เรื่องที่ ๒ "อดทน" หรือ "ทนอด' (ช่วงที่ ๑ เรื่องเล่า...ของพี่ชายคนหนึ่ง)
"นอกจากป็ญญาแล้ว ตถาคตสรรเสริญว่า ขันติ
เป็นคุณธรรมอย่างยิ่ง"
นี่เป็นพระดำรัสของพระสัมมาล้มพุทธเจ้าที่
แสดงให้เห็นว่า ถ้าหากไม่มีความอดทนเป็นพื้นฐาน
ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้
ใช่แล้วคร้บ วันนี้ผมนำเรื่อง ความอดทน ซึ่งเป็นคุณธรรมสำคัญ ที่ขาดไม่ได้ในการ
แสวงหาความรู้ เพื่อเพิ่มพูนปัญญาให้แก่ตัวของเรามาเล่าให้ฟังคร้บ
คำ ว่า "อดทน" มีความหมายแยก เป็น๒คำ คือ
"อด" เป็นอาการที่อยากจะได้ แต่ไม่ได้
"หน" เป็นอาการที่ไม่อยากได้ แต่ต้องได้
เพราะฉะนั้น คำว่า "อดทน" จึงหมายถึง การรักษาภาวะปกดิของตนไวํได้แม้จะถูก
กระทบกระทั่งจากสิงที่ปรารถนาห่รือไม่ปรารถนาก็ตาม
แน่นอน น้องๆ ที่มาเรียนหน้งสิอในทุกวันนี้ คงอยากจะรู้ว่า ตัวเองมีความอดทนใน
การคืกษาเล่าเรียนเพียงไหน ลองตามมาดูตัวอย่าง บางช่วงชีวิตของพื่ที่จำเป็นต้องอดทน
เพื่ออนาคตกันบ้างครับ จะได้ลองนำ มาเปรียบเทียบกับความโชคดีของน้องๆ และเป็น
เครื่องกระตุ้นเตือนใจ ให้หมั่นคืกษาเล่าเรียนเพิ่มขึ้นครับ
อดทนต่อควาบลาบากตรากตรำ
ฤดูหนาวของจังหวัดเชียงใหม่ อากาศจะหนาวจัด เพราะเป็นเมืองในหุบเขา ด้านทิศตะวัน
ตกมีดอยสุเทพตระหง่านเป็นปราการหลังอยู่ เมื่อมีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุม
มาจากประเทศจีน ทำให้อุณหภูมิลดตํ่าลงมาก จนทำให้ศรูเสาวภา ครูประจำชั้นประถมปีที่๗
ของผม ซึ่งย้ายภูมิสำเนามาจากภาคใต้ท่านแพ้อากาศ ไม่มีเสียงพูดเลย ต้องใช้การจดบน
กระดานดำ หรีอภาษาใบ้สอนน้กเรียน น่าเห็นใจมากคร้บ ตัวของผมเอง ด้วยความจนบังคับ
จึงต้องไปช่วยพ่อแม่ค้าขาย
ในตอนกลางคืน กลับถึงบ้านก็ประมาณเที่ยงคืนเป็นอย่างน้อย แต่ด้วยนิลัยรักการอ่านการ
เรียนรู้ ก็จะต้องนั่งอ่านหนังสือที่โต๊ะซึ่งคุณพ่อต่อให้ใช้ทำการบ้านทุกคืน อ่านเรื่อยมา จนถึง
ตีสามตีสี จึงทำให้รู้ว่าอากาศที่เชียงใหม่จะเย็นจัดในช่วงใกล้รุ่งนี้เอง
อากาศที่เย็นจัดอย่างนี้ ทำ ให้นี้วมือนิ้วเท้าพลอยเป็นปัญหาขยับไม่ค่อยได้ ผมก็เลย
ต้องต้มนํ้าร้อนใส่ถัง แล้วผสมนํ้าให้อุ่นมาไว่ใต้โต๊ะเพี่อใช้แช่เท้า และเอาผ้านวมคลุมตัว
ไว้ โผล่แต่ศรีษะออกมา ก็เลยทำให้อ่านหนังสือต่อไปไต้ ไม่รู้ว่าน้องๆ สมัยนี้ อ่านหนังสือ
ลำบากลำบนอย่างนิบ้างไหม ถัานัองอ่านสบายกว่าผมล่ะก็ นับว่าเป็นบุญเป็นโชคของน้อง
แล้ว ควรที่จะเอาใจใส่ ตั้งใจหมั่นคืกษาเล่าเรียนให้เต็มที่ครับ
แต่ทว่า เรื่องนี้ก็เป็นความอดทนในระต้บที่เรียกว่า ความอดทนต่อความลำบากตราก
