คัมภีร์แห่งกษัตริย์... สมบัติแห่งแผ่นดิน
ประวัติศาสตร์ของประเทศไทยมีสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวหลอมรวมจิตใจของชนชาวไทยมาอย่างยาวนาน สถาบันทั้ง ๓ ต่างเกื้อหนุนค้ำจุนซึ่งกันและกัน จนทำให้ประเทศชาติอยู่รอดเป็นเอกราชมาได้จนปัจจุบัน
พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัยจวบจนกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงนับถือและมีพระราชศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภกเสมอมา และถือเป็นราชธรรมเนียมปฏิบัติที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทุกพระองค์จะทรงสร้างคัมภีร์พระไตรปิฎกถวายเป็นพุทธบูชา ฝากฝังไว้ในพระพุทธศาสนาให้เป็นสมบัติของแผ่นดิน
สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้มีการสังคายนาพระไตรปิฎก พระองค์และสมเด็จพระอนุชาธิราช กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงประกาศต่อคณะสงฆ์ว่า
“ครั้งนี้ขออาราธนา พระผู้เป็นเจ้าทั้งปวง จงมีอุตสาหะในฝ่ายพระพุทธจักร ให้พระไตรปิฎกบริบูรณ์ขึ้นให้จงได้ ฝ่ายทั้งอาณาจักร ที่เป็นศาสนูปถัมภกนั้น เป็นพนักงานโยม โยมจะสู้เสียสละชีวิตบูชาพระรัตนตรัย สุดแต่จะให้พระปริยัติบริบูรณ์ เป็นมูลที่จะตั้งพระพุทธศาสนาจงได้”
คัมภีร์ใบลานที่พระเจ้าแผ่นดินทรงสร้าง หรือโปรดเกล้าฯ ให้สร้าง รวมถึงคัมภีร์ที่พระบรมวงศานุวงศ์ ตลอดจนขุนนางชั้นผู้ใหญ่สร้างขึ้น เรียกว่า คัมภีร์ใบลานฉบับหลวง หรือ ฉบับของหลวง ส่วนคัมภีร์ใบลานที่พระภิกษุสงฆ์หรือราษฎรสร้างขึ้น เรียกว่า คัมภีร์ใบลานฉบับราษฎร์ หรือ ฉบับเชลยศักดิ์
คัมภีร์ใบลานฉบับเทพชุมนุม จำนวน ๑๐ ผูก จารด้วยอักษรขอม พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนาไว้สำหรับวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
แบบหน้าปกและลวดลายสีสันขอบลานคัมภีร์ใบลานฉบับหลวงมีรูปแบบเฉพาะตัวและมีชื่อเรียกต่างกันไป ซึ่งสามารถใช้บอกยุคสมัยและรัชสมัยต่างๆ ได้
▲คัมภีร์ใบลานฉบับทองใหญ่ ไม้ประกับทองทึบ ฉลากทอ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
▲คัมภีร์ใบลานฉบับรดน้ำแดง ไม้ประกับลายทองจีน ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศล้านภาลัย
▲คัมภีร์ใบลานฉบับรดน้ำเทพชุมนุม ไม้ประกับประดับมุก ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
▲คัมภีร์ใบลานฉบับล่องชาด ไม้ประกับลายกำมะลอ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
Cr : คัมภีร์ใบลานฉบับหลวงในสมัยรัตนโกสินทร์
นอกจากนี้คัมภีร์พระไตรปิฎกฉบับหลวงจะมีลักษณะเฉพาะ คือ จะเขียนรูปสัญลักษณ์ประจำรัชกาลให้ปรากฏอยู่ในใบรองปก ซึ่งสามารถจำแนกได้ ๒ แบบ คือ
ถ้าเป็นคัมภีร์พระไตรปิฎกฉบับที่สร้างสำหรับรัชกาลนั้นๆ รูปสัญลักษณ์ประจำรัชกาลจะอยู่ที่ด้านขวาและซ้ายของใบลาน
Cr : คัมภีร์ใบลานฉบับหลวงในสมัยรัตนโกสินทร์ (หน้า 19-21)
ถ้าเป็นคัมภีร์พระไตรปิฎกฉบับที่สร้างซ่อมเพิ่มเติมฉบับของรัชกาลก่อนที่ขาดหรือสูญหายไป รูปสัญลักษณ์ประจำรัชกาลก่อนจะอยู่ด้านซ้ายของใบลาน ส่วนรูปสัญลักษณ์ประจำรัชกาลในขณะนั้นที่สร้างขึ้นมาใหม่จะอยู่ด้านขวาของใบลาน เช่น พระไตรปิฎกฉบับรัชกาลที่ ๔ สร้างซ่อมฉบับในรัชกาลที่ ๓ จะมีรูปสัญลักษณ์ประจำรัชกาลที่ ๓ อยู่ทางด้านซ้าย และมีรูปสัญลักษณ์ประจำรัชกาลที่ ๔ อยู่ทางด้านขวา
Cr : คัมภีร์ใบลานฉบับหลวงในสมัยรัตนโกสินทร์ (หน้า 24)
▲ใบรองปกคัมภีร์พระไตรปิฎก ฉบับที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้างซ่อมแซมฉบับเดิมในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ดังนั้นรูปสัญลักษณ์ประจำรัชกาลที่ ๓ อยู่ด้านซ้าย และรูปสัญลักษณ์ประจำรัชกาลที่ ๔ อยู่ด้านขวา
พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ทรงสร้างคัมภีร์ใบลานเพื่อบันทึกรักษาคำสอนแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจนถือปฏิบัติเป็นราชประเพณีอันดีงามสืบมา ประเทศไทยของเราในวันนี้จึงยังคงมีพระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง ดำรงมั่นคงเป็นปิ่นแก้วของประเทศได้ด้วยพระบารมีแห่งสถาบันพระมหากษัตริย์ และบูรพมหากษัตราธิราชเจ้าแห่งแผ่นดินสยามทุก ๆ พระองค์ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ซึ่งล้วนแล้วแต่ทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภ์
ดังพระราชปณิธานของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระเจ้ากรุงธนบุรี ว่า
ก่องแก้ว วีระประจักษ์ และวิรัตน์ อุนนาทรวรางกูร. คัมภีร์ใบลานฉบับหลวงในสมัยรัตนโกสินทร์. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, ๒๕๔๖
เยี่ยมชม
กลุ่มอนุรักษ์และศึกษาคัมภีร์พระไตรปิฎกใบลาน (MPSC)
โครงการพระไตรปิฎกวิชาการ (DTP)