กวางผู้เปียมเมตตาธรรม

วันที่ 05 กพ. พ.ศ.2559

กวางผู้เปี่ยมเมตตาธรรม

              สาเหตุที่ตรัสชาดกสมัยหนึ่ง ธิดาเศรษฐีมาบวชในสำนักภิกษุณีทางฝักฝ่ายพระเทวทัตโดยไม่รู้ตนว่าตั้งครรภ์ ต่อมาเมื่อครรภ์แก่ พวกภิกษุณีจึงพานางไปหาพระเทวทัต พระเทวทัตกลัวชื่อเสียงเสื่อมเสียจึงให้สึก ภิกษุณีนั้นจึงไปเฝ้าพระโลกนาถ พระองค์รับสั่งให้ตรวจสอบ ภิกษุณีนั้นได้ความบริสุทธิ์ ภิกษุสนทนากันในธรรมสภาว่า พระเทวทัตไม่มีขันติและเมตตา แต่พระศรีศากยมุนีทรงเป็นพระธรรมราชาถึงพร้อมด้วยพระขันติ พระเมตตาและความเอ็นดู พระทศพลเสด็จมายังธรรมสภาทรงทราบเรื่องที่ภิกษุสนทนากันแล้ว ตรัสว่า แม้ในกาลก่อน ตถาคตก็ได้เป็นที่พึ่งแล้วเหมือนกัน เมื่อภิกษุทูลอาราธนา จึงทรงนำเรื่องในอดีตมาตรัสเล่าดังนี้..

 

           ในอดีต มีพระราชาพระองค์หนึ่งทรงว่างจากราชกิจมากจึงมีเวลาล่าสัตว์ได้ทุกวัน ชาวบ้านก็เอือมระอาได้ทุกวัน เหตุนั้นชาวบ้านจึงเอาที่ดินล้อมรั้วเต็มไปด้วยฝูงกวางที่ต้อนเข้ามาไว้มากมายพร้อมสระน้ำทุ่งหญ้าเขียวขจีเสร็จสรรพมอบถวายให้พระราชาเพื่อพวกตนจะได้ทำนาหากินได้อย่างสุขสบายสักที พระราชาทรงเปรมปรีย์รีบรับทันที พระองค์เสด็จไปชื่นชมที่ดิน ทอดพระเนตรเห็นกวางสีทอง 2 ตัวก็เกิดพอพระทัย ไม่อยากฆ่า อยากเก็บไว้ดูมากกว่า รับสั่งพระราชทานอภัยแก่กวางทั้งสองนั้น แต่ตัวอื่นต้องชะตาขาด!

 

              แต่นั้นมา พระราชาทรงฆ่ากวางอย่างเมามัน ฝูงกวางเห็นลูกธนูก็กลัวรนราน บางตัวที่ถูกยิง แต่ยังไม่ตายก็ได้รับบาดเจ็บล้มป่วยไปตามๆ กัน ทั้งหมดต้องอยู่กันอย่างหวาดผวา กินไม่ได้นอนไม่หลับจึงรวมตัวกันไปขอความช่วยเหลือจากกวางจ่าฝูงนามว่า นิโครธผู้เป็นหนึ่งในสองผู้ได้รับประทานอภัย กวางนิโครธคิดอุบายได้อย่างหนึ่ง แต่ทว่าเป็นอุบายไม่ใคร่จะดีพร้อม เนื่องเพราะต้องมีผู้เสียสละ กวางนิโครธเรียกกวางจ่าฝูงอีกฝูงหนึ่ง นามเสขะผู้ได้รับอภัยเช่นกับตนมากล่าวว่า..
"สหายเอ๋ย! ทุกวันนี้ฝูงกวางต้องล้มตายกันเกลื่อนกล่น ในเมื่ออย่างไรทุกตัวในนี้ก็ต้องตายอยู่แล้ว เอาแบบนี้ไหม แต่นี้ไปต้องมีเนื้อผู้เสียสละวันละตัวไปมอบตัวแก่พระราชา วันหนึ่งเป็นฝูงเราอีกวันเป็นฝูงท่านสลับกันไป เช่นนี้เนื้อทั้งหลายจะได้ไม่ต้องอกสั่นขวัญแขวนอีกต่อไป"

 

