จักรแห่งธรรม
๔ ตุลาคม ๒๕๓๕
พระธรรมเทศนาเพื่อการปฏิบัติธรรม วัดพระธรรมกาย
โดย... พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)
ต่อจากนี้เราจะได้นั่งหลับตาเจริญสมาธิภาวนากัน ให้นั่งขัดสมาธิโดยเอาขาขวาทับขาซ้าย มือขวาทับมือซ้าย นิ้วชี้ของมือข้างขวาจรดนิ้วหัวแม่มือข้างซ้าย วางไว้บนหน้าตักพอสบาย ๆ หลับตาของเราเบา ๆ หลับพอสบายๆ คล้าย ๆ กับเรานอนหลับ อย่าไปบีบหัวตา อย่ากดลูกนัยน์ตา ให้หลับพอสบาย ๆ นะจ๊ะ ขยับเนื้อขยับตัวของเราให้ดี กะคะเนให้เลือดลมในตัวของเราเดินได้สะดวก เราจะได้ไม่ปวดไม่เมื่อย ขยับเนื้อขยับตัวให้ดีนะ ทั้ง ๒ ประการนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ อย่าดูเบานะจ๊ะ ที่ให้หลับตาให้เป็น แล้วก็ปรับตัวให้สบาย แล้วก็ทำใจให้เบิกบานให้แช่มชื่น
หลับตาให้เป็น ทำตัวให้สบาย ทำใจให้สดชื่นให้เบิกบาน นี่เป็นหัวใจสำหรับการปฏิบัติธรรม ไม่ว่าเราจะปฏิบัติแบบวิธีไหนก็ตาม จะต้องไม่ทิ้งหลักเกณฑ์อันนี้นะจ๊ะ คือ ทำตัวให้สบายน่ะ หลับตาให้เป็น ทำตัวให้สบาย ทำใจให้เบิกบานให้แช่มชื่น ถ้าทำตรงนี้ได้ ไม่ว่าจะปฏิบัติแนวไหนก็ตามน่ะเดี๋ยวง่ายหมด เพราะฉะนั้นหลักแห่งความสบายทั้งกายและใจนี่เป็นสิ่งที่สำคัญ ต้องปรับ ปรับให้เป็นนะจ๊ะ ปรับกายปรับใจ ปรับกันเดี๋ยวเนี้ยะ ไม่ต้องกลัวเสียเวลา ถ้าทำตรงนี้ได้เดี่ยว สิ่งที่หลวงพ่อจะแนะนำต่อไปมันง่ายหมด เราจะนึกไม่ถึงเลยว่าธรรมมะของพระพุทธเจ้าเนี่ยะ แม้จะเป็นของลึกซึ้ง แต่เราก็สามารถเข้าถึงได้ด้วยวิธีการอย่างเนี้ยะ ง่าย ๆ สบาย ๆ เนี้ยะปรับให้ดีนะจ๊ะ ถ้าเราปรับตรงนี้เป็น นี่เราจะชนะหมดทุกเรื่องเลย จะเป็นความปวด ความเมื่อย ความมืด ความฟุ้ง ความง่วง ความอะไร หลาย ๆ ความน่ะแหละ ที่มันไม่ได้ความนั่นแหละมันก็จะหมดไป เนี้ยะ ถ้าปรับตรงนี้ได้นะจ๊ะ จะนั่งต่อหน้าหลวงพ่อหรือลับหลังหลวงพ่อทําเป็นทั้งนั้น
ในสมัยพุทธกาลพระพุทธเจ้าท่านก็ยึดหลักอันนี้แหละ ให้สบาย ๆ เนี้ยะ สั่งสอนสาวกของพระองค์ พอแนะนำเสร็จก็ชี้ไปเลย โน่นป่า นั่นเขา นั่นถ้ำ นั่นเรือนว่าง นั่นลอมฟาง นั่นโคนไม้ แยกย้ายกันไปประพฤติปฏิบัติธรรมตามที่ได้แนะนำ แล้วก็ได้ผลของการปฏิบัติกันทั้งนั้น โดยอาศัยความเพียรทำอย่างสม่ำเสมอ ถ้าไม่ขี้เกียจสักอย่างหนึ่งละก็จะได้หมดการบรรลุมรรคผลนิพพาน มีอยู่คนประเภทหนึ่งที่ไม่บรรลุ ทำยังไงก็ไม่บรรลุ คือ พวกขี้เกียจทำ ไม่ยอมทำ ไอ้พวกเนี้ยะไม่ได้ ถ้าหากว่าตั้งใจทำแล้วได้ทุกคน เพราะฉะนั้นตอนนี้ปรับให้ดีนะ พอปรับตัวให้สบาย ทำใจเบิกบาน แช่มชื่นแล้ว ตอนนี้เราก็นึกถึงคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า ซึ่งท่านตรัสเอาไว้ในธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ธรรมจักรนี่ได้ยินกันบ่อย จักรแห่งธรรมน่ะคือ วิธีปฏิบัติที่ให้เข้าถึงธรรมน่ะ พระพุทธเจ้าท่านแนะนำในสมัยนั้นน่ะ เนื่องจากว่าชีวิตของมนุษย์ทุกๆ คนที่เกิดมาในโลกนี้ ต่างก็มีความทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น และก็มีความปรารถนาที่จะแสวงหาหนทางพ้นทุกข์
