ต้องเป็นอย่างคุณยายอาจารย์
ต้องเป็นอย่างคุณยายอาจารย์ : ต้องทำอย่างมีความสุขและความบริสุทธิ์ โดยเริ่มจากจุดที่ง่ายและกล้องก่อน ไปเน้นที่ภาพเลยทำให้ช้า จะให้เร็วคือ ให้เริ่มต้น ณ จุดที่ง่าย คล่องและมีความสุขก่อน ให้เน้นที่ความสุขและความบริสุทธิ์ ไม่ใช่เน้นที่ภาพ ตอนนี้เราอยู่ในระดับที่ ๒ คือเข็นครกขึ้นภูเขา ระดับแรก คือ เข็นภูเขาขึ้นครก เพราะภูเขาเขยื้อนมากกว่าครก คือ ยากกว่า ระดับ ๓ วางแล้วเดินตัวเปล่า พอขั้นสุดท้ายก็เหาะขึ้นไปบนยอดเลย
ตอนนี้เรายังไม่มีปืนให้ถือฟืนไปก่อน เรายังไม่รู้จักตัวเองจริง ทำไมต้องมานั่งเมื่ออยู่ตรงนี้ ทำไมไม่ไปสนุกสนานเพลิดเพลินแบบชาวโลก ถ้าเรารู้จักพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ รู้จักตัวเองจริง เราจะเข้าใจและซาบซึ้งเลยว่า ทำไมเราต้องมาใช้ชีวิตเช่นนี้ จะเข้าใจว่ามันต้องนั่งไม่ต้องมีใครมาเคี่ยวเข็ญ มันจะอยากนั่งเองเลย เราจะไปด้วยตัวของเราเอง คุณยายอาจารย์ฯ ท่านมักจะพูดไปเปรยๆ ว่า "ใครจะไปนิพพานก็ไปเถอะ ยายจะไปปราบมาร" คุณยายจะเปรยๆ ตอนที่ท่านอารมณ์ดีๆ คุณยายอาจารย์ฯ ท่านไม่ติดอะไรจริงๆ ท่านไปเห็นความเป็นจริงและหายสงสัยด้วยตัวเอง
พวกเราก็ผ่านชีวิตในสังสารวัฏกันมาหมดแล้ว ไม่มีอะไรใหม่ ถ้าเราไปถึงจุดนั้น เราก็จะไม่ติดอะไรเลย เหมือนอย่างคุณยายอาจารย์ฯ เพราะท่านรู้แจ้งในสังขารโลกแล้ว เพราะฉะนั้น หลวงพ่ออยากให้พวกเราทั้งหมดเป็นอย่างคุณยายอาจารย์ฯ ซึ่งก็มีหลักคือ "นิ่ง-แน่น"
จากหนังสือ ง่ายที่สุดคือหยุดได้ เล่ม ๒
คุณครูไม่ใหญ่