มองภายใน

วันที่ 17 มีค. พ.ศ.2565

meditation17-3-65-b.jpg

มองภายใน

มองภายใน : มีหมอท่านหนึ่งลูกนัยน์ตาเพิ่งมามองไม่เห็นไม่กี่ปี หลวงพ่อบอกหมอคนนี้ว่าปกติมนุษย์ทั่วทั้งโลกก็มองไม่เห็นวันละ ๘ ชั่วโมง คือตอนนอนหลับ พอลืมตามองเห็น ๑๖ ชั่วโมง มองไม่เห็นมากกว่าคนอื่น ๑๖ ชั่วโมง นอกจากนั้นบางคนทางธรรมที่มีบุญมากขึ้น ก็มองไม่เห็นมากขึ้นตอนนั่งสมาธิ ๑๐ ชั่วโมง รวมแล้ว ๑๘ ชั่วโมง มองไม่เห็นมากกว่าเขานิดเดียวเอง แต่บางคนที่มองเห็นโลกภายนอกมากกว่านี้ เห็นแล้วก็นำความฟุ้งซ่านเข้ามาในใจ แต่มีการมองอีกแบบหนึ่ง คือการมองภายใน และตอนนี้หมอมีเวลามองภายในมากกว่าคนอื่น มันมีทั้งข้อดีและข้อด้อยในตัว เพราะฉะนั้น หมอดีกว่าเขา ซึ่งคนอื่นทำไม่ได้อย่างนี้


ทำอย่างคุณยายอาจารย์ฯ : ตอนนี้หมอคนนี้ เขาจับตรงไหนก็เป็นพระไปหมด เห็นตลอด เข้าไปได้เรื่อย ๆ จนหลุดจากกายหยาบ และกังวลว่าไม่รู้จะสุดตรงไหน แต่ทางที่ไปมีความสุข แม้จับตัวก็ยังอยู่แต่เข้าไปอยู่ภายใน เห็นตลอดหมดเลย จึงได้ข้อสรุปว่า ก่อนมาถึงตรงนี้ ตอนใจยังไม่เข้ากลางจะไม่เป็นตัวของตัวเอง เป็นคนไม่มีเหตุผล และจะงอแง ฟุ้งซ่านอยากเป็นโน่นเป็นนี่ อยากได้โน่น ได้นี่ อยากทำโน่นทำนี่ มีหงุดหงิดเศร้า แต่ตอนนี้ คุณหมอยิ้มได้ เข้าไปถึงตรงนั้น เป็นตัวของตัวเอง มีเหตุผล ไม่งอแง ไม่หงุดหงิด ใจก็ไปติดตรงนั้น นี่เป็นมิเตอร์ให้ลูกวัดตัวเอง ว่าจะเป็น หมอ ๑ หรือ ๒ ลูกวัดตัวเองว่าเป็นหรือเปล่า เป็นหรือยัง หมอ ๑ คือมองไม่เห็นตาภายใน งอแง หงุดหงิด ไม่มีเหตุผล หมอ ๒ คือ มีเหตุผล ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องเป็นเหมือนคุณหมอทั้งหมด บางอย่างเหมือน บางอย่างไม่เหมือน ถ้าลูกทำอย่างนี้ได้ลูกจะศึกษาวิชชาธรรมกายได้ ลูกอยากเป็นแบบไหน (พระลูกชาย: แบบที่ ๒ ครับ) เพราะฉะนั้น ลูกต้องฝึก ฝึกไม่ยากหรอก ช้างอยู่ในป่ายังเอามาฝึกได้ ทำอย่างคุณยายอาจารย์ฯ ท่านทำอย่างไร เราก็ทำอย่างนั้น ทำง่ายๆ ไม่เหมือนการปรุงอาหารที่เรื่องเยอะมากกว่า แค่ให้ลูกอ่านตรงนั้นแล้วก็ทำตามเลยง่ายๆ สมมุติซื้อครกมาใบหนึ่ง จะเอาอะไรใส่ครก จะเอาใส่อย่างไร จะเอาออกอย่างไร ยุ่งยาก แต่นี่ง่ายๆ ลูกทำตามท่านแล้ว ลูกจะศึกษาวิชชาธรรมกายได้


คุณครูไม่ใหญ่

จากหนังสือง่ายที่สุดคือหยุดได้ เล่ม๒

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0023183186848958 Mins