พระเดชพระคุณพระเทพญาณมหามุนีเคยให้โอวาทไว้ว่า สาเหตุที่ทำให้แต่ละคนมีอาการเจ็บปวดก่อนละสังขารไม่เหมือนกันนั้น ทั้งนี้ก็เป็นเพราะช่วงก่อนที่จะเสียชีวิต แต่ละคนมีวิบากกรรมที่ตามมาส่งผลหลากหลายแตกต่างกันไป ซึ่งถ้าหากบุคคลใดไม่มีวิบากกรรมฝ่ายบาปอกุศลใดๆ ได้ช่องตามมาส่งผลในช่วงก่อนที่จะเสียชีวิตเลยบุคคลนั้นก็จะเสียชีวิตด้วยอาการสงบ คล้ายๆกับคนที่นอนหลับไปเฉยๆ เท่านั้น
แต่ถ้าหากบุคคลใด มีวิบากกรรมฝ่ายบาปอกุศลได้ช่องตามมาส่งผลในช่วงก่อนที่จะเสียชีวิต และวิบากกรรมนั้นก็ยังคงมีกำลังแรงอยู่ ด้วยอำนาจแห่งวิบากกรรมนั้นก็จะส่งผลทำให้บุคคลนั้นต้องเสียชีวิตด้วยเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่า บุคคลนั้นเคยกระทำกรรมดังกล่าวมาด้วยวิธีการอย่างไร
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากบุคคลนั้นเคยฆ่าสัตว์ให้ตายอย่างเฉียบพลันอยู่เป็นประจำ ด้วยวิบากกรรปาณาติบาตดังกล่าวนี้ ก็จะส่งผลทำให้บุคคลนั้นต้องมาเสียชีวิตแบบเฉียบพลันเช่นเดียวกัน เช่น ประสบอุบัติเหตุ รถพลิกคว่ำเสียชีวิตหรือหัวใจวายแบบเฉียบพลัน เป็นต้น แต่ถ้าหากบุคคลนั้นเคยฆ่าสัตว์ให้ตายลงอย่างทรมานอยู่เป็นประจำ ด้วยวิบากกรรมปาณาติบาตดังกล่าวนี้ ก็จะส่งผลทำให้บุคคลนั้นต้องมีอาการเจ็บปวดทุกข์ทรมานก่อนที่จะเสียชีวิต ส่วนว่า จะต้องเจ็บปวดทุกข์ทรมานมากน้อยขนาดไหนนั้น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ
กำลังของวิบากกรรมที่ได้ช่องตามมาส่งผล กล่าวคือ ถ้าหากวิบากกรรมนั้นยังคงมีกำลังที่รุนแรง และได้ช่องตามมาส่งผลอย่างเต็มที่เต็มกำลัง ก็จะส่งผลทำให้บุคคลนั้นได้รับความเจ็บปวดทุกข์ทรมานอย่างหนักก่อนที่จะเสียชีวิต แต่ถ้าหากวิบากกรรมนั้นมีกำลังที่เบาบางเจือจางลงไปบ้างแล้ว ก็จะส่งผลทำให้บุคคลนั้นได้รับความเจ็บปวดทุกข์ทรมานลดน้อยถอยลงไปตามลำดับ
แต่ถ้าหากบุคคลนั้น ได้เคยสั่งสมบุญเอาไว้อย่างเต็มที่เต็มกำลัง และผลแห่งบุญนั้นก็ได้ช่องมาช่วยตัดรอนวิบากกรรมดังกล่าวพอดี ก็จะเป็นผลทำให้อาการเจ็บปวดทุกข์ทรมานของบุคคลนั้น ทุเลาเบาบางลงไปได้อีกมาก จากหนักก็จะเป็นเบา จากเบาก็จะหาย จากร้ายก็จะกลายเป็นดีนั่นเอง
-----------------------------------------------------------------
หนังสือ "วงจรชีวิต ฉบับชีวิตในกามภพ "
พระครูวินัยธรไพบูลย์ ธมฺมวิปุโล