หลวงพ่อสอนอะไร (ตอนที่ ๕๒)
ปิดทางถอย
ในการเดินทางหากมีเส้นทางให้เราเลือกหลายเส้นทาง แม้จะเป็นเรื่องที่ดีที่มีหลายทางเลือก แต่ในอีกมุมมองหนึ่งนั่นก็คือ การเสียเวลาที่ต้องมานั่งคิดพิจารณาว่าจะเลือกเส้นทางไหน
ในการดำเนินชีวิตของเราก็เช่นกัน หากถึงจุดหนึ่งของชีวิตที่ต้องตัดสินใจให้เด็ดขาด หากเรามีทางเลือกหลายเส้นทาง แทนที่จะมุ่งไปข้างหน้าโดยไม่ลังเล ก็อาจทำให้เราต้องเสียเวลาในการประมวลผลอะไรอีกมากมาย
ในวันที่อาตมาต้องตัดสินใจว่าจะบวชต่อหรือจะสึกดี มีเส้นทางให้เลือกอยู่ ๓ ทาง คือ
๑. บวชต่อไป
๒. ไปเป็นทนาย
๓. ไปทำงานที่หน่วยงานหนึ่งเรียกตัวมา
ในขณะที่ผลการปฏิบัติธรรมก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า เพราะเพิ่งเข้าวัดได้เดือนเดียวแล้วก็บวช ข้อมูลเรื่องการเป็นนักบวชก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย เส้นทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ หากเป็นพวกเราจะตัดสินใจอย่างไร
คงเป็นบุญเก่าของอาตมาที่จะได้อยู่ในร่มเงาบวรพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย จึงได้มีโอกาสฟังธรรมจากหลวงพ่อและพระอาจารย์ ทำให้มีข้อมูลในการประมวลผล
“ เจ้าชายสิทธัตถะ ท่านเป็นผู้ที่สมบูรณ์พร้อม มีปราสาทถึง ๓ ฤดู แวดล้อมไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกทุกสิ่งทุกประการ แทบจะเรียกได้ว่าเหมือนอยู่ในสวรรค์บนโลกมนุษย์ แต่เมื่อท่านได้เห็นเทวทูตทั้ง ๔ เห็นทุกข์จากการแก่ การเจ็บ การตาย และเห็นนักบวช ท่านก็เห็นแล้วว่า ชีวิตของท่านจะเป็นอย่างไร ตัดสินใจทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไม่หันหลังกลับ เพราะเห็นแล้วว่า ทั้งโลกนี่ เว้นจากท่านเอง ไม่มีใครแล้วจะค้นพบทางพ้นทุกข์ได้ ”
คำสอนของหลวงพ่อทัตตชีโวดังก้องอยู่ในหูทั้งวัน ประกอบกับพระอาจารย์ก็มาตอกย้ำว่า หากหลวงพ่อทั้งสองจะเอาดีทางโลก เส้นทางชีวิตของท่านก็มีแต่ความสำเร็จ มีแต่ความเจริญก้าวหน้า แต่ท่านทั้งสองก็เห็นประโยชน์จากการบวช จึงทิ้งสิ่งเหล่านั้น มาสร้างวัด นำพาหมู่คณะสร้างบารมี จึงทำให้อาตมาตัดสินใจเด็ดขาดว่าขอเลือกเส้นทางนี้
เมื่อตัดสินใจบวชต่อแล้ว สิ่งที่อาตมาได้ยินจากหลวงพ่อทั้งสองที่แตกต่างจากครูบาอาจารย์ท่านอื่นคือ เป้าหมายของการบวช
โดยทั่วไปจะได้ยินเขาสอน ๆ กันว่า เมื่อบวชอยู่ก็ให้ปฏิบัติให้ดี จะได้เป็นพระที่ดี เมื่อสึกไปก็จะได้เป็นฆราวาสที่ดี แต่สำหรับหลวงพ่อทั้งสองแล้ว ท่านปิดทางถอยเลย
“แม้แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา เวียนว่ายตายเกิดมานับภพนับชาติไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเกิดเป็นพระราชามหากษัตริย์ก็ดี เป็นสามัญชนก็ดี ตอนสุดท้ายพระองค์ก็สละราชสมบัติ ออกบวชบำเพ็ญพรต ครองผ้ากาสาวพัสตร์เป็นชุดสุดท้าย ก่อนไปอายตนนิพพาน เหมือนเป็นชุดที่รวมบุญ รวมบารมี รวมคุณความดีทั้งหมดมาสู่ชุดนี้...
ชุดนี้สำคัญ ต้องรักษาเครื่องแบบชุดนี้ให้ยิ่งกว่าชีวิตคือ ตายได้ แต่ว่าเครื่องแบบนี้ จะต้องรักษาไว้อยู่แนบกาย เป็นชุดที่มนุษย์ เทวดา เคารพกราบไหว้ เป็นชุดที่พระราชามหากษัตริย์สละราชสมบัติมานับภพนับชาติไม่ถ้วนเลย เพื่อที่จะมาครองเพศนี้ ครอง เครื่องแบบชุดนี้...”
เป็นโอวาทที่หลวงพ่อธัมมชโย จะตอกย้ำลูกพระลูกเณรเพื่อให้มั่นคงในเส้นทางการสร้างบารมีอยู่เสมอ
หลวงพ่อทัตตชีโว เคยให้โอวาทก่อนที่อาตมาจะเดินทางไปทำงานที่อเมริกาไว้ว่า
“ ในเส้นทางการสร้างบารมีของหลวงพ่อเอง มีแต่เดินหน้าไม่มีถอยหลัง เอ็งก็เช่นกัน เมื่อไปทำงานที่โน่น ก็ให้เดินหน้าอย่าถอยหลัง ให้ทำเหมือนเจ้าชายสิทธัตถะ ควบม้าได้ ไม่มีเหลียวหลัง เพราะฉะนั้น ให้เอ็งไปปักหลักอยู่ที่โน่น อย่าคิดกลับมาตายเมืองไทย ”
เพราะการให้นโยบายที่ชัดเจนของหลวงพ่อทั้งสองจึงทำให้ลูกพระลูกเณร มีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจนมั่นคง มุ่งเดินตามรอยบาทพระบรมศาสดาจนกว่าชีวิตจะหาไม่
ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก
อาสภกันโต ภิกขุ
๑๓ ก.ย. ๕๙
anacaricamuni.blogspot.ae