           กวางสาขะเห็นดีด้วยส่งลูกฝูงสลับวันกันไปให้พระราชา แต่มาวันหนึ่ง เป็นวาระของแม่กวางมีครรภ์ในฝูงของสาขะ แม่กวางเข้าไปอ้อนวอนกวางสาขะขอผัดผ่อนวาระตายไปก่อน เมื่อคลอดบุตรแล้วจึงจะไปรับชะตากรรม ทว่าพญากวางสาขะกลับยืนกรานไม่ยอมท่าเดียว แม่ลูกอ่อนจึงอ่อนใจหมดที่พึ่ง เดินข้ามฝูงไปขอร้องพญากวางนิโครธแทนกวางนิโครธทราบเรื่องนี้แล้ว ดำริว่า..
"อันนักปราชญ์ทั้งหลายยินดีที่จะเกื้อกูลต่อส่ำสัตว์ช่วยผู้ประสบทุกข์ นักปราชญ์ยินดีสละทรัพย์ อวัยวะและแม้ชีวิตเพื่อช่วยผู้อื่นได้ ก็ตัวเรานั้นหวังจะนำพาเหล่าสัตว์เป็นอันมากทั้งที่เป็นมนุษย์และเทวาให้ข้ามพ้นวัฏฏะไปมิใช่หรือ เราจะเอาร่างกายนี้แหละ! ช่วยชีวิตกวางนี้"


กวางนิโครธคิดดังนี้แล้ว จึงกล่าวว่า..
"เจ้าจงสบายใจเถิด เราจะให้วาระของเจ้าข้ามไปเอง"

 

             จากนั้น ตนเดินไปนอนเอาศีรษะพาดบนเขียงพ่อครัวอย่างไม่ครั่นคร้าม แต่พ่อครัวจำกวางอภัยทานนี้ได้ จึงเข้ากราบทูลพระราชา พระองค์เสด็จมาทอดพระเนตรกวางนิโครธทูลเล่าเรื่องราวให้พระราชาทรงสดับจนจบ แล้วกล่าวว่า..
"ข้าพระบาทไม่อาจโยนทุกข์ให้ผู้อื่นมาแทนได้ จึงขอสละชีวิตของตนแทนแม่กวางมีครรภ์นั้นเอง"

 

พระราชาตรัสอย่างเลื่อมใสยิ่งว่า..
"ท่านสุวรรณมิคราช! แม้ในหมู่มนุษย์ เรายังไม่เคยเห็นคนไหนที่เพียบพร้อมด้วยขันติ เมตตาและความเอ็นดูเช่นกับท่านเลย ท่านลุกขึ้นเถิด เราให้อภัยแก่ท่านและแก่แม่กวางนั้นด้วย"


กวางนิโครธกราบทูลขออภัยโทษให้แก่เหล่าสัตว์ทุกชนิด พระราชาทรงรับคำ จากนั้นกวางขอให้พระราชาทรงรักษาศีล 5 ครองราชโดยธรรม และแนะนำต่อไปว่า..
"ข้าแต่มหาราช! ขอพระองค์จงประพฤติธรรมในพระชนกชนนี ในพระโอรสพระธิดา ในพราหมณ์คฤหบดี ในชาวนิคมและชาวชนบท เมื่อทรงประพฤติธรรมสม่ำเสมอก็จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์"

 

กาลต่อมา ลูกของแม่กวางตัวนั้นโตขึ้นวิ่งเล่นได้แล้ว ก็วิ่งไปยังที่อยู่ของพญากวางสาขะมารดาพลันดุลูกว่า..
"ลูก! ตั้งแต่นี้ไปเจ้าอย่าไปตรงกวางสาขะนั่นเป็นอันขาด! แม่อยากให้เจ้าเข้าหาแต่กวางนิโครธเท่านั้นนะลูก เจ้าคบหาแต่กวางนิโครธเท่านั้นแหละดี ถ้าเจ้าต้องตายในฝูงกวางนิโครธก็ยังประเสริฐกว่าการมีชีวิตอยู่ในฝูงกวางสาขะนั่นเลย"

 