โดยสรุปย่อ ๆ ในสมัยก่อนที่พระพุทธเจ้าท่านจะมาตรัสรู้ ก็มีวิธีแสวงหาความดับทุกข์ เพื่อให้เข้าถึงความสุขอันเป็นอมตะอยู่ ๒ วิธี คือ พวกหนึ่งที่ตึงเกินไป อีกพวกหนึ่งก็หย่อนเกินไป พวกที่ตึงเกินไปก็มีความเห็นว่า ต้องทรมานตัว ทรมานกาย ทรมานใจ ให้ผู้มีอำนาจสูงสุด ซึ่งสมมติว่าเรียกว่าพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นเจ้าให้ท่านเห็นใจ สงสารจะได้ช่วยให้พ้นทุกข์ ก็ทรมานกันไป ทรมานทั้งร่างกายทั้งจิตใจ อีกประเภทหนึ่งก็ปล่อยตัวไปตามสบายแบบทางโลก ว่าจะพ้นทุกข์ได้ จะต้องแสวงหาความสนุกเพลิดเพลินในทางโลก นั่นแหละคือวิธีที่จะพ้นทุกข์ได้ เค้าคิดกันได้อย่างนี้น่ะ จนกระทั่งพระพุทธเจ้าของเราบังเกิดขึ้นในโลก ท่านได้ผ่านมา ๒ วิธีการแล้วเห็นว่ามันไม่ได้เรื่อง ไม่บรรลุผล ไม่มีพระผู้เป็นเจ้าองค์ไหน ที่จะช่วยให้ดลบันดาลให้พ้นทุกข์ได้หรือการสนุก สนานเพลิดเพลินในทางโลก มันก็แค่กลบทุกข์เท่านั้นเองน่ะ แค่กลบทุกข์ ไม่ใช่เป็นการแก้ทุกข์
เพราะฉะนั้นก็ไม่พ้นทุกข์ ในที่สุดก็ทรงพบหนทางสายกลาง หนทางสายกลางของท่านเนี้ยะ ที่ท่านค้นพบเนี้ยะ ถ้าปฏิบัติตามแล้วเนี้ยะ มันจะมีสิ่งนี้เกิดขึ้นคือ จักขุกรณี ธรรมจักขุจะเกิด ญาณกรณี ญาณเป็นเครื่องรู้ก็จะเกิด อุปสมายที่เกิดขึ้นมาก็มีวัตถุประสงค์เพื่อ เพื่อความพ้นทุกข์ เพื่อเข้าไปสงบระงับสังขารทั้งหลาย อภิญญาย เป็นไปหนทางสายกลางเนี้ยะ เป็นไปเพื่อให้ได้อภิญญา คือความรู้ยิ่งในทางพระพุทธศาสนา ยิ่งกว่าความรู้ทั้งหลายใน ในโลกที่สอนกันในมหาลัย หรือตามสถาบันการศึกษาต่าง ๆ เช่น มีหูทิพย์ ตาทิพย์ ระลึกชาติได้ มีมโนมยิทธิ มีฤทธิ์ทางใจ มีอิทธิฤทธิ์แสดงฤทธิ์ได้ ทำอาสวะให้สิ้นได้น่ะ เนี้ยะ อภิญญายะ สัมโพธายะ รู้ได้รอบตัวเลย รู้พร้อมหมดทุกอย่าง นิพพานายะ เพื่อพระนิพพาน นี่หนทางสายกลางของท่านเนี่ยะถ้าปฏิบัติแล้วจะได้อย่างเนี้ยะ
จักขุกรณี ญาณกรณีอุปสมายะ อภิญญายะ สัมโพธายะ นิพพานายะ ต้องได้หลักอย่างนี้และทางสายกลางท่านก็สอนว่าที่จะให้ได้ทั้ง ๕-๖ อย่างดังกล่าวเนี้ยะ เบื้องต้นก็ต้องมีความเห็นถูก แต่ความเห็นถูกเนี่ยะ ที่สำคัญที่สุดคือเห็นว่านิพพานนะ มีจริง ๆ น่ะที่จะดับทุกข์ได้จริงพ้นทุกข์ได้จริง และมีผู้ปฏิบัติตามเห็นจริง ความคิดชอบ มีความคิดที่ถูก ต้องเป็นความคิดที่แตกต่างจากชาวโลกเค้าคิดกัน คิดออกจากกาม คิดออกจากความพยาบาท คิดออกจากความเบียดเบียน ไอ้ความคิดเหล่านี้มีอยู่เป็นประจำอยู่ของชาวโลก ถ้าจะเดินเส้นทางสายกลางต้องเหนือชาวโลก ทวนกระแสของชาวโลก คิดตรงข้ามเลย มนุษย์ตรึกเรื่องกาม เราเว้นออกจากกามซะ เค้าตรึกเรื่องพยาบาท ก็เว้นออกจากความพยาบาท เค้าตรึกเรื่องการเบียดเบียนกัน เราก็เว้นออกจากนี้ซะ หลังจากนั้นทำให้กาย วาจา ใจบริสุทธิ์
