ก็มีบางคนวิญญาณเขา มันมีกรรมเวรซึ่งติดมา เขาก็รักษาไม่หายหรอก ถ้าโรคกรรมหนัก แพทย์ก็เอาไม่อยู่ เป็นโรคเวรโรคกรรมติดมารักษาไม่หายหรอก เขาต้องใช้กรรม ถ้ายังไม่พ้นกรรมนั้นมันก็ไม่หาย เทวดาก็รักษาไม่ได้ แต่ก็เอาหนักเป็นเบาก็แล้วกันเราก็พยายามช่วย ส่วนคนไหนจะหายได้ ก็หายทันที เขาจะพ้นกรรม เขาจะพ้นกรรมของเขา คนไหนจะตายนี่ เหมือนไส้เทียนไม่มีน้ำมัน เมื่อไม่มี มันก็ดับนะสิ เขาก็ต้องเสียชีวิตอันนี้ก็เป็นไปตามกรรม เพราะฉะนั้นเราจึงมีการช่วยชีวิตอธิษฐานจิตเพื่อที่จะต่ออายุ ต่อชีวิตให้เขาก็เป็นพรหมวิหารธรรมอย่างหนึ่งเป็นการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับกรรม ด้านจิตด้านวิญญาณใช้ผลกรรมที่เรียกว่าเจ้ากรรมนายเวรนั่นแหละ เขามาเอาคืนบ้างแหละเพราะไปฆ่าเขาไว้นะ ไปฆ่าเขาไว้ทำลายชีวิตเขาไว้มาก ตัวเองจึงต้องมาใช้กรรมเป็นอัมพาต ถึงไม่ตายไปก็ต้องใช้กรรมแบบไม่สมประกอบ เรื่องของกรรมนี่มันจับดูไม่ได้ มันไม่มีเนื้อหนัง มันไม่มีจะให้เห็นชัดๆ เหมือนอย่างกับวัตถุโต๊ะนี่ เครื่องอัดเสียงนี่ อาตมาจับให้ดูได้ เพราะมันเป็นวัตถุมันทำงานของมันยังไงเราก็รู้ได้ แต่เรื่องกรรมนี่นอกจากโพธิญาณของพระพุทธเจ้าแล้ว เราหยั่งรู้ไม่ได้ มันเป็นเรื่องของวัฏสงสาร เพราะฉะนั้นเราจะเข้าใจแหละ แต่เราในฐานะที่เป็นพระ เป็นผู้ที่ประพฤติพรหมจรรย์แล้วก็มีเมตตา เราก็อธิษฐานจิตขอเจ้ากรรมนายเวรหรือผู้ที่เขาจะพ้นทุกข์ได้ จัดหนักขอให้เป็นเบา ให้เขาหายจากอาการป่วยอย่างนี้ๆ ที่จริงในพระพุทธศาสนานั้นเราลบล้างกรรมไม่ได้ ใครทำกรรมอย่างใดก็จะต้องรับผลของกรรมนั้น ทั้งดีและชั่ว แต่ก็มีอโหสิกรรมซึ่งสามารถลบล้างได้ คือเจ้าของเขา เจ้ากรรมนายเวรเขาอโหสิให้ เขาไม่ยอมเอาคืนเหมือนเราให้คนยืมเงิน เราบอกไม่เอาคืนหรอก ก็จบกันไป กรรมก็เหมือนกัน เพราะฉะนั้นไอ้จุดที่เราพอจะช่วยได้ เราก็ใช้บารมีของพระพุทธเจ้าด้วย ความสามารถของวิชาธรรมกายของเราที่เราเข้าถึง เหมือนเราขับรถเป็นพูดง่ายๆว่าสามารถบรรทุกคนไปจุดหนึ่ง ไปอีกจุดหนึ่งได้ ให้ถึงฝั่งได้ นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่หลวงพ่อวัดปากน้ำใช้มากและกระทำอยู่เป็นประจำคือการรักษาไข้ คนเจ็บจะมีเยอะนะ สมัยอาตมานี่มีทั้งคนตาบอดก็มาอยู่ในวัด อยากหายจากตาบอด คนเป็นใบ้ก็มี คนพิการ หมายความว่า เออ...เป็นง่อย เป็นง่อยนี่มีเยอะเลย ดูๆแล้วเหมือน หายก็มี ไอ้ที่ดีขึ้นก็มี ที่ตายก็มีตามกรรมของเขาที่จะต้องสิ้นกรรม แต่เขาก็มีความหวังไว้ก่อน เพราะแพทย์ไม่เอาแล้ว หมอบอกรักษาไม่ได้ ตายลูกเดียวให้คนหายก็เยอะนะ
(เรื่องเล่าโดย พระมหาดร.ทวนชัย อธิจิตโต
บุคคลยุคต้นวิชชาเล่ม1)