เนื่องในวโรกาส พระเดชพระคุณสมเด็จพระญาณวโรดม มีชนมายุ ๙๑ปี ในวันศุกร์ที่ ๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐ นี้ ในความเป็นพระมหาเถระผู้ยิ่งด้วยภูมิรู้และภูมิธรรม ผู้ยังคุณูปการแก่สังฆมณฑล ด้วยคุณธรรมอันงดงามที่ท่านสั่งสมและน้อมนำเป็นแบบอย่าง จนเป็นที่ประจักษ์มายาวนาน พระเดชพระคุณสมเด็จฯ จึงเป็นที่เคารพรักยังความศรัทธาให้มีขึ้นทั้งในพระภิกษุสามเณร ตลอดจนศิษยานุศิษย์มากมายเสมอมา
สมเด็จพระญาณวโรดม (ประยูร สนฺตงฺกุโร) ป.ธ.๙ นามเดิม ประยูร นามสกุล พยุงธรรม บิดาชื่อ ธูป มารดาชื่อ ทองหยิบ เกิดเมื่อวันศุกร์ เดือน ๔ แรม ๒ ค่ำ ปีมะโรง พ.ศ. ๒๔๕๙ ตรงกับวันที่ ๙ มีนาคม ๒๔๕๙ ที่บ้านท่าเรือ อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี
ได้มาพำนักที่วัดเทพศิรินทราวาส ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๗๔ และได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๖ โดยมี สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวรเถร) เป็นพระอุปัชฌาย์ ณ วัดเทพศิรินทราวาส และได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ โดย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวรเถร) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอุดมศีลคุณ (อินทร อคฺคิทตฺตเถร) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูวินัยธรเพ็ชร (ปภงฺกรเถร) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ มี หม่อมเจ้าหญิงกรณิกา จิตรพงศ์ พระธิดาในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงเป็นอุปัฏฐากเจ้าภาพบวช ณ พัทธสีมา วัดเทพศิรินทราวาส ได้ฉายาว่า "สนฺตงฺกุโร" ซึ่งแปลว่า หน่อหรือเชื้อสายหรือทายาทของผู้สงบ และได้อยู่จำพรรษาที่วัดเทพศิรินทราวาสตลอดมา
พระเดชพระคุณสมเด็จพระญาณวโรดม ได้เริ่มศึกษาเมื่ออายุราว ๖ ขวบโดยมีบิดาเป็นผู้สอน ต่อมาได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนประชาบาลประจำอำเภอประจันตคาม เมื่อพ.ศ. ๒๔๖๘ จบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๒ ครั้งนั้นชั้น ป.๕ เป็นชั้นสูงสุดของการศึกษาในอำเภอนั้น เมื่อบรรพชาอุปสมบทแล้วได้ศึกษาด้านปริยัติศึกษาแผนกธรรม ได้นักธรรมชั้นเอก และแผนกบาลี ได้ ป.ธ.๙ สำหรับภาษาสันสกฤตนั้น พระเดชพระคุณสมเด็จฯ ได้เคยศึกษากับนาคะประทีบ ร่วมกับเพื่อนร่วมรุ่นกันคืออาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ และ สมเด็จพระวันรัต (นิรันดร์ นิรนฺตโร ป.ธ.๙) จนแตกฉานในวรรณคดีสันสกฤต
สมณศักดิ์ พ.ศ.๒๔๙๕ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระศรีวิสุทธญาณ
พ.ศ. ๒๕๐๐ เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชสุมนต์มุนี
พ.ศ. ๒๕๐๕ เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่ พระเทพกวี
พ.ศ. ๒๕๑๕ เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ที่ พระธรรมธัชมุนี
พ.ศ. ๒๕๒๘ เป็นพระราชาคณะชั้นเจ้าคณะรองหิรัญบัฏ ที่พระญาณวโรดม
วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๖ ทรงพระกรุณาโปรดฯ สถาปนา ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะสุพรรณบัฏ ที่ สมเด็จพระญาณวโรดม
