แม่อาจารย์ทองสุข เบือนหน้าหนีไม่อยากมอง ในใจก็นึกว่า แม่พวกนี้แต่งตัวก็ยั่วยวน นี่ไปยั่วยวนกับอะไรมา จึงหน้าตาเป็นอย่างนี้ เสียงร้องโอดครวญดังลั่นไปทั้งศาล ได้ยินเสียงยมบาลท่านตวาด หันไปดูก็เห็นท่าน ยืนกระทืบเท้า มองไปที่เท้าแล้วตกใจ ทำไมเท้ายมบาลจึงโตเท่าเกือบรถยนต์ กระทืบลงไปทีเดียวศาลแทบพัง รู้สึกตัวโยกเหมือนแผ่นดินไหว พวกผู้หญิง 5 คนนั้นหยุดเงียบทันที ไม่กล้าร้อง ไม่กล้าเถียงอีกต่อไป เสมียนเขารายงานว่า คน 5 คนนี้ ชอบกินเหล้า ประพฤติตัวเป็นคนเสเพล ยุแหย่ให้ผู้อื่นกินเหล้าเมายา แล้วทำชั่ว ยมบาลท่านจึงสั่งให้ไปอยู่นรกขุม “ตามโทพนรก” ในขุมนี้ อาจารย์ทองสุขเล่าว่า เมื่อเดินกลับได้แลเห็นสัตว์นรกต้องดื่มน้ำทองแดง ซึ่งละลายออกมาด้วยไฟเผา และสัตว์นรกก็ต้องดื่มอย่างกระหาย กินแล้วก็ตายไป ตายไปแล้วก็เกิดขึ้นใหม่ และต้องกินน้ำทองแดงตลอดปีตลอดชาติจนกว่าจะหมดเวร ซึ่งเห็นแล้วแทบสลบแทนสัตว์นรกนั้นๆ
พอหมดพวกรถคว่ำตายแล้ว ก็มีเจ้าหน้าที่ พาผู้ชายคนหนึ่งเข้ามา อายุประมาณ 60 ปี ท่าทางหยิ่งๆ เสมียนบอกว่า ชายคนนี้เป็นคนฉ้อโกงที่ดิน ของราษฎร์ พวกราษฎร์จนๆ ไปพึ่งพาอาศัยขอยืมข้าวเปลือกไปตกกล้าเพื่อจะได้ทำนา เขาก็ให้พักอาศัยค้างคืน อยู่ในบ้านของเขาและใช้อำนาจทำมิดีร้ายแก่หญิงเป็นกำไรเสียก่อน การให้ยืมข้าวถัง 4 ถัง ต้องใช้ 12 ถังบ้าง 16 ถังบ้าง แล้วแต่คนไหนสวย ไม่สวย ถ้าสวยหน่อยยอมเสียตัวให้ ก็คิดเอาข้าวน้อยหน่อย เขาออกเงินกู้ให้กู้ยืม ชาวนามากู้ยืม 2,000 บาท ต้องลงในใบกู้กว่า 4,000 บาท ถ้าตรงไหนเป็นนาดี เวลาเจ้าของจะเอาเงินไปถ่ายคืน เขาก็ไม่ต้อนรับ ทำเป็นว่าไม่อยู่บ้าง ไม่ให้พบบ้าง จนหมดกำหนด เขาก็ริบเอาเสียเลย เขาโกงด้วยเล่ห์เหลี่ยมอุบายต่างๆ จนมีที่ดินหลายหมื่นไร่ กรรมตามทัน ทำให้ตัวเองเป็นโรคที่กินข้าวไม่ได้ ต้องนอนกินรำมาแล้ว 3-4 ปี จึงตาย
(เรื่องเล่าโดย แม่ชีทองสุข สำแดงปั้น บุคคลยุคต้นวิชชาเล่ม 2)