปฏิเสธประสบการณ์นั้น แต่ก็เสียดายว่าสิ่งนี้มาพร้อมกับความสุข เหมือนกับระเบิดความสุขออกมา จากความสุขภายในและในขณะนั้นความรู้สึกที่ร่างกายก็หายไป เป็นความรู้สึกที่ตื่นตัวภายในซึ่งขยายกว้างออกไปทีเดียวเป็นความปีติเบิกบานมาก จึงออกมานั่งร้องไห้อยู่ข้างนอกบอกว่าเขาไม่อยากเห็นองค์พระแต่ก็เสียดายที่ท่านจะหายไป ที่ไม่อยากเห็นเพราะขัดแย้งกับความเชื่อดั้งเดิม แต่ที่เสียดายเพราะท่านมาพร้อมกับความสุข ยิ่งองค์ใหม่ผุดเกิดขึ้นมา ความสุขยิ่งเพิ่มขึ้นไปกว่านั้นอีกเป็นทับทวีไปเรื่อยๆ เขาไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไรจึงมานั่งร้องไห้ พี่เลี้ยงก็อธิบายให้ฟังว่าสิ่งนี้เป็นของสากล ความเชื่อก็คือความเชื่อ ความจริงก็คือความเป็นจริง นี่ก็เป็นพยานประสบการณ์ภายในว่าเป็นของสากล เพราะฉะนั้นจะมีความเชื่อหลากหลายอย่างไรก็เชื่อกันไปเถอะ ไม่ขัดแย้งกับความเชื่อดั้งเดิม แล้วก็ไม่ขัดขวางในการดำเนินชีวิตประจำวัน
หลายปีที่ผ่านมาหลวงพ่อเจอหนุ่มอยู่คนหนึ่ง เป็นนักท่องเที่ยวยามราตรี เขาขาดสิ่งนั้นไม่ได้ เขาบอกว่ามันติดนิสัย ถ้าได้ไปเที่ยวบาร์ เที่ยวคลับได้ดื่มเหล้า รู้สึกว่ามันค่อยยังชั่ว แต่ตื่นมาก็มึนๆ ซึมๆ แต่ก็อยากจะทดลองนั่งทำสมาธิภาวนา หลวงพ่อก็แนะนำให้ แต่เขามีข้อแม้ว่าขอให้เขาดำเนินชีวิตอย่างที่เคยเป็น คือสิ่งที่เขาเคยทำก็ขอให้เขาได้ทำอย่างนั้น แต่เขาขอเพิ่มสิ่งนี้ขึ้นมาอีกอย่างหนึ่งคือการทำสมาธิปฏิบัติธรรม หลวงพ่อก็ไม่ขัดข้อง คือการจะทำความดี บางคนก็ทำทีเดียวได้ ๑๐๐% บางคนก็ ๙๐-๘๐-๗๐% หรือแม้เพียง ๑% หลวงพ่อก็ว่าเป็นความดี ก็บอกเอาเถอะคุณก็ทำทั้ง ๒ อย่างควบคู่กันไป แล้วอย่าลืมมาเล่าให้ฟังด้วยก็แล้วกัน
๑ สัปดาห์ผ่านไปเขากลับมาเล่าให้ฟัง เขาบอกหลวงพ่อครับ ผมก็ทำทั้ง ๒ อย่างนั่นแหละ เที่ยวผมก็ยังเที่ยว ดื่มผมก็ยังดื่ม เพราะผมขาดสิ่งนั้นไม่ได้ นั่งผมก็นั่ง นั่งหลับก็มี บางครั้งมีความรู้สึกว่าได้พักผ่อน อีกสัปดาห์หนึ่งผ่านมา เขาบอกตอนนี้ผมมีความรู้สึกใจผมมันนิ่งๆ สบายๆ ความคิดแต่เดิมว่าเหล้าและการเที่ยวกลางคืนมีความจำเป็นสำหรับผม ตอนนี้ความจำเป็นนั้นลดน้อยลงไปเรื่อยๆ แต่ผมก็ยังขาดไม่ได้
อีกสัปดาห์ผ่านมาจิตของเขาก็ดื่มด่ำลงไปเรื่อยๆ ขยายเข้าไปสู่ภายในเมื่อใจนิ่งๆ ยิ่งนิ่งยิ่งขยายกว้างขวางไป ใจเขาเริ่มบริสุทธิ์ขึ้นเกลี้ยงเกลาขึ้น ในที่สุดเขาก็มาบอกว่า ผมหมดความจำเป็นที่จะเที่ยวกลางคืน หมดความจำเป็นที่จะดื่มเหล้า หมดความจำเป็นที่จะสูบบุหรี่แล้ว ตอนนี้ผมค้นพบว่าการที่ใจนิ่งๆ โดยไม่มีความคิดใดๆ เข้ามาแทรก มันให้ความสุขได้กว้างขวางกว่าในสิ่งที่ผมเคยคิดว่ามันเป็นความสุข และในที่สุดเขาก็ได้พบดวงธรรม พบองค์พระภายใน