ตำแหน่งหน้าที่การงาน และผลงานมีมากมาย ด้านปกครอง เป็นเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทร์ เป็นพระอุปัชฌาย์ เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม เป็นผู้ริเริ่มโครงการต่างๆ ในคณะสงฆ์กว่า ๑๐๐ โครงการ รวมทั้งงานเผยแผ่พระศาสนา การเดินทางไปต่างประเทศจนครบ ๖ ทวีป ๔๕ ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นทวีปเอเชีย ยุโรป อเมริกา แอฟริกา ออสเตรเลีย เป็นต้น งานเผยแผ่ภารกิจของพระธรรมทูตในต่างประเทศ ในฐานะประธานที่ปรึกษาสำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธรรมยุต)
ผลงานทางด้านวรรณกรรม ได้เรียบเรียงและจัดพิมพ์หนังสือเรียน หนังสือธรรมะ หนังสือท่องเที่ยวอิงธรรมะ (แบบใหม่ อ่านเข้าใจ สนุกสนาน ไม่น่าเบื่อ) หนังสืออ่านสำหรับวัยรุ่น รวมทั้งผู้เฒ่า กว่า ๓๐ เล่ม บางเล่มได้รับการแปลเป็นภาษาต่างประเทศก็มี พระเดชพระคุณสมเด็จฯ เป็นผู้คงแก่เรียน และเป็นนักเขียนฝีมือดีท่านหนึ่ง ผลงานทางวิชาการของท่านมีมากมาย ได้แก่ ชุดแบบเรียนไวยากรณ์สันสกฤต ๕ เล่ม จัดพิมพ์โดยมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หนังสือชื่อ ศาสนาต่างๆ ซึ่งมีเนื้อหาในแนวศาสนาเปรียบเทียบ ครอบคลุมทั้งพระพุทธศาสนา, ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู, ศาสนาสิกข์, ลัทธิขงจื้อ, ลัทธิเต๋า, ศาสนาชินโต, ศาสนาโซโรอัสเตอร์ ฯลฯ
ด้านการศึกษาของพระสงฆ์นั้น พระเดชพระคุณสมเด็จฯ รับธุระเป็นอุปนายกสภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย โดยมหาวิทยาลัยได้อาศัยพระมหาเถระและพระเถระที่มีความรู้ความสามารถช่วยกันพัฒนามาโดยลำดับ จนถึงยุคปัจจุบัน สมเด็จพระญาณวโรดม อุปนายกสภามหาวิทยาลัย มีส่วนสำคัญยิ่งในการสนับสนุนให้มหามกุฏราชวิทยาลัยเติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังได้รับเมตตาเป็นอาจารย์สอนประจำวิชาในมหาวิทยาลัยจนถึงปัจจุบันนับเป็นคุณูปการต่อมหาวิทยาลัยอย่างยิ่ง
และ ณ ห้องประชุมใหญ่ มมร. พระเดชพระคุณสมเด็จฯ มีโอกาสได้ประทานโอวาทแก่ผู้เข้าถวายสักการะ มีใจความโดยสรุปเป็นนิทานเชิงปรัชญาธรรมะว่า” เรามีเพื่อนอยู่สามคน คนแรกรักเรามากที่สุด คนที่สองรักเราพอประมาณ ส่วนคนที่สามไม่ค่อยจะสนใจเราเท่าที่ควร ท่านหมายความว่า คนแรกหมายถึงชื่อเสียง เกียรติยศต่างๆ เปรียบเสมือนคนที่รักเรามากที่สุดและเราก็รักเขามากที่สุดด้วย แต่สิ่งนี้เป็นเพียงโลกธรรมย่อมมีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นธรรมดา คนที่สอง หมายถึงบุตรภรรยาซึ่งรักเราพอประมาณ ถ้าเราดีก็ดีตอบ ถ้าเราประพฤติตัวไม่ดี ครอบครัวก็แตกแยก ไม่มีความสุขและอยู่กับเราเพียงแค่มีชีวิตอยู่ ส่งเราได้เพียงถึงป่าช้าเท่านั้น ส่วนเพื่อนสุดท้ายคือ ความดีและความชั่ว ซึ่งเราไม่ค่อยสนใจเท่าไรนัก แม้ว่าจะอยู่กับเราตลอดไป และเรามีโอกาสที่จะทำดีหรือชั่วได้ตลอด หากเรามีจิตเป็นกุศลก็ย่อมจะนำไปสู่การกระทำคุณงามความดี ในทางตรงกันข้าม ถ้าเรามีจิตเป็นอกุศล ก็ย่อมจะเป็นเหตุให้เราทำชั่ว ขอให้เราท่านทั้งหลายหมั่นทำคุณงามความดีไว้ เพราะความดีจะเป็นผู้ติดตามเราไปทุกภพทุกชาติ”
ศิษยานุศิษย์ต่างน้อมนำไปปฏิบัติตามด้วยความเคารพให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองต่อไป และในวโรกาสคล้ายวันเกิด ๙๑ ปี ของพระเดชพระคุณสมเด็จพระญาณวโรดม ด้วยอำนาจบารมีธรรมแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย ดลบันดาลให้ได้สุขภาพแข็งแรง มีบารมีเพิ่มทวีคูณ เป็นหลักชัยแห่งพระพุทธศาสนาทั้งภายในและต่างประเทศ มีชนมายุยืนยาว เป็นร่มโพธิ์แก้ว ของศิษยานุศิษย์ตลอดกาลนาน...
ทั้งนี้นับเป็นโอกาสได้ร่วมกันบำเพ็ญบุญ น้อมถวายแด่พระเดชพระคุณสมเด็จฯ และเข้ากราบแสดงมุทิตาสักการะพระเดชพระคุณสมเด็จฯ ตามโอกาสต่อไป
โดย..ดุสิตา