สิ่งอะไรทำให้กายไม่บริสุทธิ์ วาจาไม่บริสุทธิ์ ใจไม่บริสุทธิ์เว้นหมดเลย แล้วก็ประกอบให้ใจของตัวอยู่ในวงกาย กาย เวทนา จิตธรรม ให้มีความรู้ตัวอยู่อย่างนี้ ทำความเพียรระวัง บาปอกุศลไม่ให้เกิด ให้เกิดแต่สิ่งที่ดี ๆ เกิดแล้วก็ให้มัน เจริญขึ้น แล้วในที่สุดสัมมาสมาธิก็จะเกิด คือใจหยุดทีเดียว ถ้าให้บริสุทธิ์ กาย วาจา ใจ ถ้าบริสุทธิ์ กาย วาจา ใจได้ ไม่ช้าสัมมาสมาธิก็เกิดขึ้น เกิดขึ้นอยู่ภายใน หยุดนิ่ง ถูกส่วนก็เป็นดวงใส ใสสว่างเกิดขึ้นที่กลางกาย อย่างเล็กขนาดดวงดาวในอากาศ อย่างกลางก็ขนาดพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ อย่างใหญ่ขนาดพระอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน เกิดขึ้นในกลางหยุด กลางนิ่งที่กลางกายแล้วก็หยุดอย่างนี้ไปเรื่อยเลย หยุดไปตามลำดับ พอถูกส่วนก็เห็นดวงธรรมต่าง ๆ ซ้อนกันเกิดขึ้นอยู่ภายใน ซ้อนเข้ากันเป็นชั้น ๆ ๆ ๆ เข้าไป ซ้อนเข้าไป
จนกระทั่งครบ ๖ ดวงธรรม ในกลางดวงธรรมดวงที่ ๖ จะพบกายภายในกายมนุษย์ละเอียด หน้าตาเหมือนกะตัวของเราเลย ท่านหญิงเหมือนท่านหญิง ท่านชายเหมือนท่านชาย นั่งขัดสมาธิ หันหน้าออกไปทางเดียวกับเรา นี่เรียกกายมนุษย์ละเอียด หรือกายฝัน กายที่เรานอนหลับแล้วฝันไปก็กายนี้แหละ ออกไปทำหน้าที่ฝันแล้วก็กลับมารายงานกายมนุษย์ เมื่อหยุดอยู่ในกลางกายมนุษย์ละเอียดนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ก็จะพบดวงธรรม จะมีดวงธรรม ๖ ดวงซ้อน ๆ ซ้อน กันอยู่ภายใน ละเอียดลงไปเรื่อย ๆ สุกใสเข้าไปเรื่อย ๆ สว่าง พอสุดดวงที่ ๖ ก็เข้าถึงกายทิพย์ กายทิพย์เป็นกายของสุคติภูมิ เป็นกายที่สวยงาม มีเครื่องประดับประดาพร้อมหมดสวยงามมาก
เมื่อเราละโลกไปแล้วถ้าสั่งสมกุศลธรรม กายทิพย์นี้จะนำไปเกิด ไปเกิดเป็นกายทิพย์ อยู่ในสุคติ โลกสวรรค์ นี่เป็นกายของชาวสวรรค์เค้า เมื่อหยุดต่อไปอีกในกลางนั้น ถูกส่วนเข้าก็จะพบดวงธรรมภายในซ้อน ๆ ๆ กันอยู่เข้าไปเรื่อย อีก ๖ ดวง ในที่สุดก็จะเข้าถึง กายกายหนึ่งในกลางดวงที่ ๖ คือกายรูปพรหม สวยงามหนักยิ่งขึ้นคล้าย ๆ กายทิพย์ แต่ว่าสวยกว่าปราณีตกว่า ละเอียดกว่า ในกลางกาย รูปพรหม ก็มีดวงธรรมต่าง ๆ ซ้อนกันอยู่เช่นเดียวกัน ๖ ดวง พอสุดดวงที่ ๖ ก็เข้าถึงกายอรูปพรหม ลักษณะคล้ายๆ กายรูปพรหม แต่ว่าสวยงามกว่า ละเอียดกว่าซ้อนอยู่ภายใน ในกลางกายอรูปพรหมก็มีดวงธรรมต่าง ๆ ซ้อนอยู่ ๖ ดวงในทำนองเดียวกันพอสุดดวงที่ ๖ ก็เข้าถึงกายธรรม กายนี้แหละเป็นกายสำคัญ ลักษณะสวยงามมากคล้าย ๆ กับพระพุทธรูป แต่ว่าสวยงามกว่าพระพุทธรูปที่มนุษย์ปั้น
เนื่องจากประกอบด้วย ลักษณะมหาบุรุษครบถ้วนทุกประการ สวยงามมากเลย กายนี้แหละที่มีจักขุเกิดขึ้นดังกล่าวแล้ว จักขุ ญาณเกิดขึ้นอยู่ในกายนี้ ปัญญา วิชชา แสงสว่าง เกิดขึ้นอยู่ในกายนี้ ถ้าเดินทางสายกลางตามที่พระพุทธเจ้าท่านสอนแล้วล่ะก็ จะพบอย่างนี้นะจ๊ะ จะพบอย่างนี้ พบซ้อนกันอยู่ภายในในกาย ธรรมนี้เป็นกายที่สำคัญ สำคัญที่สุด จะทำให้เรารู้แจ้ง เห็นแจ้งแทงตลอดในชีวิตของเราและสรรพสัตว์ทั้งหลาย สรรพสัตว์สรรพสิ่งทั้งหลาย และเมื่อถึงกายธรรมนี้ ความรู้ยิ่งในทางพุทธศาสนาก็จะเกิดขึ้น ความรู้พร้อม รู้ลึก รู้กว้าง รู้ไกล รู้ได้รอบตัว ก็จะเกิดขึ้น และเป็นไปเพื่อบรรลุมรรคผลนิพพาน นี่นะจ๊ะ กายนี้สำคัญนะ ถ้าปฏิบัติทางสายกลางต้องได้อย่างนี้ ต้องได้อย่างนี้