นี่ก็เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าใครก็ตามจะบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ก็ตาม จะมีชีวิตดำเนินชีวิตแบบไหนก็ตาม ก็สามารถที่จะปฏิบัติธรรมได้ ฝึกใจให้หยุดนิ่งได้ เมื่อเข้าถึงสิ่งที่เป็นสากลคือดวงธรรมภายในองค์พระภายในอันเป็นปัจจัตตังแล้ว ตอนนั้นน่ะก็จะเข้าใจได้เองว่า เราควรจะดำเนินชีวิตของเราอย่างไรต่อไป เพราะฉะนั้นการปฏิบัติธรรมก็คือการนำใจให้ไปสู่สิ่งที่เป็นสากลภายในที่อยู่เหนือความขัดแย้ง ความเชื่อ ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรมประเพณีใดๆ ทั้งสิ้น
รักหลวงพ่อ ต้องทำอย่างที่หลวงพ่อแนะนำ
เรื่องภายนอกเป็นเรื่องเล็ก ภายในเป็นเรื่องใหญ่ ตั้งใจทำความดีอะไรแล้วต้องทำให้ได้ ทำให้สำเร็จเป็นอัศจรรย์ อุปสรรคภายนอกอย่างคราวนี้ที่หลวงพ่อกำลังเจออยู่นี้ เกี่ยวกับเรื่องที่ดิน หลวงพ่อได้ทำการยกให้ไปเรียบร้อยแล้ว ให้คณะกรรมการเขาไปจัดการตามวัตถุประสงค์ที่ ผู้บริจาคยกให้เป็นส่วนตัว ให้เป็นประโยชน์ต่องานพระศาสนา เขาจะไปทำสิ่งใดก็แล้วแต่เขา หลวงพ่อก็ไม่ได้สนใจ
เพราะฉะนั้น ถ้าลูกๆ จะช่วยหลวงพ่อก็ช่วยกันนั่งธรรมะให้ใจใสๆ ช่วยกันไปตามผู้มีบุญมาสร้างสภาธรรมกายสากล สร้างธรรมกายเจดีย์ มหาวิหารพระมงคลเทพมุนีให้สำเร็จให้ได้
หลวงพ่อเชื่อว่าปัญหาทุกอย่างจะสิ้นสุดก็ด้วยปัญญา ด้วยการเจรจาพูดคุยกัน หลวงพ่อเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ความยุติธรรมของทางรัฐบาล โดยเฉพาะท่านนายกฯชวนท่านเป็นผู้ที่มีหลักการ ได้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพมายาวนานทีเดียว ยึดหลักการจนกระทั่งเป็นที่ปรากฏ เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาของชาวโลก หลวงพ่อก็เชื่อว่าท่านจะให้ความยุติธรรมในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ รวมทั้งหลวงพ่อก็เชื่อมั่นว่า ทางคณะสงฆ์พระมหาเถระทั้งหลายที่ท่านดูแลเรื่องนี้ ท่านก็จะให้ความบริสุทธิ์ยุติธรรม ตามธรรมวินัย แบบพ่อปกครองลูก ท่านก็ทำของท่านอย่างนี้มาอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นลูกทุกคนที่รักหลวงพ่อ ก็ทำอย่างที่หลวงพ่อแนะนำนั่นแหละ ทำจิตใจให้เบิกบานแช่มชื่นกันไป ชักชวนกันให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา แล้วก็ทำสิ่งที่ดีงามอย่างที่เราได้เคยทำผ่านๆ มานะลูกนะ