พระเอกในใจ
สมัยโครงการบ้านกัลยาณมิตร ประมาณปี พุทธศักราช 2541 ตอนนั้นบวชได้ 2 พรรษา ได้รับนิมนต์ไป ทำหน้าที่พระอาจารย์นำสาธุชน สวดมนต์ทำวัตรเย็น ปฏิบัติธรรม ชวนสร้างพระธรรมกายประจำตัว ที่บ้านกัลยาณมิตร ปากซอยโรงเรียนอนุบาลสมฤดี ต.มหาชัย จ.สมุทรสาคร
ได้พบกับ สรพงษ์ ชาตรี มากับภรรยา คุณดวงเดือน จิไธสงค์ ซึ่งช่วงนั้นทั้งสองท่านก็ทำหน้าที่ ตระเวนบอกข่าวบุญ ชวนศรัทธาสาธุชนสร้าง"หลวงพ่อโต" องค์ใหญ่ ที่มูลนิธิสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา
ยังได้ถามแซวสรพงษ์ว่า มีเจ้าอาวาสหรือยัง ถ้าไม่มีอาตมาไปเป็นให้ไหม สรพงษ์ กล่าวแบบนอบน้อม ว่า มี แล้วครับ.
หลังจากสวดมนต์ทำวัตรเย็น ปฏิบัติธรรมเจริญสมาธิภาวนา เสร็จแล้ว ก็เทศน์แสดงธรรมเรื่อง ทาน ศีล ภาวนา และ อานิสงส์ของการทำทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา ว่า มีอานิสงส์ ที่ต่างกัน และ การทำสมาธิภาวนา นั้นมีอานิสงส์มาก ได้บุญมากและเป็นประตูสู่มรรคผลนิพพาน
แต่ชาวพุทธ ไม่รู้เพราะคิดว่า นั่งสมาธิเสียเวลา สู้เอาเวลาไปทำประโยชน์อย่างอื่น หรือ ทำงานก็คือทำสมาธิอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นการเข้าคลาดเคลื่อน สมาธิในการทำงานกับการทำสมาธิภาวนาให้ใจหยุด ให้ใจสงบ ปราศจากกิเลสที่อยู่ในใจ คนละเรื่องกัน...ความเชื่อที่เข้าผิดแบบนี้ เสียดายจัง.
สรพงษ์ ชาตรี ได้สนใจเรื่องนี้มาก ถึงกับขยับมานั่งใกล้ๆตั่งที่อาตมานั่ง และบอกว่า ตามที่พระอาจารย์เทศน์มา ทำให้นึกขึ้นได้ ว่า สมัยที่บวชเรียนได้ศึกษาเรื่องนี้ แต่ลืมไปเลย ไม่ได้สนใจเพราะอ่านบาลี เพื่อสอบเป็นมหาเปรียญธรรม แต่สอบไม่ผ่านสักที พอดีมีคนมาชวนไปเป็นนักแสดงเลยตัดสินใจ ลาสิกขา วันนี้ ได้ฟังเรื่องอานิสงส์การทำภาวนา ยืนยันเรื่องอานิสงส์ว่ามีในพระไตรปิฎก เคยอ่านผ่านๆมาจะไปทบทวนและต้องปฏิบัติธรรมเจริญสมาธิภาวนาเพิ่มจากการทำทาน พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณพระคุณเจ้า ด้วยความนอบน้อม
เหตุการณ์ค่ำคืนนั้นอยู่ในใจ เหมือนพึ่งเกิดขึ้นในค่ำคืนนี้ เลย
ค่ำคืนนี้ ได้รับทราบว่า สรพงษ์ ชาตรี ได้ละสังขาร ลาจากโลกนี้ไป เป็นไปตามกฎไตรลักษณ์ เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป เกิดแก่เจ็บตาย หนีไม่พ้นทุกคนต้องเจอ
ส่วนตัวเชื่อในคตินิมิตอันดี ของโยมสรพงษ์ ที่มีความศรัทธา เลื่อมใส ในพระพุทธศาสนา มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง เห็นได้จากผลงานสร้างวัด สร้างหลวงพ่อโต" องค์ใหญ่ ตั้งมูลนิธิสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ให้ชาวพุทธได้มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งทางใจ
ขออนุภาพแห่งพระรัตนตรัย อันมีคุณอันไม่มีประมาณ และบุญที่โยมสรพงษ์ ชาตรีได้สร้างไว้ในพระพุทธศาสนา ขอให้เดินทางไปเป็นสหายแห่งเทวดาในสวรรค์ชั้นฟ้า อุดมสุขด้วยทิพยสมบัติอันโอฬาร ด้วยอนุภาพแห่งบุญที่ได้ทำไว้ดีแล้วในสมัยตอนเป็นมนุษย์และบุญบวชจากที่อาตมาได้สั่งสมมา 25 พรรษาอุทิศไปให้ด้วยเทอญ.
สวัสดี/เจริญพร
มนวีโร ภิกฺขุ
10 มีนาคม พุทธศักราช 2565
ณ วัดพระธรรมกายคลองสาม ปทุมธานี
#ธรรมะริมทางไปที่สุดแห่งธรรม