ขอให้ท่านที่มาใหม่สมมุติ หยิบเส้นด้ายขึ้นมา ๒ เส้นนำมาขึงให้ตึง เส้นด้ายเส้นหนึ่งขึงจากสะดือทะลุไปด้านหลัง อีกเส้นหนึ่งให้ขึงจากด้านขวาทะลุไปด้านซ้าย ให้เส้นด้ายทั้ง ๒ ตัดกันเป็นกากบาท จุดตัดเล็กเท่ากับปลายเข็ม เหนือจุดตัดนี้ขึ้นมา ๒ นิ้วมือ โดยสมมติเอานิ้วชี้กับนิ้วกลางวางซ้อนกัน แล้วนำไปทาบตรงจุดตัดของเส้นด้ายทั้งสอง สูงขึ้นมา ๒ นิ้วมือ เรียกว่าศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ เรียกว่าศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ เป็นที่ที่เราจะต้องเอาใจของเรามาหยุดอยู่ที่ตรงนี้ เพราะว่าฐานที่ ๗ นี้ เป็นทางที่พระพุทธเจ้าพระอรหันต์ทั้งหลาย เสด็จเข้าสู่พระนิพพาน โดยอาศัยผ่านเส้นทางสายกลาง จากกลางกายฐานที่ ๗ ตรงนี้
เพราะฉะนั้นให้เอาใจเนี่ยะมาหยุดอยู่ที่ตรงนี้ เอาใจเนี้ยะมาหยุดอยู่ที่ตรงนี้ ใจที่แวบไปแวบมา คิดไปในเรื่องราวต่าง ๆ ให้ประคองประคับประคองแล้วก็นำมาหยุดอยู่ที่ตรงนี้ ตรงฐานที่ ๗ เหนือจากจุดตัดของเส้นด้ายทั้ง ๒ ขึ้นมา ๒ นิ้วมือน่ะ เอาใจหยุดอยู่ที่ตรงนี้นะจ๊ะ โดยกำหนดบริกรรมนิมิตขึ้นมาในใจ โดยกำหนดบริกรรมนิมิตขึ้นมาในใจ กำหนดก็คือการสร้างมโนภาพขึ้นมา ว่าที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ นี้มีเครื่องหมายที่ ใส สะอาด บริสุทธิ์ ประดุจเพชรลูกที่เจียระไนแล้ว ไม่มีขีดไม่มีข่วนคล้ายขนแมว โตเท่ากับแก้วตาของเราน่ะ
สร้างมโนภาพนะคือ สมมติว่าตรงฐานที่ ๗ นี้ มีเครื่องหมายที่ใส สะอาด บริสุทธิ์ ประดุจเพชรลูกที่เจียระไนแล้ว ไม่มีขีดข่วนคล้ายขนแมว โตเท่ากับแก้วตาของเรา ให้ใจของเราตรึกนึกถึงดวงใส หยุดไปที่จุดกึ่งกลางของความใส บริสุทธิ์ ใจตรึกนึกถึงความใส หยุดไปที่จุดกึ่งกลางของความใสบริสุทธิ์ ของบริกรรมนิมิต นึกอย่างเบา ๆ สบาย ๆ ให้ต่อเนื่องกันไป ตรึกนึกถึงดวงใส หยุดไปที่จุดกึ่งกลางของความใสบริสุทธิ์ อย่างสบาย ๆ ให้ต่อเนื่องกันไป อย่าเผลอนะจ๊ะ อย่าเผลอไปคิดเรื่องอื่น ตรึกให้ต่อเนื่องกันไป พร้อมกับภาวนาในใจ พร้อมกับภาวนาในใจโดยให้เสียงของคำภาวนา ดังออกมาจากจุดกึ่งกลางของบริกรรมนิมิต โดยให้เสียงของคำภาวนา ดังออกมาจากจุดกึ่งกลางของบริกรรมนิมิต ภาวนาว่า สัมมาอะระหัง ๆ ๆ ๆ ๆ ภาวนาไปเรื่อย ๆ นะจ๊ะ
ทุกครั้งที่เราภาวนา เราจะต้องไม่เผลอจากบริกรรมนิมิต คือตรึกนึกถึงดวงใส เอาใจหยุดไว้ที่จุดกึ่งกลางความใส บริสุทธิ์ ทุกครั้งที่เรานึกถึงบริกรรมนิมิต จะต้องไม่ลืมภาวนาสัมมาอะระหังเนี้ยะ ภาวนาอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จะกี่สิบครั้ง กี่ร้อย กี่พัน กี่หมื่น กี่แสนครั้งก็ตาม ทุกครั้งที่ภาวนา ต้องตรึกนึกถึงดวงใส หยุดไปที่จุดกึ่งกลางของความใสบริสุทธิ์ ต้องทำอย่างนี้ควบคู่กันไปนะจ๊ะ ถ้าหากว่าเราไม่เผลอจากบริกรรมทั้ง ๒ ถ้าไม่เผลอจากบริกรรมทั้ง ๒ ไม่ช้าใจก็จะหยุดนิ่ง ไม่ช้าใจก็จะหยุดนิ่ง พอใจหยุดนิ่งถูกส่วน คำภาวนา สัมมาอะระหัง มันก็จะเลือนหายจากใจ เหลือแต่ดวงใสอย่างเดียว เกิดขึ้นที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ดวงใสที่เรากำหนดนั่นน่ะ จะเกิดขึ้นมาเหลืออยู่อย่างเดียว พร้อมกับความรู้ตัวภายใน ใจจะหยุดอยู่ที่ตรงนั้นนะ อยู่ที่ดวงใส
