ถ้ามีความสุขมันจะมีฉันทะเอง
ถ้ามีความสุขมันจะมีฉันทะเอง : ลูกต้องขวนขวาย ทำให้ต่อเนื่อง ทำตลอดเวลานะ ต้องทำอย่างคุณยายอาจารย์ฯ ท่านทิ้งทุกอย่าง วางทุกสิ่ง ตัดใจออกจากบ้าน ขนาดแม่ร้องไห้ หันหน้าเข้าข้างฝา ท่านยังตัดใจออกจากบ้านมาได้ นี่คุณยายอาจารย์ฯ เล่าให้หลวงพ่อฟัง คือ มีแต่เป้าหมายจะไปตามหาพ่อ ไม่รู้เลยว่าจะไปด้วยวิธีการอย่างไร และไม่รู้เลยว่าใครจะสอน จะได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้ ตอนนั้นยังไม่รู้จักหลวงปู่ มีแต่เป้าหมาย คือจะไปตามหาพ่อ คุณยายอาจารย์ฯ ออกจากบ้านมาโดยยอมตนเป็นคนรับใช้อยู่ที่บ้านคุณนายเลี้ยบ ซึ่งบ้านนี้เป็นอุปัฏฐากของวัดปากน้ำ มารู้ว่าหลวงพ่อวัดปากน้ำท่านไปนรกสวรรค์ได้ คุณยายอาจารย์ฯ จึงทำงานทุกอย่างเพื่อให้เจ้าของบ้านไว้ใจ จนเจ้าของบ้านมอบกุญแจให้ดูแลหีบสมบัติ แสดงว่าต้องไว้ใจคุณยายมากในระดับดีเยี่ยมเลย ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้ถือกุญแจ เพราะถ้าไม่อย่างนั้นก็หมดตัวนะ ตอนนั้นคุณยายทองสุขท่าน ยังไม่ได้บวช มาสอนคุณนายเลี้ยบให้นั่งสมาธิ คุณยายทองสุขสอนให้นึกดวง คุณยายก็ต้องไปคอยเอาอกเอาใจคุณยายทองสุข เพื่อจะขอเรียนธรรมะด้วย เจ้าของบ้านก็อนุญาต คุณยายต้องแอบนั่งสมาธิ ต้องรีบทำงานบ้านทุกอย่างให้เสร็จ เพื่อไม่ให้ใครมาตำหนิได้ แล้วแบ่งเวลามานั่งสมาธิในห้องพระบ้าง ห้องเก็บของบ้าง ต้องคอยแอบกลัวคนอื่นมาเห็นแล้วจะไปบอกเจ้าของบ้าน หรือกลัวเจ้าของบ้านมาเห็น กลัวเขาเข้าใจผิดว่าแอบมางีบ ของเราไม่ต้องแอบนั่งเลย มีที่ให้นั่งอย่างดี จะนั่งตรงไหนก็ได้ ไม่ต้องระแวงว่าใครจะมาเห็น คุณยายอาจารย์ฯ ท่านหลับตาไป ต้องคอยเป็นกังวล ของลูกสัปปายะทุกอย่าง สะดวกสบาย ไม่ต้องกลัวสิงสาราสัตว์ มี รปภ. มาคอยดูแลให้อีก ลูกต้องพิจารณาให้ดีแล้วล่ะ ลองเทียบกันดูกับเรา ข้อแตกต่างระหว่างเรากับท่าน คุณยายอาจารย์ฯ นั่งด้วยความกลัวกับความกังวล แสดงว่า ใจต้องไม่นิ่ง แต่ขนาดไม่นิ่งของท่านยังดีกว่าพวกเรา คุณยายอาจารย์ฯ สอนตัวเอง ไม่ต้องมีใครมาสอน ลูกต้องสอน
ตัวเองให้มากนะ แล้ววันที่สมหวังของคุณยายอาจารย์ฯ ก็มาถึง วันนั้นคุณยายทองสุขมาสอน ท่านนั่งบนดาดฟ้ากับเจ้าของบ้าน วันนั้นท่านได้รับอนุญาตจากเจ้าของบ้าน พอนั่งอย่างไม่ต้องวิตกกังวล ไม่ต้องคอยระแวงอีก ใจก็ปล่อยวางได้ ใจหยุดเห็นจุดเล็ก ๆ เท่าดวงดาว ใจมีความสุข พอออกมาก็ประคองต่อ เห็นตลอดเวลาเพราะมีความสุข รีบ ๆ ทำงานให้เสร็จ ไม่ให้ใครตำหนิได้ แล้วก็แอบมานั่งสมาธิ มีฉันทะขึ้นมาเองเลย ฉันทะในระดับแอบนั่ง ถ้าลูกไม่ทิ้งทุกอย่าง วางทุกสิ่งได้เหมือนยายก็ยากที่จะได้ ต้องทำให้ได้อย่างยาย ยายนั่งจนกระทั่งเห็น ๕ กาย สมัยนั้น มีแค่ ๕ กาย คือ มนุษย์ละเอียดทิพย์ พรหมอรูปพรหม และกายธรรม มาบอกกับคุณยายทองสุข “พี่ๆ ฉันเห็น ๕ กาย ไปหาพ่อได้มั้ย” คุณยายทองสุขบอกว่า “ได้ ฉันจะสอนให้” และแล้ววันที่คุณยายสมหวังก็มาถึง ท่านเล่าให้หลวงพ่อฟัง ตอนนั้นคุณยายบอกว่า “เห็นชัดมาก ยายเห็นพ่ออยู่ในนรก เพราะดื่มเหล้า ท่านดีใจ สมหวังที่ได้เจอพ่อ แล้วก็สงสารพ่อด้วยที่ต้องตกนรก” มันก็แปลกนะ เป็นสิ่งที่ต้องศึกษา คือ มีหลายๆ อารมณ์ในเวลาเดียวกัน อารมณ์ดีใจที่ได้ไปหาพ่อ อารมณ์เสียใจ สงสารที่พ่อตกนรก ใจก็นิ่งไม่กระเพื่อม ทำยากนะ หลายๆ อารมณ์แต่ใจไม่กระเพื่อม หลังจากวันนั้น ก็ไปจากบ้านนี้ พอไปช่วยพ่อได้ก็ไปเลย ไม่ได้อธิษฐานว่าจะมาเป็นคนใช้เขา ทำบุญทุกบุญก็ไม่ได้อธิษฐานมาเป็นคนใช้ เพราะเราไม่ได้มาเพื่อการนี้ ไม่ได้มาเพื่อเป็นคนรับใช้ แม้จะทำได้อย่างดีเยี่ยมก็ตาม ที่หลวงพ่อเอาเรื่องคุณยายอาจารย์ฯ มาเล่าให้ฟังเพื่อจะให้รู้ว่า คุณยายขวนขวายโดยที่ไม่ต้องมีใครมาคอยบอก
คุณครูไม่ใหญ่
จากหนังสือ ง่ายที่สุดคือหยุดได้ เล่ม ๒
