เรื่องที่ ๓๔๔อาม่าพาสดชื่น
ด้วยบุญที่ตกแต่งบุญสถานให้ดูสดชื่นสวยงามด้วยดอกไม้ บุญจึงส่งผลให้คุณแม่อยู่กับลูกหลานด้วยความสดชื่นแข็งแรง
อาม่าโป๊ะโหง้ว แซ่โง้ว
คุณแม่ของคุณศัลสนี อายุ ๘๘ ปี ตกบันได ๑๒ ชั้นไม่เป็นอะไรเลย |
คุณศัลสนี ศิละคุณาภรณ์ บ้านอยู่ที่บางนา เขตพระโขนง แต่เป็นเจ้าของกิจการสวนดอกไม้ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เข้าวัดปี พ.ศ.๒๕๓๙ เล่าว่ามีเพื่อนๆ สมัยที่เรียนหนังสือ ซึ่งยังคงมีความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนกันอย่างเหนียวแน่น พอรู้ว่าเข้าวัดแล้วดี กลุ่มเพื่อนๆ ก็ ชวนกันมาร่วมสร้างบุญกุศล เมื่อมีเพื่อนมาชวน คุณศัลสนีจึงมาวัด แล้วประทับใจทั้งบุคคลและสถานที่วัดสะอาด และเข้าวัดอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ทุกอาทิตย์ต้นเดือน และงานบุญใหญ่ จะนำดอกไม้ที่ตนเองปลูกขาย มาทำบุญตกแต่ง สร้างบรรยากาศ สร้างความสดชื่นสดใสให้กับบุญสถาน สั่งสมบุญเรื่อยมา ชีวิตก็พบแต่ความสุข ความเจริญ ประสบความสำเร็จ ในธุรกิจการงาน ได้เล่าอานุภาพที่ประสบกับคุณแม่ของเธอ อายุ ๘๘ ปี ตกบันได ๑๒ ขั้น แต่ไม่เป็นอะไร รอดชีวิตมาได้ราวปาฏิหาริย์
คุณศัลสนี เล่าว่า ระยะ ๕ ปีก่อนเข้าวัด คุณแม่ของเธอนั้นแค่เซแล้วเอาแขนยันไว้แขนก็หักแล้ว พลาดหกล้มก้นกระแทกกระดูกตรงสะโพกถึงกับแตกต้องผ่าตัด ลื่นหกล้มข้อเท้าก็หัก พอคุณศัลสนีได้เข้าวัดทำบุญแล้วก็อธิษฐานจิตน้อมนำบุญนี้ให้ช่วยคุ้มครองคุณแม่ ก่อนที่คุณแม่จะประสบเหตุการณ์ในครั้งนี้ คุณศัลสนีได้สร้างพระธรรมกายประจำตัวให้กับคุณแม่ก่อนหน้านั้น ๑ เดือน ปกติแล้วคุณศัลสนีจะเป็นผู้อยู่ดูแลคุณแม่อย่างใกล้ชิด คืนนั้นเวลาประมาณตีหนึ่ง นอนอยู่ได้ยินเสียงดังโครมใหญ่ มองไปที่เตียงคุณแม่ ท่านหายไป รู้สึกใจหายหมดรีบวิ่งออกมาดูที่ข้างนอก มองลงไปที่บันได เห็นคุณแม่ลงไปนอนอยู่พื้นข้างล่าง ซึ่งบันไดขึ้นลงมี ๑๒ ขั้น หลานวิ่งไปดูตะโกนบอกว่า เลือดออกด้วย ได้ยินแล้วใจไม่ดีเลย รีบโทรศัพท์เรียกรถพยาบาล พี่ชายก็พาไปส่งโรงพยาบาล โดยให้คุณศัลสนีอยู่บ้าน เธอจึงได้รีบอธิษฐานจิตขอบารมีพระมหาสิริราชธาตุให้ช่วยชีวิตคุณแม่ตลอดเวลา ยังไม่อยากให้ท่านเสียชีวิตในตอนนี้ เพราะถ้าจากไปโดยที่ไม่มีสตินี่ อาจไปสู่ทุคติ เพราะตนเองเชื่อว่าการจากไปแบบมีสติตรึกระลึกนึกถึงบุญที่ตนเองเคยทำมา ย่อมจะนำไปสู่สุคติแน่นอน
