นิทานอีสป เรื่อง ยุงกับค้างคาว
ณ ถ้ำแห่งหนึ่ง มีฝูงยุงและฝูงค้างคาวอาศัยอยู่ร่วมกัน เหล่าค้างคาวนั้น มักจะล่ายุงกินเป็นอาหารในตอนกลางวัน เป็นเหตุให้พวกยุง โกรธแค้นฝูงค้างคาว
วันหนึ่งยุงตัวหนึ่งได้ใส่ร้ายพวกค้างคาวให้สัตว์ตัวอื่นฟังว่า "พวกค้างคาวเหล่านั้นเก็บตัวอยู่แต่ในถ้ำมืดๆ ชอบออกหากินเฉพาะตอนกลางคืน ค่าพนันได้เลยว่าพวกมันต้องมีแผนยึดครองป่าแห่งนี้เป็นแน่"
แม้เราค้างคาวจะรู้เรื่องที่พวกยุงไปพูดกับเราสัตว์ทั้งหลายก็ตาม แต่พวกมันก็ยังคงออกหากินตอนกลางคืน และกลับเข้าถ้ำตอนกลางวันเพื่อหายุงกินตามปกติ
คืนหนึ่งค้างคาวที่ออกหากินได้พบกับนกฮูกตัวหนึ่ง นกฮูกจึงถามว่า "ทำไมพวกเจ้าไม่ออกมาแก้ข้อกล่าวหาที่พวกยุงได้บอกกับสัตว์ตัวอื่นๆ ล่ะ" ค้างคาวตัวหนึ่งตอบกลับไปว่า "ถ้าพวกข้าวออกจากถ้ำตอนกลางวันแผนการของยุงที่จะไม่ให้พวกค่ากินพวกมันเป็นอาหารก็สำเร็จน่ะสิ"
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
การไม่ใส่ใจต่อคำกล่าวหาหรือการโจมตีจากผู้อื่นที่ไม่มีมูลความจริง อาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาความสงบและความมั่นคง
หลักธรรมในพระพุทธศาสนาที่เกี่ยวข้อง
บทสรุป:นิทานนี้สอนให้เราเรียนรู้ที่จะไม่ตอบโต้หรือโต้แย้งในสิ่งที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งหรือการยั่วยุ การมีสติและใช้ปัญญาในการตัดสินใจเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราผ่านพ้นสถานการณ์ที่ยากลำบากได้อย่างสงบสุข