เมื่อเป็นอย่างนี้ก็ให้ตรึกถึงดวงใสอย่างนั้นไปเรื่อย ๆ ประคองไปเรื่อย ๆ พอถูกส่วนเข้าก็เข้าถึงปฐมมรรคดังกล่าวแล้วนะ แล้วก็จะพบกายในกายไปตามลำดับ นี่ต้องทำกันอย่างนี้นะจ๊ะ ถ้าได้ดวงใสอย่างนี้แล้ว นั่นแหละพบหนทางสายกลางแล้ว หนทางสายกลางก็จะเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าหนทางที่จะไปสู่อายตนนิพพานนั่นน่ะ เราได้พบแล้ว ถูกต้องแล้ว ไม่ช้าเราจะไปสู่อายตนนิพพาน ได้ เพราะฉะนั้นหยุดนิ่งนี่เป็นตัวสำเร็จ เป็นสิ่งสำคัญนะจ๊ะ หยุดกับนิ่งนี่สำคัญทีเดียวให้ถูกส่วน ถ้าถูกส่วนแล้วเดี๋ยวดวงใสเกิดขึ้น เกิดอยู่ตรงกลางกายฐานที่ ๗ ถ้าปฏิบัติได้อย่างนี้ ปิดประตูอบายภูมิ ปิดประตูอบายภูมิถ้ารักษาสิ่งนี้เรื่อยไปนะ จนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายน่ะ
ถ้าได้อย่างนี้แล้ว ปิดประตูอบายภูมิเลย ตายแล้วไปสู่สุคติ ตรงนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ ที่ทุกคนจะต้องทำให้ได้ เมื่อเข้าใจอย่างนี้แล้ว ขอให้ทุก ๆ ท่านเอาใจมาหยุดอยู่ที่ตรงนี้นะจ๊ะ หยุดนิ่งให้ใจใส ใจสบาย ตรึกนึกถึงดวงใส หยุดไปที่จุดกึ่งกลางของความใส บริสุทธิ์ พร้อมกับภาวนาในใจสัมมาอะระหัง ๆ ๆ ๆ ไปเรื่อย ๆ นะจ๊ะ ทุก ๆ คนนะ ภาวนาไปจนกว่าใจจะหยุดนิ่ง ใจหยุดนิ่งได้นั่นแหละจะเป็นใจที่เหมาะสมที่จะเป็นภาชนะรองรับมหากุศล เพราะฉะนั้นต้องทำใจให้หยุดนะอย่าให้ใจวอกแวกไปคิดเรื่องอื่นนะจ๊ะ อย่าลืมตาอย่าคุยกัน ให้หยุดนิ่งอยู่ที่ตรงนี้แหละ ต่างคนต่างทำกันไปเงียบ ๆ นะจ๊ะ ทุก ๆ คน
หยุดลงไปนะ ให้หยุดในหยุด หยุดในหยุด หยุดนิ่งเฉย ไม่ต้องภาวนาสัมมาอะระหังแล้วนะ หยุดนิ่งหยุดไปที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ตรึกนึกถึงดวงใส ใจหยุดไปที่จุดกึ่งกลางของความใสบริสุทธิ์นะจ๊ะ สำหรับท่านที่เข้าถึงปฐมมรรคแล้ว ก็เอาใจหยุดไปที่จุดกึ่งกลางของปฐมมรรค ท่านที่เข้าถึงกายมนุษย์ละเอียดก็เอาใจหยุดไปที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ของกายมนุษย์ละเอียด ท่านที่เข้าถึงกายทิพย์ ก็เอาใจหยุดไปที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ของกายทิพย์ ท่านที่เข้าถึงกายรูปพรหม ก็เอาใจหยุดไปที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ของกายอรูปพรหม ท่านที่เข้าถึงกายอรูปพรหม ก็เอาใจหยุดไปที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ของกายอรูปพรหม ท่านที่เข้าถึงกายธรรมก็เอาใจหยุดไปที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ของกายธรรม ท่านที่เข้าถึงกายธรรมในกายธรรม ก็เอาใจหยุดเข้าไปตามลำดับหยุดให้นิ่งทีเดียวนะจ๊ะ หยุดให้สนิทเลย หยุดในหยุด ๆ ๆ ตรึกในตรึก ๆ ๆ ลงไปเลยนะจ๊ะ
ตรงกลางศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ทุกกายจะอยู่ที่เดียวกัน ตรงกันกับที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ของกายมนุษย์หยาบ อยู่ตรงกลางที่เดียวนะจ๊ะ หยุดให้ดีนะ หยุดให้สนิทเลย หยุดให้ใจใสใจสบาย ใจใสใจสบาย มีความสุข สดชื่นเบิกบานอยู่ภายในหยุดให้ดี พระพุทธเจ้าจะอยู่ในอายตนนิพพานนะ มีแต่พระธรรมกายทั้งนั้น หน้าตัก ๒๐ วา สูง ๒๐ วา ขึ้นไปนะ เรื่อยไปเรื่อย ๆ เลย นั่งเข้านิโรธสมาบัติ เต็มไปหมดในอายตนนิพพานนะ อายตนนิพพานไม่มีอะไรกำบัง ไม่มีโบสถ์ ไม่มีวิหาร ไม่มีศาลาการเปรียญไม่มีถาวรวัตถุใด ๆ ไม่มีต้นหมากรากไม้ ภูเขาเลากา ไม่มีน่ะ เป็นที่โล่ง ๆ ว่าง ๆ เหมือนอวกาศโล่ง ๆ สว่างด้วยธรรมรังสีของพระธรรมกายพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ทั้งหลายเต็มไปหมดเลย สว่างเต็ม ท่านนั่งขัดสมาธิเข้านิโรธอยู่บนฌานสมาบัติเต็มไปหมดเลย สว่าง ไม่มีการไป ไม่มีการมา ไม่ยืนไม่เดิน ไม่นอน ไม่ไปไหนมาไหนน่ะ นั่งสงบนิ่งเพราะกิจอย่างอื่น ท่านไม่มีเหมือนมนุษย์ ท่านไม่ปวดไม่เมื่อยจึงไม่ต้องเปลี่ยนอิริยาบถ
เพราะฉะนั้นอริยาบถของผู้ที่มีชีวิตที่สมบูรณ์ เข้าถึงความสุขอันเป็นอมตะ พ้นจากกิเลสจากอาสวะแล้วก็คือ ท่านั่งขัดสมาธินี่แหละเป็นท่าของผู้ที่มีชีวิตที่สมบูรณ์ที่สุด และผู้ที่สมบูรณ์ที่สุดไม่มีกิจอย่างอื่น กิจอะไรก็ไม่มีนอกจากเข้ากลางของกลางไปเรื่อย ๆ เข้านิโรธสมาบัติ เสวยสุขที่เกิดขึ้น สุขในนิโรธนะ สุขอยู่ในนั้นน่ะมีสุขเพิ่มพูนขึ้น ยิ่งเข้ากลางเข้าไปเท่าไหร่ยิ่งสุขเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ สงบนิ่ง แต่ก็มีชีวิตจิตใจเหมือนอย่างเราอย่างนี้นะจ๊ะ ไม่ใช่เหมือนพระพุทธรูปที่นิ่ง ๆ ตาย ๆ อย่างนั้นนะ ท่านมีชีวิตจิตใจ แต่ว่าเป็นชีวิตจิตใจที่สะอาดบริสุทธิ์มีความสุขล้วน ๆ อยู่ในอายตนนิพพานน่ะเต็มไปหมดเลย นั่งเสวยสุขในกลางนั้นแล้วก็ศึกษาวิชชาธรรมกายไปเรื่อย ๆ ทําวิชชาต่อ ๆ ๆ ๆ ไปเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นไม่มีการไป ไม่มีการมา ไม่ยืน ไม่เดิน ไม่นอน นั่งอย่างเดียวน่ะนั่งนิ่งเฉย สุขจริง ๆ เลย สว่างไสวเต็มไปหมด
คราวนี้เราก็นึกน้อมด้วยใจนะจ๊ะ กราบนึกน้อม กราบขอบุญขอบารมี ขอรัศมีกำลังฤทธิ์ อำนาจสิทธิของพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ ขอบุญบารมีรัศมีกำลังฤทธิ์ อำนาจสิทธิให้ถึงแก่ลูก ๆ ชาย หญิง ทุกคน ทายกทายิกานะ ให้ได้ผลบุญทันตาเห็นในปัจจุบันนี้ มีความสุขกายสุขใจสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง อย่าเจ็บ อย่าป่วยอย่าไข้ ให้อายุยืนยาว ให้ได้สร้างบารมีไปนาน ๆ ให้มีสายสมบัติเกิดขึ้น ได้สร้างบารมีไม่รู้จักหมดจักสิ้น ให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข ให้ทำมาค้าขึ้น ซื้อง่าย ขายคล่อง กำไรงาม ประสบความสำเร็จในชีวิตของการสร้างบารมี ให้บุญบารมีของพระพุทธเจ้าปกปักรักษา จะเดินทางไปไหนมาไหนก็ให้ปลอดภัย ภัยพิบัติต่าง ๆ มีอัคคีภัย โจรภัย ราชภัย ภัย ทุกชนิดให้ละลายหายสูญให้หมด และให้ได้ผลบุญทันตาเห็น อธิษฐานอย่างไรก็ให้สําเร็จ ๆ ๆ ๆ เป็นอัศจรรย์ สำเร็จทุกเรื่องเลย