พอเวลาผ่านไปประมาณ ๑ ชั่วโมง พี่ชายก็โทรมาบอก คุณหมอเอ็กซเรย์หมดแล้วกระดูกไม่มีส่วนไหนหักเลย ไม่เป็นอะไรเลย ส่วนเลือดที่หลานเห็นนั้นแค่ถลอกนิดหน่อย เธอจึงรู้สึกสบายใจคลายจากวิตก แต่รุ่งเช้า จะมีการเอ็กซเรย์สมอง คิดว่าสมองอาจจะได้รับการกระทบกระเทือนแน่เพราะตกมาจากที่สูง ก็ได้อธิษฐานขอบารมีพระมหาสิริราชธาตุอย่าให้คุณแม่เป็นอะไรมากเลย ไปกว่านี้
วันรุ่งขึ้นจึงรีบไปเยี่ยมท่านที่โรงพยาบาลตั้งแต่เช้า พอเจอหน้าท่านก็ทัก "มาทำไม ไม่ทำงานเหรอ ไปทำงานสิเดี๋ยวเขาไล่ออกนะ" คุณแม่ทักแบบนี้ก็สบายใจ ยังจำได้คุยรู้เรื่อง คุณหมอตรวจเช็คความจำคุณแม่ก็ปรากฏว่าจำได้ทุกอย่าง คุณหมองงมาก ถามว่า "อาม่า อาม่า ใช้วิชาอะไรลงมา ตกบันได ๑๒ ขั้นลงพื้นปูน กระดูกไม่ได้รับการกระทบกระเทือนเลย" ซึ่งเมื่อสมัยก่อนโดนนิดโดนหน่อย แขนก็หักแล้ว
คุณศัลสนี ศิละคุณาภรณ์
อธิษฐานขอบารมีพระมหาสิริราชธาตุช่วยคุณแม่อย่าให้เป็นอะไรเลย |
คุณศัลสนีเชื่อมั่นในอานุภาพ ของพระมหาสิริราชธาตุมั่นคงยิ่งขึ้น และคิดว่าคงเป็นเพราะบุญที่ตั้งใจสร้างพระประจำตัวประดิษฐาน ณ มหาธรรมกายเจดีย์และตกแต่งบุญสถานให้ดูสดชื่นสวยงามด้วยดอกไม้เป็นประจำ จึงส่งผลช่วยให้คุณแม่อยู่กับลูกหลานไปอีกด้วยความสดชื่นแข็งแรง
อานุภาพบุญ อานุภาพการระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัยไม่มีประมาณจริงๆ อายุถึง ๘๘ ปี ตกบันได ๑๒ ขั้น ข้างล่างเป็นพื้นปูน ไม่มีอะไรหักเสียหาย เพียงแต่รอยถลอกเล็กน้อย ถ้าไม่เชื่อเรื่องบุญกุศลแล้ว ก็ไม่ทราบจะเชื่ออะไร เพราะคุณแม่ของคุณศัลสนีผู้นี้ เป็นโรคกระดูกเปราะอยู่แล้ว กระทบนิดกระทบหน่อย เป็นหักอยู่เรื่อย นี่กระทบอย่างแรงขนาดตกบันได กลับไม่เป็นอะไรเลย
อันที่จริงเรื่องบุญกุศลนั้น นอกจากทำแล้วแบ่งบุญให้กันได้แล้ว ยังทำแล้วอธิษฐานเผื่อกันได้ด้วย ลูกสาวเมื่อทำบุญ เมื่อสวดสรรเสริญอธิษฐานจิตขอให้มารดาปลอดภัย ถึงแม้มารดาจะไม่ใช่ผู้สร้างบุญ แต่ด้วยบุญของลูกที่สร้างขึ้น ลูกไม่ต้องการเห็นความเจ็บป่วยของแม่ บุญก็ย่อมจัดสรรช่วยเหลือได้เหมือนกัน
เปรียบดังว่า คุณศัลสนีมีบุญมากพอ ที่่ไม่ต้องพบความทุกข์ในเรื่องนี้ บุญก็ทำหน้าที่ปกป้องให้มารดาแคล้วคลาด เพื่อไม่ให้ลูกสาวพบความทุกข์ดังกล่าว
ดังนั้นในการทำบุญกุศลต่าง ๆ นอกจากอุทิศส่วนกุศลให้เหล่าญาติ ผู้วายชนม์ไปแล้ว ควรอธิษฐานจิตให้ความร่มเย็นเป็นสุขเกิดแก่ตนเอง เพื่อให้สร้างบารมีสะดวกให้ครอบครัวและคนเกี่ยวข้อง บริษัท บริวารชน ตลอดจนสรรพสัตว์ทั้งปวงมีความเป็นอยู่สุขสบาย มีสัมมาทิฏฐิ หมั่นสร้างบุญกุศลให้เป็นที่พึ่งแก่ตนเองทุกชีิวิตพร้อมไปด้วยเหมือนเป็นการแผ่เมตตาไปในตัว