ฝ่ายตรงข้ามนี้เขาจะมามืดมาเลย เป็นพระพุทธเจ้าองค์ดำมาเลย เขาก็จะมีบารมีของเขาเหมือนกัน คนชั่วนี่ก็มีบารมีเหมือนกันบารมีในการทำลาย ในการชั่วร้าย ในการที่จะมีแต่ฝ่ายไม่สร้างสรรค์ เราก็จะต้องใช้พลังจิตเข้าไปเพื่อที่จะสลายเขา สลายเขาให้เขาหายแวบไปเลย เขาทนอยู่ไม่ได้ ไปรื้อห้างมันเลย ถีบห้างรื้อห้างทิ้งเลยด้วยอำนาจของพลังจิตของเราที่เหนือกว่า แม่เหล็กของเราที่แรงกว่านี่จะทำลายสลายเขาไป มลายหายไปหมดเลย ทำชั่วโมงเดียวพอดีไม่มากไม่น้อย ชั่วโมงเดียวช่วงอื่นก็จะมี
สถานที่หลายๆ แห่ง ที่ 24 ชั่วโมงอันนั้นเป็นส่วนบุคคลที่เราจะไปนั่งไปทำกิจซึ่งบางองค์ก็ชอบเข้าธรรมกายอยู่เรื่อยไป ก็ไปนั่ง แต่เป็นทางการนี้จะต้องมาร่วมประชุม 18 อรหันต์ทำนองนั้น พระที่ได้ธรรมกายก็ต้องมาร่วมกันเพื่อปฏิบัติ 5 โมงเย็น ยังมีอีกตอน 1 ทุ่ม จะต้องไปทำในโบสถ์ ในโบสถ์นี้ก็เป็นอีกที่หนึ่ง แล้วแต่ฝ่ายอุบาสิกาก็จะมีบ้านโยมไข่ จะมีบ้านของคณะภาวนา อันนี้ฝ่ายอุบาสิกาต่างที่อื่นเลิกงานแล้วก็จะมาทำกัน มาทำสมาธิกัน มีหลายจุด หรือที่ขึ้นธรรมก็ไปทำที่ศาลาหลังเก่า ก็จะมีแม่ชีฝึกปฏิบัติกัน เออ...มาพักกันหลายๆวัน ใครจะอยากอยู่วัดก็มีข้าวฟรี อาหารที่พักฟรี ไม่มีที่นอนก็ค้างในโบสถ์ ในโรงงานก็ทำกันตลอดแหละ
อาตมาไม่ได้อยู่ตลอดเพราะต้องมาล้างกระโถน ต้องมาทำงานปัดกวาดโบสถ์ทุกวันเลย เพราะพระจะต้องทำวัตรสวดมนต์ลงอุโบสถสังฆกรรม บวชพระบ้าง แล้วพระที่อยู่ข้างในท่านมาลงอุโบสถ ทุกองค์ต้องมารวมกัน รวมอุโบสถมาตรวจศีลของตัวเอง แต่ปกติแล้วก็จะไปทำเหมือนอย่างกับกองทัพนะ จะต้องเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา เข้าธรรมกายอยู่ตลอดเวลา เพื่อดูเหตุการณ์ของโลก ของจักรวาล เวลาฉันฝ่ายพระเณรธรรมกายแยกต่างหาก พวกเปรียญพวกมหาก็นั่งอาสนะหนึ่ง ไม่ใช่ปนกัน หลวงพ่อจะแยกเพื่อให้ญาติโยมได้รู้ว่าเรามีทั้งฝ่ายปริยัติคือเล่าเรียนศึกษานี่สืบต่ออายุพระพุทธศาสนา ส่วนผู้ปฏิบัติพระธรรมกายหรือฝ่ายปฏิบัติก็ฉันนั่งอีกจุดหนึ่ง ญาติโยมเห็นได้ชัด ส่วนพระธรรมดาก็จะไปนั่งติดหลวงพ่อ มีมาก พระธรรมดานี้มีมาก พระมีที่ปฏิบัติแต่ยังไม่ได้ธรรมกาย ก็ต้องไปนั่งพระธรรมดา
(เรื่องเล่าโดย พระมหาดร.ทวนชัย อธิจิตโต
บุคคลยุคต้นวิชชาเล่ม1)