ที่เป็นนักธุรกิจทำธุรกิจการงานก็ให้ซื้อง่ายขายคล่องให้กำไรงาม ๆ เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐีผู้ใจบุญ อุปถัมภ์ พระพุทธศาสนาสืบต่อไปเหมือน อนาถบิณฑิกเศรษฐี หรือมหาอุบาสิกาวิสาขาอย่างนั้นน่ะ ที่เป็นนักศึกษาก็ให้มีสติปัญญาเลิศ เรียนรู้ความรู้จากครูบาอาจารย์ก็ให้ถ่ายทอดความรู้มาให้ได้หมด ให้แทงตลอดในความรู้ของครูบาอาจารย์ ท่านที่รับราชการก็ให้ไปให้สูงที่สุดในสายนี้เลย ให้ได้รับความร่วมมือจากผู้ร่วมงาน จะเป็นผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงานหรือผู้ใต้บังคับบัญชา สนับสนุนส่งเสริมเติมต่อไปเรื่อย ๆ ให้สูงที่สุด เนี่ยะคลุมบุญให้ดีให้ลูกหลานทุกคนอยู่เย็นเป็นสุขเป็นบัณฑิต เป็นนักปราชญ์ เป็นลูกแก้วของพ่อของแม่ เรียนทะลุปรุโปร่งไปให้หมดเลย
เนี้ยะคุณยายคุมบุญกราบทูลพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ส่งผังสำเร็จลงมาเนี้ยะ ผังสำเร็จซื้อง่าย ขายคล่อง กำไรงาม ปัญญาเลิศ ไปให้สูงที่สุดในสายนี้ ของทางราชการนะ และให้บรรลุมรรคผลนิพพานด้วย ให้ได้บรรลุมรรคผลนิพพาน ให้มีกำลังใจที่เข้มแข็งในการเป็นนักสร้างบารมีที่ไม่หวาดหวั่นอุปสรรคทั้งหลายทั้งมวล มุ่งแต่ความสำเร็จของเป้าหมายแห่งการสร้างบารมี ให้สำเร็จ ๆ ไป และให้บุญนี้ปกปักรักษาประเทศชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ วิชชาธรรมกาย ให้โลกสันติสุขที่แท้จริงบังเกิดขึ้นแก่โลกและลูก ๆ ชายหญิง ที่อยู่ต่างประเทศ จะอยู่ส่วนไหนของโลกก็ตามให้ประสบความสำเร็จความเจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกทางธรรม
โดยเฉพาะตอนนี้ลูก ๆ ชายหญิงอยู่ที่ LA ก็ดี นิวเจอร์ซีย์ก็ดี อยู่ที่ญี่ปุ่นก็ดี อยู่ต่างประเทศห่างไกลวัดพระธรรมกาย แต่ก็มีสายใยสายใจเชื่อมโยงกัน อาทิตย์ต้นเดือนก็มาบูชาข้าวพระพร้อมกัน ต้องขอพรขอบุญพิเศษให้ลูก ๆ ชายหญิงที่อยู่ต่างประเทศนั้น เจริญรุ่งเรืองไปไม่มีที่สิ้นสุด ให้เข้าถึงฐานะแห่งความเป็นเศรษฐีมหาเศรษฐีผู้ใจบุญ ให้มีสมบัติมาก ๆ ได้สร้างบารมี กันไม่รู้จักหมดจักสิ้น สนุกสนานบันเทิงเกี่ยวกับเรื่องการสร้างบารมีทีเดียว ให้สามัคคีกลมเกลียวเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อย่าทะเลาะเบาะแว้งกัน ให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข ให้ช่วยกันขยายงานพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกายไปทั่วโลก เพื่อให้เป็นที่พึ่งแก่มวลมนุษยชาติทั่วโลก เนี่ยคุณยายขอบุญพิเศษและลูกชายหญิงที่อยู่ใกล้ตัวเนี้ยะ ก็ให้มีบุญพิเศษให้สำเร็จ ๆ ๆ เป็นอัศจรรย์ ในสิ่งที่พึงปรารถนา
