ปรโลกมีจริง
ชีวิตในปรโลก ถ้ามีบุญมากก็ไปมีความสุขในสุคติโลกสวรรค์มาก บางท่านท่องเที่ยวอยู่ในโลกสวรรค์เลย คือจากสวรรค์ชั้นหนึ่งไปชั้นสอง สองไปสาม ไปสี่ ไปห้า ไปหก หกแล้วย้อนลงมาใหม่ หลายเที่ยวก็มี เที่ยวเดียวก็มี อย่างนี้เขาเรียกว่า ท่องอยู่ในสวรรค์
ตรงกันข้าม ถ้าบาปมากก็ท่องในอบายยาวนานทีเดียว ในมหานรกขุมต่าง ๆ จากขุมนี้ไปขุมโน้น ขุมโน้นไปขุมนี้ ขุมใหญ่ไปขุมบริวาร ขุมบริวารไปขุมใหญ่อีกแล้ว หรือขุมใหญ่ไปขุมใหญ่ หรือขุมบริวารไป
ขุมบริวาร สลับกันไปมา หรืออยู่ในขุมเดียวกันแต่ว่าต่างกรรมต่างวาระกันเจอกันอีก หลุดจากนี้ไปเจอโน้น หลุดโน้นไปกันต่อ ๆ กันไป
กว่าจะมาเกิดเป็นมนุษย์ได้ก็เป็นเวลายาวนาน และพอจะมาเป็นมนุษย์ ตอนก่อนจะมาเกิดก็ตัดสินกันที่บุญกับบาปอีก มีบุญก็มาเกิดในตระกูลที่ดี ชีวิตเริ่มต้นก็จะดี สดใส เหมือนดอกไม้ที่เบ่งบานไม่มีหนอนชอนไช แต่ถ้าบาปเป็นชนกกรรมนำมาเกิด ก็เหมือนกับดอกไม้ที่เหี่ยวเฉา
ตายในครรภ์บ้าง คลอดออกมาตายบ้าง หรือเกิดในตระกูลที่ลำบากยากจน บ้าง อย่างนี้เป็นต้น
และในระหว่างทาง จะมีสุข มีทุกข์ ชีวิตจะขึ้นจะลง เจริญหรือเสื่อม ก็ขึ้นอยู่กับบุญบาปที่ทำมาจากในอดีตนั่นแหละคอยพัดผัน
ถ้าโชคดีเจอกัลยาณมิตรมาแนะนำทำให้เราเข้าใจชีวิตได้แจ่มแจ้ง แล้วก็กลับเนื้อกลับตัวได้ สั่งสมบุญในปัจจุบัน บาปเก่าแม้เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ใจมันก็จะไม่เป็นทุกข์มากกว่าปกติ มันทุกข์เท่าที่เจอ แต่ไม่ทุกข์เพิ่มขึ้นเพราะความฟุ้งซ่านวิตกกังวล เพราะว่าเราเข้าใจชีวิตอย่างแจ่มแจ้ง และเมื่อเราสั่งสมบุญมากเข้า หนักก็เป็นเบา เบาก็หาย
๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๖
จากหนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ 2