              กาลชื่นสุขของกวางทั้งหลายที่ได้รับอภัยทานผ่านไปได้ไม่นาน ชาวบ้านก็คิดอยากกำจัดกวางเหล่านี้เสียเอง เพราะเมื่อกวางได้รับอภัยทานแล้ว ก็เที่ยววิ่งเล่นกัดกินข้าวกล้าของชาวบ้านอย่างสนุกสนาน จนชาวบ้านต้องเดือดร้อนกันทั่ว ถึงกระนั้นชาวบ้านก็ไม่กล้าฆ่าหรือไล่กวางไปเพราะเป็นกวางพระราชทานอภัย พวกชาวบ้านจึงพากันมาประชุมที่พระลานหลวง กราบทูลความนั้นแด่พระราชา พระราชาตรัสอย่างจนปัญญาว่า..
"เราเลื่อมใสให้พรแก่กวางนิโครธไปแล้ว ถึงเราจะต้องสูญสิ้นราชสมบัติก็จะไม่ยอมทำลายปฏิญาณนั้น ท่านทั้งหลายจงกลับไปกันเถิด ห้ามใครทำร้ายกวางทั้งหลายในแว่นแคว้นของเราเด็ดขาด!"กวางนิโครธได้สดับเหตุการณ์นั้นแล้ว รีบประชุมหมู่กวางโดยด่วน ขอร้องทุกตัวมิให้ไปกินข้าวของชาวบ้านอีก เหตุการณ์กลับมาสงบสุขดังเดิม ฝ่ายพระราชาก็ทรงตั้งอยู่ในศีลมั่นคง และทรงหมั่นทำบุญทั้งหลาย สืบไป..


ประชุมชาดก
             พระทศพลทรงประชุมชาดกว่า กวางสาขะครั้งนั้นมาเป็นพระเทวทัต แม่กวางมาเป็นพระเถรีลูกกวางมาเป็นพระกุมารกัสสปะ พระราชามาเป็นอานนท์ กวางนิโครธมาเป็นตถาคตแล

 

             จากชาดกเรื่องนี้ กวางนิโครธมีเมตตาเห็นแก่ส่วนรวมมากกว่ารายบุคคล แม้ต้องยอม
ให้ตายไปหนึ่งแต่เพื่อรักษาร้อยก็ยอมตัดใจความเมตตาจึงมุ่งถือประโยชน์หมู่มากเป็นสำคัญ

 

              ความเมตตาต้องมีให้เสมอกันทั่วหน้า มิใช่รักจนลำเอียงหรือเคืองจนชิงชัง หากแม่กวางสาวอ้อนว้อนขอให้พญากวางยกเลิกกฎที่ส่งกวางไปตาย ถ้าพญากวางใจอ่อนเพราะนางกวางตัวเดียวก็จะสิ้นความเมตตาในผู้อื่น จนมองข้ามความสุขของทุกตัวไป ในที่สุดทุกตัวก็ต้องกลับมาถูกฆ่าสังหารอีกมากมาย ฉะนั้นหากความเมตตาแปรเปลี่ยนเป็นความใจอ่อน หรือกระทั่งกลายเป็นราคะไปฉิบ ก็ให้รีบวางอุเบกขาเสีย แล้วตั้งจิตไว้ในเมตตาต่อสรรพสัตว์ให้เสมอกันดังเดิม ดุจดั่งกวางนิโครธที่นอกจากจะนึกถึงพรรคพวกของตนแล้ว ยังคำนึงถึงความสุขของสัตว์ทุกชนิด กระทั่งเป็นกัลยาณมิตรสอนธรรมแด่พระราชา และเมื่อบริวารของตัวไปก่อเรื่องกับชาวบ้าน ก็ไม่ถืออำนาจที่ได้จาก พระราชาแล้วปล่อยให้บริวารได้ใจ ยังคำนึงถึงชาวบ้านที่เดือดร้อนมากกว่าความสุขของบริวารตน หาทางแก้ไขให้ชาวบ้านได้เป็นสุข หากรักแต่พวกพ้องของตนจนไปเดือดร้อนพวกอื่น นับว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว ไร้ความเมตตา เพราะยังไม่ปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุข

"นิสัยเกื้อกูลต่อทุกคน, ปรารถนาดีต่อผู้อื่นโดยทั่วกัน, ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง, ใจกว้างขวาง,
ไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก, ไม่รักแต่พวกพ้องตน และยอมตายก็ไม่ยอมหยิบยื่นทุกข์ให้ผู้อื่น" ทั้งหมด
นี้จึงนับเป็นนิสัยในวิถีนักสร้างบารมีที่นับเนื่องเข้าในเมตตาบารมี

-----------------------------------------------

SB 405 ชาดก วิถีนักสร้างบารมี

กลุ่มวิชาพุทธวิธีในการพัฒนานิสัย

 


 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0011078516642253 Mins