ทิศ ๖ ผู้ลิขิตชะตาชีวิตมนุษย์ ตอน ทิศเบื้องซ้าย

วันที่ 24 มีค. พ.ศ.2547

.....เพื่อนร่วมกระพอกจอกจาน (อาจจะเป็นมิตรเทียมหรือมิตรแท้ก็ได้) กลุ่มที่ ๔ มีความสัมพันธ์กับเราในฐานะผู้ร่วมงาน ร่วมอาชีพ คุ้นเคยรักใคร่นับถือกัน คือเป็นมิตรสหาย สมมุติชื่อว่าทิศเบื้องซ้าย เพราะช่วยคุ้มครองป้องกันให้เรามีความสุข เป็นที่พึ่งเมื่อมีทุกข์

.....หน้าที่รับผิดชอบของตัวเราต่อมิตรสหาย

.....พระพุทธองค์ทรงกำหนดเป็นอริยวินัย หรือหน้าที่ของตัวเราเองที่ต้องปฏิบัติ เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อมิตรสหายและผู้ร่วมงานร่วมอาชีพ ไว้เป็นตัวอย่าง ๕ ประการ คือ

๑. ให้ปันสิ่งของ คนมีสัมมาทิฏฐิ เห็นใจในความขาดแคลนและทุกข์ยากของผู้อื่น ย่อมมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อน อีกทั้งเพื่อเป็นการผูกไมตรีไว้ได้ด้วย

๒. กล่าววาจาเป็นที่รัก เพราะละกรรมกิเลสได้ และมีน้ำใจเป็นกัลยาณมิตร จึงพูดจาด้วยถ้อยคำไพเราะและจริงใจ

๓. ช่วยเหลือประโยชน์ของเพื่อน เพราะมีคุณสมบัติของมิตรแท้ จึงมีน้ำใจอุปการะเพื่อน

๔. วางตนสม่ำเสมอ หมายความว่า เป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย เคยปฏิบัติต่อเพื่อนอย่างไรก็ไม่เปลี่ยนแปลง แม้ตนจะได้ดิบได้ดี มียศถาบรรดาศักดิ์สูงกว่าเพื่อนก็ตามจะทำเช่นนี้ได้เพราะมีน้ำใจของมิตรแท้

๕. ไม่พูดจากหลอกลวงกัน เพราะละบาปกรรม ๑๔ ได้ จึงไม่แกล้งกล่าวให้คลาดจากความจริง

.....ตัวเราจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ทั้ง ๕ ประการนี้ได้สมบูรณ์ เพราะมีคุณสมบัติของมิตรแท้ เนื่องจากได้รับการปลูกฝังอบรมมาดีจากมารดาบิดาผู้ปกครองในครอบครัว ตลอดจนครูบาอาจารย์

.....ถ้าตัวเราสามารถปฏิบัติตนดี มีอริยวินัยครบ ๕ ประการ ย่อมได้ชื่อว่า เป็นผู้ปิดป้องทิศเบื้องซ้ายดีแล้ว

.....หน้าที่รับผิดชอบของมิตรสหายต่อตัวเรา

.....พระพุทธเจ้าทรงกำหนดเป็นอริยวินัย หรือหน้าที่ที่มิตรสหายต้องปฏิบัติเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อตัวเราไว้เป็นตัวอย่าง ๕ ประการ คือ

๑. กล้าป้องกันรักษามิตรผู้ประมาทแล้ว มิตรสหายคนใดก็ตาม เมื่อได้รู้ได้เห็นว่าเราประสบปัญหาเนื่องจากความประมาทเลินเล่อ ไม่ใช่สันดานเลวของเรา แล้วไม่กล้าช่วยเหลือ พึงรู้เถิดว่าเขาไม่ใช่มิตรแท้ เขาเป็นศัตรูในคราบมิตร

๒. กล้ารักษาทรัพย์ของมิตรผู้ประมาทแล้ว พึงรู้เถิดว่า มิตรเช่นนี้ คือมิตรแท้

๓. กล้าเป็นที่พึ่งเมื่อคราวมีภัย เขาเป็นมิตรแท้ จึงยินดีเป็นที่พึ่งให้เรา

๔. กล้าไม่ละทิ้งในยามวิบัติ นี่คือลักษณะนิสัยของกัลยาณมิตรอย่างแท้จริง

๕. นับถือตลอดวงศ์ตระกูลของมิตร มิตรสหายที่ให้เกียรติเคารพนับถือบุพการีของเรา บุตรหลานของเรา ว่าเป็นเสมือนญาติพี่น้องของเขา ย่อมแสดงว่าเป็นมิตรแท้ของเรา

.....จะเห็นว่า การประพฤติปฏิบัติทั้ง ๕ ประการนี้ เป็นพฤติกรรมของกัลยาณมิตรอย่างแท้จริง เมื่อได้พบมิตรแท้เช่นนี้แล้ว เราก็ควรคบหาสมาคมให้ใกล้ชิด ด้วยความเคารพรักใคร่นับถือ ดังที่พระพุทธองค์ตรัสว่า “พึงเข้าไปหาด้วยความเคารพ เหมือนมารดากับบุตร”

.....พึงสังเกตว่าบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นกัลยาณมิตรอย่างสมบูรณ์แบบเช่นนี้ จะต้องมีสิ่งแวดล้อมที่เป็นบุคคลเป็นคนดีทั้งสิ้น เขาจึงมีโอกาสถ่ายทอดเอาลักษณะนิสัยดีๆ จากคนรอบข้าง และรักษาไว้ได้อย่างมั่นคงและคุ้นเคยเป็นนิสัย จึงมีคุณสมบัติของบัณฑิตอย่างครบถ้วน บัณฑิตประเภทนี้แหละที่สังคมและชาติบ้านเมืองต้องการอย่างแท้จริง เพราะเขามีพลังความกล้าทำความดีอย่างมหาศาลอยู่ในตัว และพร้อมที่จะใช้พลังความกล้าทำความดีนั้นขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจของบ้านเมืองให้ดีตามไปด้วย ไม่ว่าจะยากเย็นแสนเข็ญอย่างไร เขาก็กล้าเอาชีวิตเป็นเดิมพัน

 

 

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0087367177009583 Mins