ตอนนี้กำลังคึกคักเกี่ยวกับเรื่อง การเป็นประธานรองในกฐินสามัคคีซึ่งมีคุณยายเป็นประธานใหญ่ ลูก ๆ ชายหญิงทุกคนน่ะ จริง ๆ แล้วอยากจะเป็นประธานรองกันทุกคน แต่บางคนก็ยังไม่มั่นใจว่าจะทำได้ก็ขอบุญพิเศษมาให้มีความมั่นใจ ล้านเปอร์เซ็นต์เลยให้ทำได้เต็มที่ เพราะความจริงแล้วการทำหน้าที่ประธานรอง เป็นสิ่งที่ง่ายนิดเดียว มีผู้ที่ทำไม่ได้ก็คือผู้ที่ไม่ได้ทำเท่านั้น มีอยู่ประเภทเดียวคือ ไม่ยอมเป็นประธานรอง ส่วนคนที่ยอมเป็นประธานรองได้ก็จะต้องทำได้ทุกคน เนี้ยะเอาบุญพิเศษให้เติมบุญบารมีไปที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ของลูก ๆ ทุกคน ให้ทําหน้าที่ประธานรองให้ได้
ให้เกิดเป็นความสำนึกว่าหน้าที่ของการส่งเสริมพระพุทธศาสนาฝ่ายระดมทุนนั้นเป็นหน้าที่ของอุบาสกอุบาสิกา ลูกชายหญิงทุกคนจะต้องมาช่วยสนับสนุน ส่วนพระเณรนั้นทำหน้าที่ศึกษาเล่าเรียน ฝึกฝนตนเอง แล้วก็สั่งสอนผู้อื่นตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ฝ่ายระดมธรรม เป็นเรื่องของพระฝ่ายระดมทุนเป็นเรื่องของสาธุชนทั้งหลายลูกชายหญิงทั้งหลายให้ได้เกิดกำลังใจอันสูงที่จะมุ่งมั่นสร้างบารมีอย่างนี้ให้ได้ และก็ขอบุญพิเศษว่าลูกชายหญิงทุกคนต้องประกอบสัมมาอาชีวะ ทำมาหากินให้ไปตามสมบัติมาให้ได้เยอะๆ ให้ได้เป็นอัศจรรย์เลย ได้มาแล้วก็คิดสร้างบารมีอย่างเดียว สร้างบารมีแล้วก็ไม่เสียดาย ให้ปลื้มปิติยินดีหมด
เพราะฉะนั้นให้เชื่อมสายสมบัติให้ติดหมดทุกคน ติดที่ศูนย์กลางกาย ตอนนี้สายสมบัติได้เชื่อมมาที่ศูนย์กลางกายของลูกชายหญิงกันแล้วนะจ๊ะ เป็นสายขาวใสบริสุทธิ์ติดตรงกลางเราต้องทับทวีอยู่ในกลางนั้นน่ะ ใจนึกถึงสมบัติก้อนนี้เลย นึกตรงกลางนึกทุกวัน นึกทุกคืน นึกทั้งนั่ง นอน ยืน เดิน นึกตลอดเวลา สมบัติมันจะได้เกิดขึ้น ได้สำเร็จอย่างที่ได้ตั้งใจเอาไว้ ตรึกเอาไว้ให้ดีนะ ให้คุณยายทับทวีขึ้นไปเรื่อย ๆ บูชาข้าวพระไปถวายข้าวพระไปแล้วก็ขอบุญไปเรื่อย ๆ เติมบุญไป แก้ไขไป คราวนี้ลูกชายหญิงทุกคนต้องอธิษฐานจิตให้ดีนะ จะปรารถนาอะไรก็ตาม เอาใจตั้งมั่นให้ดีนะจ๊ะ ตั้งให้ดีนะ ตั้งไปที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ทำใจให้เบิกบาน ให้แช่มชื่น ให้เข้มแข็งเหมือนเป็นแม่ทัพที่จะออกศึกให้เข้มแข็ง และก็อธิษฐานจิตตามใจชอบนะจ๊ะ
อธิษฐานให้ดีนะอธิษฐานให้ดี จะสำเร็จทุกเรื่องเลย เพราะตอนนี้พระนิพพานท่านกำลังส่งผังสำเร็จมาติดอยู่ที่ศูนย์กลางกายน่ะ สว่างไสวกันทุกคนเลย ใครตั้งใจมากก็ติดมาก ตั้งใจน้อยก็ติดน้อย เพราะฉะนั้นเมื่อเรามีโอกาสตั้งใจแล้วก็ต้องตั้งใจให้มันเต็มที่เลย ตั้งใจนะจ๊ะ อธิษฐานให้ดีนะ กำลังติดอยู่ที่ศูนย์กลางกายใสบริสุทธิ์ สว่างทีเดียวน่ะ ติดหมดเลย ทั้งพระ ทั้งเณร อุบาสก อุบาสิกา ทั้งในและนอกประเทศติดหมดเลยตอนเนี้ยะ ติดสว่างมาก อธิษฐานนะจ๊ะ อธิษฐานดี ๆ นะ ตั้งใจให้ดีให้มีความเชื่อมั่นในพระรัตนตรัยในธรรมกายเนี้ยะ เดี๋ยวความสำเร็จจะเกิดขึ้นอย่างที่เราไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลย เป็นความสำเร็จที่เป็นอัศจรรย์ ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรมกายของพระพุทธเจ้าอธิษฐานให้ดีนะ