ผ้ากาสาวพัสตร์...ผ้าชุดสุดท้ายในสังสารวัฏ 

วันที่ 18 กค. พ.ศ.2566

18-7-66-B5.jpg

ผ้ากาสาวพัสตร์...ผ้าชุดสุดท้ายในสังสารวัฏ 
                ลูกเป็นผู้มีบุญมากที่ได้มาบวชในพระพุทธศาสนาได้มาศึกษาพระธรรมวินัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะการจะวัดว่าใครเป็นผู้มีบุญมากหรือบุญน้อย วัดกันตรงที่ว่า “ใครดับทุกข์ได้ เป็นผู้บริสุทธิ์ หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะไปสู่อายตนนิพพานได้” อย่างนี้ถือว่าเป็นผู้มีบุญมากที่สุด ไม่ได้วัดว่า ใครเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นมหาเศรษฐีของโลก เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ซึ่งนั่นก็มีบุญเหมือนกันแต่มีบุญในระดับปานกลาง ถ้ามีบุญมากที่สุด คือ ต้องไปสู่พระนิพพาน


                ผู้มีบุญมากได้ครองเครื่องแบบชุดสุดท้ายของสังสารวัฏ คือ ผ้ากาสาวพัสตร์ ซึ่งถือเป็นผ้าชุดสุดท้ายที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว ในสมัยพุทธกาลแม้เกิดเป็นพระราชามหากษัตริย์อย่างพระมหากัปปินะ ในที่สุดพระองค์ก็ต้องทิ้งเครื่องทรงพระราชามาสวมใส่ชุดนี้ หรือมหาเศรษฐีที่มีสมบัติตักไม่พร่องอย่างท่านโชติกเศรษฐี สุดท้ายก็มาสวมชุดนี้ จะเกิดเป็นคนชั้นสูง ชั้นกลาง หรือชั้นล่าง ในที่สุดก็ต้องมาอยู่ในชุดนี้ แม้แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราเวียนว่ายตายเกิดมานับภพนับชาติไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเกิดเป็นพระราชามหากษัตริย์ก็ดี เป็นสามัญชนก็ดี ตอนสุดท้ายพระองค์ก็ทรงสละราชสมบัติออกบวชบำเพ็ญพรต ครองผ้ากาสาวพัสตร์เป็นชุดสุดท้ายก่อนไปอายตนนิพพาน


              ผ้ากาสาวพัสตร์เหมือนเป็นชุดที่รวมบุญ รวมบารมี รวมคุณความดีทั้งหมดมาสู่ชุดนี้ คล้ายกับมหาสมุทรเป็นที่รวมของแม่น้ำทุกสายจากห้วย หนอง คลอง บึง จากป่าเขาอย่างนั้น ถ้าใครได้สวมเครื่องแบบชุดนี้ มีนิพพานเป็นที่ไป หมายถึงว่า บารมีที่สั่งสมมานับภพนับชาติไม่ถ้วน จะเวียนว่ายตายเกิด เป็นอะไรมาสารพัดสุดท้ายก็จะต้องอยู่ในชุดผ้ากาสาวพัสตร์ ให้ลูกภาคภูมิใจ ปีติใจที่ได้มาบวช ได้ครองผ้ากาสาวพัสตร์กันนะ

 

คุณครูไม่ใหญ่

จากหนังสือ ง่ายที่สุดคือหยุดได้ เล่มที่ ๖

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.034405815601349 Mins