ตรำทางกาย เป็นความอดทนระดับต้นเท่านั้น ยังมีความอดทนที่ยิ่งกว่าที่เราจะต้องฝึกฝนต่อ
ไป
อดทนต่อทุกขเวทนา
ความอดทนในระดับสูงขึ้นมาอีก เป็นความอดทนต่อทุกขเวทนาซึ่งผมไต้เคยเล่าให้น้องๆ
ฟังในคราวก่อน คือ แม้จะไม่สบายเพียงไหนถ้ายังลุกไหว ก็จะไปเรียนให้ไต้ เพราะถ้าไม่
ได้เป็นโรคอะไรที่ร้ายแรง ยังไงเสืยก็คงไม่ตาย เมื่อไม่ตาย แล้วเราจะมานอนชมอยู่ทำไม
ด้วยเป้าหมายในใจที่จะตั้งใจเรียนหนังสือให้ไต้ที่หนึ่งให้ไต้ เราต้องไปเรียนไปเพี่อตัวเรา
อย่าคิดว่า สิ่งที่เราทำนี้ เพี่อคนอื่น ต้องคิดว่าเป็นการกระทำเพี่อฝึกฝนตัวเองทั้งนั้น ทำให้
ในสมุดบันทึกเวลาเรียนนั้น ผมไม่เคยขาดเรียนเลย ในชั้นประถมต้น แม่ให้เงินมาโรงเรียน
วันละ ๑ บาท เป็นค่าอาหารทั้งเช้าและกลางวัน ค่าอาหารที่โรงเรียนจานละ ๑ บาท ถ้ากิน
อาหารเช้า ก็ต้องอดอาหารกลางวัน ส่วนขนมก็ไม่ต้องพูดถึง นั่นก็หมายความว่า ผมต้อง
เลือกมื้อใดมือหนึ่งนั่นเอง ผมเลือกเก็บเงินไว้ซื้อกินมื้อกลางวันครับ เพราะฉะนั้น มื้อเช้า
ต้องยอม "อด"
ระหว่างพักเรียนช่วงสิบโมงเช้า ผมต้องรีบใปที่ก็อกประปาของโรงเรียน ซึ่งต่อ
กับท่อนํ้าขนาด ๒ นิว ต่อยาวๆ มืรางคอนกรีตรองรับนำช้างล่าง มืก๊อกเรียงเป็นแถว
แล้วกินนํ้ากลั้วท้องเป็นเวลาหลายๆ ปี จนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัยด้วยนํ้าหนักตัว ๔๕
กิโลกรัมเท่านั้น ความหิวโหยเป็นอย่างไร นึกภาพออกเหมือนราวกับเกิดขึ้นไม่นานนี้
น้องๆ สมัยนึ้โชคดี พ่อแม่มืให้กินครบมื้อ หรือมากกว่าเลือก ขอให้อย่าลืม
เผื่อแผ่คนที่ขาดแคลนบ้างนะครับ
อดทนต่อการกระทบกระทั่ง
ความอดทนในระดับสูงขนมาอีกเรียกว่า อดทนต่อการกระทบกระทั่ง ถ้ามืคนตั้งแต่
สองคนขึ้นไป ก็มีโอกาสที่จะกระทบกระทั่งกันแน่นอน และสิงที่ทำให้เจ็บใจมากที่สุดคง
ไม่มีอะไรเกินคำพูด
คำพูดแม้เป็นเพียงลมปาก แต่จะพูดให้คนใจตกหมดกำลังใจ หรือมีกำลังใจในการ
ทำความดี ก็ได้หลวงพ่อของผมท่านสอนว่า ไม่ว่าจะเป็นการพูด การเขียนก็ตาม ถ้าท่า
ให้คนฟ้งหรีอคนอ่านทำความดีเพิ่มขึ้นให้เรารีบท่าทันที ไม่ต้องรีรอ ซึ่งผมถึอเป็นข้อ
คิดตลอดมา จึงมาเขียนเล่าเรื่องต่างๆ ให้น้องๆ ฟ้ง เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่มา
อ่านพบและนำไปคิดประยุกต์ใช้ในชีวิต
ผมอยู่เกือบ ๑๐ ปี จนวันหนึ่ง คุณพ่อ
คงรำคาญ เลยย้อนกลับมาว่า "ถ้าคิดว่า
บุหรี่ไปดี ลูคอย่าลูน อย่ากาตาบได้ไหบ"
พบตอนทันทีว่า "ได้ครับ" และด้วยความ
มั่นใจในกำลังไจของตนอง จึงกล่าวเสริมไป
ว่า "ผมจะไปลูบบุหรี่ตลอดชีวิตครับ"
ในชีวิตการเรียน ก็ต้องมีสิงที่มากระทบกระทั่งอยู่บ้าง การสอบได้ที่หนึ่ง ก็นำมาซึ่ง
ความหมั่นไต้ อิจฉา ริษยาจากเพื่อนนักเรียนบางคนเช่นกัน ซึ่งผมคิดว่า ก็เป็นธรรมดาของ
คนที่ยังมีกิเลสอยู่ มีการกลั่นแกต้งต่างๆ นานา บางครั้งก็พูดกระทบไปถึงโคตรเหง้าว่า
เป็นเจ๊กจีน มาอาต้ยแผ่นดินเขาอยู่บ้าง
เดี๋ยวนี น้องๆ ที่มีเชื้อสายจีน โชคดีมาก ไม่ค่อยมีใครเอาเรื่องเชื้อชาติมาเป็นข้อ
ตำหนิกัน ผิดกับสมัยก่อนที่นำมาเป็นคำด่าทอกัน แม้ว่าจะถูกด่า ผมก็มีข้อคิดที่ตั้งอยู่
ในใจไว้ว่า "เขาด่าเราไม่ละลาย ทองแท้ต้องไม่กลัวไฟ"
คำพูดของคนไม่รู้ไม่อาจทำลายความดีที่เราตั้งใจทำได้ เหมือนพระสัมมาสัมพุทธ
เจ้าที่ทรงโดนใส่ความ ใส่ร้ายหนักหนาสาหัสเพียงไหนพระองค์ท่านก็ไม่หวั่นไหว ทรงเป็น
ด้นแบบเรื่องความอดทน ต่อการกระทบกระทั่งได้ อย่างน่ายกย่องยิ่งนัก ความอดทนย่อม
เป็นเครืองวัดคุณธรรมที่สำคัญอย่างหนึ่งของคนเราครับ
อดทนต่ออำนาจกิเลส
ความอดทนในระดับสูงสุด คือ อดทนต่ออำนาจกิเลสที่มาเย้ายวนใจ เพี่อนๆ สมัย
เรืยนเป็นจำนวนมาก ชอบมั่วสุมกันตามห้องนํ้าชาย แอบสูบบุหรื่กันควันโขมงทีเดียว
เวลาไปเข้าห้องน่าทุกครัง ก็ได้แต่มองด้วยความเห็นใจ เพราะเราไม่สามารถช่วยอะไร
เขาได้ เวลาครูฝ่ายปกครองมาตรวจที ก็วิ่งหนีกันกระเจิง ดูแล้วน่าสมเพช ทำ ให้ผมเห็น
โทษภัยของยาเสพติด ตั้งแต่ตอนเป็นเด็กนักเรืยน ตั้งแต่นั้นมาผมตั้งใจว่าจะไม่สูบบหรื่
กินเหล้า เล่นการพนันตลอดชีวิต และก็ทำได้สำเร็จจนทุกวันนี้
และบุญใหญ่ที่ผมภูมิใจจนทุกวันนี้ก็คือ การพูดให้คุณพ่อของผม"เลิกบุหรี่" ได้
พ่อติดบุหรื่จัด ต้องสูบวันละ๑ซอง (ประมาณ ๒๐ มวน} ทุกๆวัน ผมจะคอยเฝ้าพูด
โทษของบุหรื่ เอารูปคนที่เป็นโรคลุงลมโปงพองไปให้ดูบ้าง ผมพูดอยู่เกือบ ๑๐ ปี จน
วันหนึ่ง คุณพ่อคงรำคาญ เลยย้อนกสับมาว่า "ถ้าคิดว่าบุหรี่ไม่ดีลูกอย่าสูบอย่าทำตาม
ได้ไหม"ผมตอบทันทีว่า "ได้ครับ" และด้วยความมั่นใจในกำลังใจของตนเอง จึงกล่าว
เสํริมไปว่า"ผมจะไม่สูบบุห่รี่ตลอดชีวิตครับ"พ่อเลยโยนบุหรื่ที่เหลือเข้าเตาไพ่เลิก
สูบจนทุกวันนี้ ผมก็ถือเป็นสัจจะมาตลอดเช่นกัน
น้องๆ ล่ะครับ ความอดทนที่อยู่ในตัวของน้อง รอวันที่น้องจะแสดงออกมาเป็น
รูปธรรม ให้เป็นความดีที่น่ายกย่อง แล้วน้องจะภูมิใจในตัวเอง เหมือนที่ผมได้ทำ
สำเร็จมาแล้วความอดทนคือ ความอดกลั้นถือเป็นตบะอย่างยิ่ง และเป็นมงคลอัน
สูงสุดที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในชีวิตของทุกๆ คนนะครับ