ธรรมทาน

วันที่ 25 มิย. พ.ศ.2567

240667b01.jpg

ธรรมทาน

พระธรรมเทศนาเพื่อการปฏิบัติธรรม วัดพระธรรมกาย
โดย... พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)


                เมื่อตรัสรู้ธรรมแล้วหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะแล้วน่ะ จะแนะนำสั่งสอนผู้อื่นสัตว์โลกทั้งหลายให้ธรรมทานแก่สัตว์โลกทั้งหลายได้บรรลุธรรมตามนั้นไปด้วย เช่นเดียวกับพระองค์นั่นคือความปรารถนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ทั้งในอดีตปัจจุบันอนาคตก็จะปรารถนาตรงกันอย่างนี้แหละ เพราะฉะนั้นท่านถึงได้ยืนยันว่าการให้ธรรมทานเป็นสุดยอดกว่าการให้ใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะนั่นคือการสร้างคนดีให้บังเกิดขึ้นแก่สังคม ชี้หนทางสว่างในการดำเนินชีวิตไปสู่อายตนะนิพพาน 

 

        
                ให้ทุกท่านตั้งใจชำระกายวาจาใจของเราให้สะอาด ให้บริสุทธิ์ให้ผ่องใส จะได้เหมาะสมที่จะเป็นภาชนะรองรับบุญใหญ่ที่จะเกิดขึ้น จากการสร้างมหาทานบารมีกันนะจ๊ะ ให้ทุกท่านหลับตาเจริญสมาธิภาวนากัน ให้นึกถึงพระแก้วขาวใสสะอาดบริสุทธิ์ ประดุจทำด้วยเพชรที่เจียระไนแล้วไม่มีขีดข่วนคล้ายขนแมว เป็นสิ่งแทนตัวพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ในอายตนะนิพพาน นึกอาราธนาให้ท่านสิงสถิตอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ โดยให้ท่านหันหน้าออกไปทางเดียวกับตัวของเรา ให้นึกถึงท่านอย่างสบาย ๆ แล้วก็นึกให้ต่อเนื่องกันไป อย่าให้เผลอด้วยใจที่เยือกเย็น การที่เรานึกถึงองค์พระแทนพระสัมมาสัมพุทธเจ้านี้ จะทำให้กายวาจาใจของเราสะอาดบริสุทธิ์จนกระทั่งเหมาะสมที่จะเป็นภาชนะรองรับบุญกุศลที่จะเกิดขึ้นอย่างเต็มที่

 


                เพราะฉะนั้นทำใจให้ใสให้สะอาดให้บริสุทธิ์ในการนึกไปเรื่อย ๆ เลยนะจ๊ะ ส่วนขนาดขององค์พระ แล้วแต่ว่าใจของเราชอบ เราชอบขนาดใหญ่ก็นึกองค์ใหญ่ ชอบขนาดเล็กเราก็นึกถึงองค์เล็กแต่ก็ต้องนึกอย่างสบาย ๆ นึกด้วยใจที่ใสบริสุทธิ์ ให้เยือกเย็น ให้ใจเรากับองค์พระเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ถ้าใจของเรากับท่านเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ด้วยบุญที่เราจะได้ในวันนี้ก็จะยิ่งใหญ่ไพศาล ทำน้อยก็จะได้ผลเยอะ ทำเยอะก็จะได้ผลมาก ปัจจัย ๔ ที่เราแสวงหามามาทำบุญในวันนี้เนี่น ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ได้มาด้วยความง่าย มันได้มาด้วยความยากลำบากโดยเฉพาะในยามนี้ ภาวะเศรษฐกิจของบ้านเมืองของเรานะตกต่ำ เงินจำนวนนี้จริง ๆ แล้วต้องเป็นเงินออมสำหรับเลี้ยงชีวิตของเราและของครอบครัวของเรา แต่ที่เราตัดใจไม่เสียดายก็เพราะ เราหวังบุญใหญ่ บุญใหญ่ซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งความสุขและความสำเร็จในชีวิตที่จะบังเกิดขึ้นทั้งในปัจจุบันและในอนาคต เมื่อเราละโลกไปแล้วตลอดจนกระทั่งทุกภพทุกชาติก็จะเป็นเสบียงส่งให้เราไปถึงที่สุดแห่งธรรม 

 


                เพราะหวังบุญอย่างนี้แหละเราจึงได้สละทรัพย์ขาดจากใจโดยไม่ได้เสียดาย เมื่อเป็นอย่างนี้ก็จะต้อง ก็จะต้องให้ใจของเรานี้ หยุดนิ่งให้ใสให้สะอาดให้บริสุทธิ์ อย่าให้มันฟุ้งซ่าน บุญนี้เป็นบ่อเกิดแห่งความสุข และความสำเร็จในชีวิตของเรา ทั้งที่เป็นมนุษย์และเมื่อเราละโลกไปแล้ว บุญก็ยังส่งผลอีก ให้เราได้เกิดในสุคติโลกสวรรค์ มีความสุขอยู่ในสุคติภพ มีรัศมีที่สว่างไสว มีบริวารมีสมบัติอันเป็นทิพย์ มีความเป็นใหญ่ มีความสุข มีความสบายในภพทิพย์อันยาวนาน นานเป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสนปี เป็นกัปปีทีเดียวนานจนกระทั่งเรานึกไม่ถึงมันจะนานขนาดนั้น 

 


                เพราะฉะนั้นเรื่องบุญนี้เป็นเรื่องสำคัญนะจ๊ะ เป็นพลังงานชนิดหนึ่งที่มีอานุภาพมาก เกิดขึ้นเมื่อจิตเป็นกุศล เมื่อเราให้ทาน เรารักษาศีลและเราเจริญภาวนาทำให้กายวาจาใจเราสะอาดบริสุทธิ์จากความโลภ ความโกรธ ความหลง กระแสบุญก็เกิดขึ้นอยู่ภายใน เป็นความสว่างเป็นความบริสุทธิ์และก็รวมเป็นดวงกลมเหมือนดวงแก้วเรียกว่าดวงบุญ ในกลางนั้นก็มีกระแสแห่งบุญน่ะอัดแน่นเต็มไปหมด ประกอบเป็นผังสำเร็จติดตัวเราไปในภพเบื้องหน้า ถ้าบุญเกิดขึ้นจากการให้ทาน ผังสำเร็จนั้นก็จะส่งผลให้เป็นคนมีโภคทรัพย์สมบัติ ถ้าบุญเกิดจากการรักษาศีลก็จะส่งผลให้เรามีรูปที่งาม มีอายุยืนยาวปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ มีความแข็งแรงสดชื่นตลอดเวลาที่มีกายมนุษย์อยู่ ถ้าบุญที่เกิดจากการเจริญภาวนาก็จะเป็นผังสำเร็จให้เรามีดวงปัญญาที่สว่างไสว แทงตลอดทั้งทางโลกทางธรรม 

 


                และในกระแสแห่งบุญที่ประกอบเป็นผังสำเร็จในการให้ทานรักษาศีลและเจริญภาวนานั้น ยังแยกย่อยต่อไปอีก ทำทานประเภทไหนก็จะมีกระแสบุญอีกอย่างหนึ่งมันเกิดขึ้น ทำปริมาณเท่าไหร่มีความตั้งใจมุ่งมั่นเพียงไรบุญก็ให้ส่งผลไปอีกอย่างหนึ่ง ก็แตกต่างกันไป ถ้าทำบุญอย่างที่ใครคาดไม่ถึง มีความตั้งใจถูกเนื้อนาบุญ ทุ่มสุดตัวเวลากระแสธารแห่งบุญบังเกิดขึ้น ก็จะได้รับผลเป็นอัศจรรย์ที่เรานึกไม่ถึงทีเดียว และเราก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น อย่างคำว่าสมบัติตักไม่พร่อง ซึ่งเป็นสมบัติจักรพรรดิเราจะนึกไม่ถึงเลย เรามักจะนึกถึงว่าการใช้สมบัตินั้นอย่างไรมันก็พ่อง คดข้าวในหม้อเนี่ยไม่ช้ามันก็หมดหม้ออย่างนี้เรานึกออก เพราะเราเห็นกันจนเจนตาแต่ไอ้ที่สมบัติตักไม่พล่องนี่ เรานึกไม่ออก จะคิดยังไงก็คิดไม่ออก มันเหนือวิสัยของการนึกคิดมันเป็นเรื่องของอานุภาพแห่งบุญ ที่เหนือกฏเกณฑ์ของธรรมชาต ที่เรารู้เห็นได้ด้วยตาของเรา เพราะฉะนั้นมันก็จะแยกย่อยกันออกไปอีก

 


                การรักษาศีลและการเจริญภาวนาก็เช่นเดียวกัน มันก็จะเป็นผังสำเร็จติดตัวเราไปแยกย่อยกันออกไป ใครทุ่มสุดตัวในการสร้างมหาทานบารมีเนี่ย สร้างมหาเจดีย์ สภาธรรมกายสากล หรือมหาวิหารพระมงคลเทพมุนี หรือสิ่งใดที่นอกเหนือจากนี้ก็ตาม ถ้าทำตัวประดุจว่าเราเป็นเจ้าของบุญ ทุ่มกันเต็มที่เลยเวลากำลังบุญส่งผลก็จะส่งผลให้เราเนี่ยมีโภคทรัพย์มากมายมหาศาลกว่าคนอื่นทั้งหมด ได้เป็นผู้นำกันไปทุกภพทุกชาติ ถ้าเทียบทางโลกก็เป็นผู้ปกครองประเทศ ถ้าระดับต่ำลงมาก็ปกครองกันในกรมในกองต่าง ๆ แต่ถ้าหากว่าทำบุญกันไปตามกำลังเก็บเกี่ยวกันไปเหมือนเก็บแสตมป์เป็น Collection ทำเสาบ้างทำพื้นบ้างทำบางส่วนแล้วก็ปลื้มใจว่าบุญนี้เราได้ทำแล้ว บุญเสาร์เข็มเราก็ทำ บุญเสาร์ค้ำเราก็ทำแล้ว บุญเสาหลักเราก็ทำพระธรรมกายประจำตัวเราก็ทำ ธรรมกายเจดีย์บางส่วนเราก็ทำแล้วเนี่ย แล้วก็ไม่ได้ทุ่มสุดตัวให้ธรรมกายเจดีย์สำเร็จแต่ก็เกิดเก็บความปิติยินดีว่าเราได้เก็บบุญเล็กบุญน้อยกันไปอย่างนั้น เพราะฉะนั้นเวลากำลังบุญส่งผลมันก็ส่งผลไปตามกำลัง 

 


                ถ้าหากว่าในทางโลกรับราชการก็เริ่มกันตั้งแต่เป็นเสมียนกันเรื่อยมาเลย ต่ายเต้ามาตามลำดับแต่ว่าไปไม่ถึงสิ้นสุดสักทีนึง เขาก็ไม่ได้ทุ่มเทชีวิตจิตใจมาเป็นของของเรา แต่ถ้าหากว่าทุ่มกันอย่างเต็มที่ไปเลย คิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรจึงจะสำเร็จ มีเรี่ยวมีแรงแค่ไหนทุ่มกันสุดตัวอย่างนี้มาหาสมบัติจักรพรรดิจะบังเกิดขึ้น ที่ตักแล้วก็ไม่พร่อง เพราะใจนั้นไม่อิ่มไม่เต็มเลยถ้างานนั้นยังไม่เสร็จ งานสำเร็จเมื่อไหร่ก็จะอิ่มเต็มอย่างนี้มหาสมบัติจักรพรรดิก็จะมาเกิดขึ้นให้กับเราได้มาใช้สร้างบารมีกันต่อไป จะไปเกิดเป็นชาวสวรรค์ก็จะต้องไปเป็นผู้ปกครองเขา มีฤทธิ์มีอานุภาพ มีรัศมีเนี่ย มากกว่าชาวสวรรค์ทั้งหลาย เกิดลงมาเป็นมนุษย์อีกก็จะมีสมบัติที่ยิ่งใหญ่ 

 


                ในประวัติศาสตร์สมัยพุทธกาลที่มีจารึกอยู่ในพระไตรปิฎก ถ้าหลวงพ่อจำไม่ผิดก็มีอยู่ ๙ ท่าน ที่มีสมบัติที่เป็นอัศจรรย์ ๙ ท่านในสมัยพุทธกาลซึ่งมีคนเกิดขึ้นในยุคนั้นก็ไม่น้อย มหาเศรษฐีก็มากแต่เป็นยอดของมหาเศรษฐีมีเพียง ๙ ท่านเท่านั้นเอง ก็เพราะว่า ๙ ท่านนั้นในอดีตชาติท่านสร้างบารมีกันอย่างสุดตัวทีเดียว เพราะฉะนั้นจะเป็นมนุษย์ก็ดีเป็นชาวสวรรค์ก็ดีของท่านก็จะมีกำลังทรัพย์ที่มากมายมหาศาลนี่ ก็มีปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎก หลวงพ่อได้ศึกษาปฏิปทาของมหาเศรษฐีในท่านเหล่านั้นน่ะ น่าอัศจรรย์  น่าทึ่งจนกระทั่งเรานึกไม่ถึง บางครั้งก็ไม่น่าเชื่อเหลือเชื่อ แต่ว่ามันก็เป็นความเป็นจริงมัน มันก็เกิดขึ้นอย่างนั้นจริง ๆ แม้มาบวชเป็นพระกระแสบุญที่เกิดจากการสร้างมหาทานนั้นน่ะ เป็นพระก็ยังสมบูรณ์ไปด้วยปัจจัยสี่อันควรแก่สมณะบริโภค สมบูรณ์ไปด้วยลาภสักการะ ได้เข้าถึงความเป็นใหญ่และได้บรรลุมรรคผลนิพพาน

 


                ส่วนผู้ที่บำเพ็ญภาวนาอย่างเดียว แต่ว่าไม่ค่อยได้สร้างมหาทานบารมี แม้เป็นพระก็ไม่มียศใหญ่ไม่มีลาภสักการะ แต่ว่าได้บรรลุมรรคผลนิพพานได้ ชีวิตนั้นอัตคัดขาดแคลน ปฏิบัติธรรมก็เป็นประเภทปฏิบัติลำบาก แต่ว่าตรัสรู้ได้เข้าถึงธรรมได้ เพราะฉะนั้นการสร้างมหาทานบารมีนี้เป็นเรื่องที่สำคัญที่ยิ่งใหญ่ หลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ ท่านเคยสั่งสอนเอาไว้ว่าบารมีอื่นน่ะทำก็ทำไปเถอะ แต่จะขาดทานบารมี เพราะทานบารมีนี้จะเป็นเสบียงติดตัวเราไปในภพเบื้องหน้า ถ้าหากว่าเราขาดเสบียง ขาดกำลังทรัพย์เวลาไปเกิดมักจะเกิดในตระกูลต่ำ ที่จะต้องใช้แรงงานลงทุนมากแต่ได้ผลน้อย มักจะไปเป็นหนี้เป็นสินเขา อาชีพที่ประกอบนั่นน่ะ ถ้าประกอบด้วยสัมมาอาชีวะก็ไม่พอกิน ก็จะต้องคิดไปในทางทุจริต เพราะว่าทรัพย์ไม่พอแต่ถ้าหากว่ามีมหาทานบารมีที่สร้างเอาไว้เมื่อกระแสบุญส่งผลก็จะสมบูรณ์ไปด้วยโภคทรัพย์สร้างบารมีกันไปได้อย่างสะดวกสบายอย่างง่ายดาย 

 


                เพราะฉะนั้นในวันนี้ที่พวกเราทั้งหลายมากันนั่นแหละล้วนแต่เป็นยอดนักสร้างบารมีกันทั้งสิ้นตั้งใจที่จะมาตักตวงบุญใหญ่มาทอดกฐินสามัคคี ในวาระที่สำคัญของคุณยาย พูดถึงคุณยายของเรานะจ๊ะ คุณยายอุบาสิกาจันทร์ ฯ ตลอดชีวิตของท่านนั้นน่ะ ท่านสร้างความดีมาตลอด ออกบวชตั้งแต่อายุ ๒๙ ปีแล้วก็ปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญมาตลอดเลย ตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๒ จนกระทั่งอยู่ทำวิชชาปฏิบัติธรรม กับหลวงพ่อวัดปากน้ำในขณะเกิดสงครามโลกเรื่อยมาเลย จนกระทั่งหลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญมรณภาพ การทำความเพียรของท่านนั้นน่ะ เป็นที่เลื่องลือในหมู่สหธรรมิก ท่านทำตลอดเวลาท่านมีความตั้งใจ ตั้งใจจริงที่จะศึกษาวิชชาธรรมกายร่างกาย ท่านก็แข็งแรงท่านทำความเพียร จนกระทั่งตัวท่านสะพรั่งไปด้วยเส้นเอ็น ศึกษาวิชชาธรรมกายกับหลวงพ่อวัดปากน้ำ มาตลอดทีเดียว การศึกษาวิชชาธรรมกายนั่นน่ะ ศึกษาด้วยการทำใจหยุดทำใจนิ่ง โดยหลวงพ่อวัดปากน้ำท่านค้นพบว่า ต้นเหตุแห่งความทุกข์ทรมานของสรรพสัตว์และสรรพสิ่งทั้งหลายนั่นน่ะ ต้นเหตุนั่นก็คือพญามารนั่นเอง 

 


                คำว่าพญามารก็แปลว่าผู้ขวาง ขวางในการทำความดี ในพระไตรปิฎกก็มีกล่าวเอาไว้หลายตอนทีเดียว เกี่ยวกับเรื่องของพยามาร แม้ในศาสนาอื่นก็มีการกล่าวถึงพญามารแต่บางครั้งก็เรียกว่าซาตาน แล้วแต่จะเรียกชื่อแต่สรุปก็คือ ก็พยามารนั้นเอง หรือพูดง่าย ๆ ว่า มีการต่อสู้กันใน ๒ สิ่ง ระหว่างธรรมะกับอธรรม บุญกับบาปความดีกับความชั่ว ความมืดกับความสว่างความไม่รู้กับความรู้ความบริสุทธิ์กับสิ่งที่เป็นมลทิน ได้ต่อสู้กันอยู่ตลอดเวลา และท่านก็ค้นพบไปว่าถ้าไม่ไปดับต้นเหตุของผู้ที่ ผลิตความทุกข์ทรมานขึ้นมาทุกข์ทั้งหลาย ไม่มีวันหมดไปจากสัตว์โลก ความเบียดเบียนจะไม่มีวันหมดสิ้นไป เพราะฉะนั้นท่านมองเห็นได้ด้วยวิชชาธรรมกาย ด้วยธรรมจักขุของธรรมกายด้วยญาณทัศนะของธรรมกาย 

 


              เพราะฉะนั้นท่านก็มุ่งเข้าไปสู่ภายใน ท่านกล่าวว่าการรบกันในเมืองมนุษย์นั้นน่ะเป็นการรบที่ไม่ถูกต้องเป็นการรบกันเองยังไม่ถูกตัวจริง ถูกตัวจริงต้องรบกับกิเลส รบกับต้นเหตุของกิเลสซึ่งคือพญามารนั่นเอง ปราบมารหมดสิ้นไปเมื่อไหร่ความโลภ ความโกรธ ความหลงที่บังคับสรรพสัตว์ และสรรพสิ่งทั้งปวงก็จะหมดสิ้นไป เมื่อหมดสิ้นไปแล้วก็เหลือแต่ความดีงามที่บังเกิดขึ้นด้วยญาณทัสสนะด้วยธรรมจักขุของพระธรรมกายมองเห็นเรื่อยไปตามลำดับ ของความละเอียดยิ่งละเอียดลุ่มลึกลงไปตามลำดับก็จริงเห็นกว้างขวางใหญ่โตออกไป การเกี่ยวพันกันไปหมด เกี่ยวโยงกันไปหมดอย่างนี้เลย เพราะฉะนั้นมีประการเดียวคือต้องปล่อยให้ถึงที่สุดแห่งธรรม แต่งานนี้ทำตามลำพังไม่ได้ ต้องทำกันเป็นทีมและทั้งทีมนั้นก็ต้องมีความรู้เท่าเทียมทันกันทั้งทีม คือเข้าถึงวิชชาธรรมกายด้วยกันไปรู้ไปเห็นด้วยกัน ทำละเอียดพร้อม ๆ กันแล้วก็ต้อง ๒๔ น. จะทำแค่ครึ่งวันแล้วก็นอนหลับพักผ่อนไม่ได้ 

 


                เพราะฉะนั้นดูสังเกตในจิตใจของเรา บางครั้งเราก็มีศรัทธาอยากจะทำบุญ บางครั้งก็เฉย ๆ อยากอยู่ว่าง ๆ บางครั้งก็หวั่นไหวอะไรล่ะเป็นเหตุให้เรามีความนึกคิดอย่างนั้น ถ้าเราสาวไปหาเหตุเราก็จะพบว่า ช่วงไหนที่ใจเรามีกำลังใจอยากจะทำความดี ไม่หวั่นไหวในอุปสรรคทั้งมวล ในวาระนั้นกระแสธารแห่งบุญหรือฝ่ายบุญก็บังคับบัญชาเอาไว้ ตอนไหนที่เรามีความรู้สึกอยากอยู่เฉย ๆ บุญก็ไม่ทำกรรมก็ไม่อยากจะสร้างก็ไม่ได้สร้างอะไรก็จะมีกระแสธรรมที่เป็นกลาง ๆ ที่เรียกว่าอัพยากตธรรมเป็นธรรมกลาง ๆ เขาบังคับบัญชาอยู่ แต่ตอนไหนเนี่ยเบื่อหน่ายไม่อยากจะทำความดีนอกจากว่าอยากทำด้วยตัวเองแล้วก็ยังไปแนะนำคนอื่นไม่ให้ทำด้วย มีความเห็นที่ขัดแย้งแอนตี้กันบ้าง นั่นแหละเขาเข้าไปบังคับบัญชาภายในแล้ว แต่เรามองไม่เห็นเขา ถ้าหากว่าเราละเอียดกว่าเขาคือเข้าถึงธรรมกาย ทำวิชชาธรรมกายเป็น เราก็จะเห็นเขาชัดเจนทีเดียว กระแสแห่งความนึกคิดที่ไม่ดีนั่นน่ะ มันมีสาเหตุจากอะไรหยุดนิ่งเข้าไปเรื่อย ๆ เลย เดี๋ยวเราก็จะสาวไปหาเหตุพบต้นตอ พบผู้ต้นคิดน่ะ ที่เขาสอดละเอียดลงมาคิดบังคับบัญชาเราอยู่มันมีลักษณะเป็นอย่างไร เราก็จะเห็นกันชัดทีเดียว

 


                เพราะฉะนั้นหลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญท่านถึงมุ่งที่จะไปให้ถึงที่สุดให้ได้ ถ้าไปไม่ถึงที่สุดแล้วก็ยังเป็นบ่าวเป็นทาสของพญามารอยู่ร่ำไป เขาก็บังคับบัญชาได้ บังคับให้มนุษย์คิดไม่ดี พูดไม่ดีและก็ทำไม่ดีบังคับขันธ์ ๕ ของมนุษย์ให้มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน ตรึงเอาไปติดในสิ่งที่ไม่ดีบ้างและก็บังคับอากาศโลก ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล เศรษฐกิจตกต่ำ ให้เกิดข้าวยากมาแพง ๆ แห้งแล้งเหี้ยนเตียน ให้เกิดรบราฆ่าฟันกันเบียดเบียนซึ่งกันและกัน สะเทือนกันไปทั่วไปหมดเลย เพราะฉะนั้นต้องไปให้ถึงที่สุดนั่นแหละ ถึงจะเอาชนะเขาได้ ตลอดชีวิตของท่านก็จึงทำความเพียรอย่างนี้ทั้งวันทั้งคืน 

 


                คุณยายของเราก็เป็นหนึ่ง หนึ่งในนักรบกองทัพธรรมที่สู้กันด้วยจิตตานุภาพ ด้วยการหยุดการนิ่งด้วยธรรมาวุธภายใน สู้กันตลอดมาเลยกลางวัน ๖ ชั่วโมง กลางคืน ๖ ชั่วโมงผลัดเปลี่ยนเวรกันมาอย่างนี้แหละ จนกระทั่งหลวงพ่อวัดปากน้ำท่านเห็นว่าคุณยายนี้น่ะ มีฤทธิ์มีอานุภาพมีความเพียร มีกำลังใจที่เข้มแข็งทำความเพียร จนกระทั่งตัวสะพรั่งไปด้วยเส้นเอ็น ผ่ายผอมแต่ว่าดวงตาดวงใจนั้นเด็ดเดี่ยว แม้เส้นเอ็นจะปรากฏเกิดขึ้นก็ตาม ไม่ได้หวั่นไหวเลย ไม่มีอาการสะดุ้งกลัวต่อสิ่งเหล่านั้น ไม่สะดุ้งกลัวต่อมรณภัยไม่หวั่นไหวต่อสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ความอัตคัดอะไรต่าง ๆ เกิดขึ้นในวาระสงครามไม่ปริปากพูด มีแต่จิตใจที่มุ่งหน้าอย่างเดียว จะไปให้ถึงที่สุดให้ได้

 


                หลวงพ่อวัดปากน้ำเห็นอย่างนั้น เพราะว่าทำงานมาด้วยกัน เพราะฉะนั้นคำว่าหนึ่งไม่มีสองนี้เป็นคำยกย่องจากครูบาอาจารย์แม่ทัพทางธรรมที่มุ่งไปปราบมารให้ถึงที่สุดนั้นน่ะ เป็นคำที่ยิ่งใหญ่ไพศาลที่เดียว แม้ตอนนั้นคุณยายท่านฟังด้วยอาการปกติ ไม่มีใจที่กระเพื่อมไม่ลิงโลดใจท่านก็เฉย ๆ ซึ่งเป็นปกติของผู้ที่มีใจหยุดอย่างดีแล้ว ใจท่านก็สงบระงับวาจาก็สงบระงับกายก็สงบระงับ นิ่งรับฟังถ้อยคำนั้นด้วยใจที่เป็นปกติ แล้วก็ทบทวนดูว่าสิ่งที่หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านพูดนั้นน่ะหมายถึงอะไร เพราะฉะนั้นเมื่อหลวงพ่อวัดปากน้ำท่านกล่าวว่าลูกจันทร์มันหนึ่งไม่มี สอง ท่านก็รับด้วยอาการดุษณีภาพคือเป็นปกติอย่าง เช่นที่พระอาริยเจ้าทั้งหลายท่านจะรับอะไรก็แล้วแต่ก็รับด้วยอาการที่นิ่งรับฟังอย่างนั้น และท่านก็ทำของท่านเป็นปกติไม่ใช่ว่าได้รับความยกย่องจากครูบาอาจารย์แล้วเกิดความลิงโลดใจลืมเนื้อลืมตัว แสดงกิริยาอาการในที่ตัวแล้วมันไม่งามก็ไม่มีปรากฏ เคยทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้น ความดีอะไรที่มีมากขึ้น ท่านก็ทำเพิ่มเติมขึ้นไป ให้สมกับคำที่ครูบาอาจารย์ยกย่องว่าหนึ่งไม่มีสอง 

 


                เพราะฉะนั้นในวันนี้เนี่ยหลังจากทอดกฐินสามัคคีกันแล้วเนี่ยเราจะได้รับของขวัญเป็นที่ระลึกสำหรับผู้ที่สวนกระแสเศรษฐกิจตกต่ำ ไม่ได้หวั่นไหวในภาวะเหตุการณ์ของบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ก็ทุ่มชีวีสร้างบารมีทอดกฐินกับคุณยายของเรา ท่านอยากเห็นมหาธรรมกายเจดีย์สำเร็จในขณะที่ท่านยังมีสังขารที่สดชื่นอยู่ เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ และเทวดา เมื่อใครที่มาทำความปรารถนาของท่าน ให้สมหวังก็มีของขวัญ ที่สำหรับจะแจกในตอนหลังภายหลังจากทอดกฐินสามัคคีแล้ว เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ ของขวัญที่ระลึกอีกชิ้นหนึ่งที่จะมีค่าต่อไปในอนาคต เพราะได้ประกอบเกิดวิชชาธรรมกายน่ะ อาราธนาพระพุทธเจ้าที่เข้านิพพานไปเก่า ๆ แก่ ๆ นู่นทำความศักดิ์สิทธิ์ในพระของขวัญหนึ่งไม่มีสอง และก็มีรูปของคุณยายเพื่อเป็นเรื่องระลึกนึกถึงว่าท่านสร้างบารมีของท่านอย่างไรตั้งแต่อายุ ๒๙ จนกระทั่งถึง ๙๐ ปีในวันนี้น่ะ จะได้เป็นกำลังใจสำหรับผู้ที่ได้รับไปในวันนี้ได้ยึดเป็นเนติแบบแผนทำความดีเดินตามรอยท่านต่อไปอยากจะเป็นแบบท่านก็ต้องทำอย่างท่าน

 


                เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะได้ทอดกฐินสามัคคีและรับของขวัญอันมีคุณค่าต่อการระลึกถึงต่อการที่จะเอาไว้สำหรับปกป้องผองภัยต่าง ๆ ในวาระที่เศรษฐกิจตกต่ำนี้เนี่ย ขอให้พวกเราทุกคนทำกายวาจาใจของเราให้สะอาดให้บริสุทธิ์ ให้ผ่องใสบุญนี้เกิดขึ้นอยู่ในหลายระดับทีเดียว ตั้งแต่กำลังบุญส่วนตัวที่เราได้ทอดกฐินสามัคคี บุญอันที่ ๒ คือสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ บุญอันที่ ๓ คือทำความปรารถนาของคุณยายให้สำเร็จ บุญอันที่ ๔ ก็คือทำหน้าที่เป็นผู้นำบุญเป็นยอดกัลยาณมิตรไปชักชวนผู้เป็นเจ้าของบุญทั้งหลายนี้น่ะ มาร่วมบุญกันในวันนี้น่ะ เรามีบุญหลาย ๆ ชั้นทีเดียวที่จะติดตัวเราไปในภพเบื้องหน้า เพราะฉะนั้นกายวาจาใจ ที่สะอาดบริสุทธิ์จึงมีความจำเป็นสำหรับที่จะเป็นภาชนะรองรับบุญใหญ่ที่จะเกิดขึ้นนี้นะจ๊ะ เพราะฉะนั้นทำกายวาจาใจของเราให้ใสให้สะอาดให้บริสุทธิ์เท่าที่เราจะบริสุทธิ์ได้

 


                ถ้าพูดถึงมหาธรรมกายเจดีย์เรามีความจำเป็นที่จะต้องรีบสร้างให้มันเสร็จเร็วไว ซึ่งขั้นตอนของการก่อสร้างนั้น นับจากเดือนพฤศจิกาเป็นต้นไป ถ้าเราไม่หวั่นไหวต่อเศรษฐกิจตกต่ำ ถ้าเรามีกำลังใจที่เข้มแข็งสวนกระแสเศรษฐกิจกันแล้วละก็ การก่อสร้างก็จะดำเนินไปไม่มีอะไรสะดุดจนกระทั่งไปสำเร็จเสร็จสิ้นเอาเดือนมีนาคม ๒๕๔๒ นับจากวันนี้เป็นต้นไปก็เป็นเวลา ๑๘ เดือน ถ้าพวกเราพร้อมใจกันทุกคน มหาธรรมกายเจดีย์ก็จะสำเร็จในวันนั้นในปีนั้นแต่ถ้าหากพวกเราเห็นว่าภาระในตอนช่วงนี้เนี่ยมันมาก จำจะต้องเก็บเงินออมเอาไว้มีเราก็ทำไม่มีเราก็หยุด อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาไปอีก ๕ ปี  ๕ ปีในเมืองมนุษย์มีความหมายสำหรับร่างกายมนุษย์และการสร้างบารมีมากถ้าเราตัดสินใจว่าจะทำกันให้สำเร็จก็ต้องช่วยกันทำ เราซื้อเวลาด้วยเงินตราที่สูงกว่าปกติไปอีก ๑ เท่าตัว แต่ความสำเร็จบังเกิดขึ้นนั้นน่ะ มันก็จะอัศจรรย์ที่จะเกิดขึ้นแก่ตัวเราต่อไปในอนาคต 

 


                แต่หากถ้าเราทำไปตามกำลังมีแล้วก็สร้าง ไม่มีเราก็หยุดอีก ๕ ปีกว่างานจะสำเร็จแล้วจะสำเร็จหรือเปล่าก็ไม่ทราบและเราจะมีชีวิตอยู่ถึงวันนั้นหรือเปล่าก็ไม่รู้อีกเหมือนกัน เพราะฉะนั้นตามความเห็นส่วนตัวหลวงพ่อถ้าหากว่าเราตั้งใจกันอย่างเต็มที่ ช่วยกันตามเต็มกำลัง ทำด้วยตัวเองโดยคิดว่าจะต้องทำให้สำเร็จให้ได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ทุ่มกันสุดชีวิตทีเดียว ทั้งตัวเองและชวนคนอื่นเข้ามาทำไปด้วย อย่างนี้มหาธรรมกายเจดีย์ก็จะสำเร็จเป็นอัศจรรย์ ในเดือนมีนาคม ๒๕๔๒ ซึ่งเมื่อสำเร็จแล้วเราก็จะได้จัดฉลองงานใหญ่ซึ่งหลวงพ่อตั้งใจว่าจะบวชสามเณรฉลองมหาธรรมกายเจดีย์กันให้เต็มที่ทีเดียว  ก็ตั้งเป้าเอาไว้เมื่อจะบวชกัน จะเชิญชวนตัวแทนทั่วประเทศมาบวชกันเป็นสามเณรโดยไม่จำกัดอายุตั้งแต่อายุ ๑๕ ปีเป็นต้นไป ๑๕, ๒๕, ๓๕, ๔๕, ๕๕, ๖๕ เป็นต้นไปให้มาร่วมบวชกันเพื่อเป็นประวัติศาสตร์ของชีวิตของตัว การบวชสามเณรขณะนี้เนี่ย ไม่ใช่เป็นเรื่องง่ายตั้งแต่สร้างชาติกันมานี่การที่จะเห็นนักบวชพร้อมกันจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ นั่นน่ะไม่ใช่เป็นของง่าย แม้ขณะปัจจุบันพระ เณรทั่วประเทศได้พรรษาปี ๓ แสนกว่าองค์แต่โอกาสที่จะเห็นพระครบจำนวนแสนนี่ แม้พระกันเองก็ยังไม่เคยเห็น ดังนั้นวันนั้นจะเป็นวันอัศจรรย์เราจะได้ทำบุญใหญ่กัน

 


                เมื่อเราจะทำบุญใหญ่กันในวันนั้นได้ในวันนี้ต้องทุ่มชีวีสร้างมาหาธรรมกายเจดีย์ให้เสร็จเร็วไว อย่าไปคิดว่าเราได้ทำพระไปแล้วองค์นึง ๒ องค์หรือทำไปแล้วแค่นั้นวงแค่นั้นยังไม่พอนะจ๊ะ ต้องคิดว่าทำอย่างไรจึงจะสำเร็จเรียบร้อยนะจ๊ะ คิดอย่างนี้ได้ เราเป็นเจ้าของมหาธรรมกายเจดีย์อย่างแท้จริง ความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นนี้ก็จะติดตัวเราไปทุกภพทุกชาติ กระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม เพราะฉะนั้นในตอนนี้ให้ทำกายวาจาใจของให้สะอาดให้บริสุทธิ์ ให้มันผ่องใส จนกระทั่งใสจริง ๆ บริสุทธิ์จริง ๆ อย่างที่เราไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต ในตอนนี้ให้นึกถึงพระแก้วขาวใสบริสุทธิ์ให้หยุดอยู่ตรงกลางภายใน หยุดให้นิ่ง ๆ จะภาวนาสัมมาอะระหังก็ได้หรือไม่ภาวนาก็ได้นะจ๊ะต่างคนต่างทำกันไปเงียบ ๆ 

 


                มีบุญพิเศษอีกบุญหนึ่งที่ลูก ๆ หลายคนน่ะได้มองข้ามไปหลวงพ่อกับประหลาดใจจังเลยทำไมมองข้ามไปทั้ง ๆ ที่นักสร้างบารมีเนี่ยต้องไวต่อการสร้างบารมี หน้าที่ของนักสร้างบารมีต้องสร้างบารมีเท่านั้นไม่ใช่ทำอย่างอื่น และเรามาเกิดนี่ก็เพื่อสร้างบารมีบุญเล็กบุญน้อยบุญใหญ่ต้องเก็บไว้ให้หมดต้องไวต่อบุญหลวงพ่อแปลกใจจังเลย ที่มองข้ามมันไปบุญนั้นก็คือบุญให้ธรรมทานพระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ว่าเป็นสุดยอดแห่งการให้ทั้งปวง เพราะการให้ธรรมทานก็คือการสร้างคนดีให้เกิดขึ้นกับโลกการสร้างคนดี คือสุดยอดแห่งการสร้างทั้งปวง มีพระพุทธเจ้าท่านเป็นตัวอย่างสั่งสมบารมีมานับภพนับชาติไม่ถ้วนมีวัตถุประสงค์อย่างเดียวว่า จะตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง

 


                เมื่อตรัสรู้ธรรมแล้วหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะแล้วน่ะ จะแนะนำสั่งสอนผู้อื่นสัตว์โลกทั้งหลายให้ธรรมทานแก่สัตว์โลกทั้งหลายได้บรรลุธรรมตามนั้นไปด้วย เช่นเดียวกับพระองค์นั่นคือความปรารถนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ทั้งในอดีตปัจจุบันอนาคตก็จะปรารถนาตรงกันอย่างนี้แหละ เพราะฉะนั้นท่านถึงได้ยืนยันว่าการให้ธรรมทานเป็นสุดยอดกว่าการให้ใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะนั่นคือการสร้างคนดีให้บังเกิดขึ้นแก่สังคม ชี้หนทางสว่างในการดำเนินชีวิตไปสู่อายตนะนิพพาน เป็นสุดยอดของการให้และสุดยอดของการสร้าง เหนือกว่าการสร้างสิ่งใด ๆ ทั้งสิ้นหลวงพ่อเสียดายว่าเรามองข้ามกันไป หลวงพ่ออยากจะให้ลูกทุกคนตั้งใจตักตวงเอาบุญให้เต็มที่สมกับที่ได้เกิดในชาตินี้ 

 


                ธรรมทานในที่นี้ที่หลวงพ่ออยากจะให้ทำกันก็คือหนังสือวารสารกัลยาณมิตรวารสารกัลยาณมิตรที่สถาปนาขึ้นมา เพื่อให้เป็นแสงสว่างต่อชาวโลก เป็นกัลยาณมิตรให้กับชาวโลกที่ไม่มีโอกาสมาวัดหรือมาวัดแล้วก็มาอ่านทบทวนธรรมะในนั้นน่ะ เพื่อเข้าใจแจ่มแจ้งให้ดียิ่งขึ้นในหนังสือวารสารกัลยาณมิตร มีคำเทศสอนของหลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ เกี่ยวกับวิชชาธรรมกายทั้งนั้น ถ้อยคำของท่านประโยคเดียวน่ะ มีคุณค่ามหาศาล ยิ่งกว่าเอาประเทศมาตีน่ะ ยิ่งกว่า สมบัติจักรพรรดิ    เพราะสมบัติจักรพรรดินั้นน่ะ มันยังทำให้เรายังเวียนว่ายตายเกิด  ในวัฏฏสงสารถึงแม้จะมีทรัพย์มาก แต่ว่าธรรมทานคำสอนของท่านน่ะ นำหลุดจากภพทีเดียวไปสู่ที่สุดแห่งธรรม  มันเหนือกว่ากันมากมาย แค่ถ้อยคำของท่านประโยคเดียวเท่านั้น ในเทศนายังจิตให้ผู้ได้อ่านได้ศึกษา ได้ยินได้ฟังจิตเขาจะเลื่อมใสในพระรัตนตรัย ใจที่เลื่อมใสในพระรัตนตรัยจะหลุดพ้นจากอกุศลธรรม จะมีความสว่างไสวมีสุคติเป็นที่ไป

 


                เลื่อมใสในพระรัตนตรัยให้ไปเป็นทุกสิ่งที่ดี ตั้งแต่เป็นพระเจ้าจักรพรรดิจนกระทั่งเป็นพระอริยเจ้ากระทั่งเข้าถึงวิชชาธรรมกายเป็นการสร้างคนดี ให้เกิดขึ้นในสังคม และก็เป็นสุดยอดของคนดีซะด้วย ทุกเล่มที่ผ่านมาเนี่ยมีเนื้อหาคำเทศนาของหลวงพ่อวัดปากน้ำอยู่มากที่เดียว ลูกทุกคนมีความปรารถนา อยากจะศึกษาวิชชาธรรมกาย อยากจะไปรู้อยากจะไปเห็นวิชชาธรรมกายและก็อยากจะช่วยกันเผยแผ่วิชาธรรมกาย แต่ว่าเหมือนปลาใหญ่ตายน้ำตื้น สิ่งที่มีอยู่ดี ๆ ในหนังสือวารสารกัลยาณมิตรแทนคำพูดของเรา ที่เราไม่ต้องเหนื่อยเนี่ยแค่เราน่ะ รับเป็นเจ้าภาพและก็นำไปแจกจ่ายเขาอ่านกระแสธารแห่งบุญที่ไม่มีประมาณกำลังเกิดขึ้นแล้ว หรือจะเป็นเจ้าภาพไปตามวัดวาอารามต่าง ๆ ทั่วประเทศก็ได้ ให้พระ เณรท่านอ่านได้ศึกษาและก็แนะนำสั่งสอนแทนตัวเราไปอีก ก็เท่ากับเราได้ช่วยเฉลี่ยแจกจ่ายสันติสุขให้บังเกิดขึ้นกับโลกโดยทางอ้อม โดยผ่านพระผ่านเณรตามวัดวาอารามต่าง ๆ ที่เราได้เป็นเจ้าภาพไปถวายวารสารกัลยาณมิตร หรือจะเป็นเจ้าภาพแจกจ่ายไปตามโรงเรียนต่าง ๆ สร้างลูกหลานของเราให้ได้รู้จักวิชชาธรรมกาย เพราะรู้เห็นหนทางในการดำเนินชีวิตจะได้มีคนดีที่เราต้องการบังเกิดขึ้นอีกอย่างจะนับจะประมาณนี้ได้ นี่แหละจ่ะคือสิ่งที่มองข้ามกันไป เนี่ยหลวงพ่อเสียดายจริง ๆ 

 


                เพราะฉะนั้นเมื่อเราเป็นนักสร้างบารมีอาชีพของเราก็คือสร้างบารมีอย่างเดียว เกิดมาชาตินี้เนี่ยเรามาสร้างบารมีก็จะต้องสร้างบารมีกันให้เต็มที่ นักสร้างบารมีต้องไวต่อการสร้างบารมีอะไรมาเป็นบุญเล็ก บุญน้อย บุญใหญ่เราเอาหมด เดินออกจากสภาธรรมกายสากลเจอเศษกระดาษอยากเยื่ออยากได้เก็บเหมือนเก็บเพชรพลอยนั่นไปใส่ลงถุงเพชรพลอยซะ นั่นก็เป็นบุญของเราได้ช่วยกันสร้างอารามมาให้บริสุทธิ์ สิ่งอะไรที่เป็นบุญน่ะทำไปเถิด ตอนนี้เรายังไม่เห็นแต่เมื่อไหร่บุญส่งผลเมื่อเราละจากโลกนี้ไปแล้วเราจะมีความปลื้มใจ ว่าเราได้ใช้เวลาทุกวินาทีในการสร้างบารมีกันอย่างเต็มที่กุศลกรรมบถ ๑๐ ประการนั่นแหละคือทางมาแห่งบุญ มาตั้ง ๑๐ ทางเราทำครบหมดทุกทางแล้วก็รายละเอียดเกี่ยวกับกุศลกรรมบถ ๑๐ ประการก็มีปรากฎอยู่ในหนังสือวารสารกัลยาณมิตร เอาไว้ให้เราได้ศึกษาและพิจารณาได้ใคร่ครวญแล้วก็จะได้นำมาปฏิบัติมันมีอยู่ในนั้นหมดแล้ว

 


                เพราะฉะนั้นต่อจากนี้ไปนะจ๊ะ เราเป็นนักสร้างบารมีต้องไวต่อการสร้างบารมี บุญเล็กบุญน้อยบุญใหญ่เก็บให้หมดเลย และก็ทำทุกสิ่งทุกอย่างที่มันเป็นบุญเป็นกุศล ทำกันอย่างนี้แหละนี่ก็เป็นทางมาแห่งบุญของพวกเราทุกคน เพราะฉะนั้นอย่าลืมนะจ๊ะ นักสร้างบารมี ต้องไวต่อการสร้างบารมี สิ่งใดเป็นบุญเป็นกุศลบุญเล็กบุญน้อยบุญใหญ่เก็บไปให้หมดเลย หลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญนี่ท่านเป็นแบบอย่างที่ดีทีเดียว บุญเล็กบุญน้อยบุญใหญ่ท่านเก็บเอาไปหมด นั่นขนาดทำเป็นต้นวิชชาน่ะ ท่านยังเอาเลย ทำเป็นบุญเป็นกุศลทุกวินาทีทำไปหมดทุกอย่างเดินไปในวัดวาอารามเห็นเศษกระดาษตกท่านลงเก็บเอาไปใส่ถัง ทำความสะอาดแก่อารามให้บังเกิดขึ้น อะไรที่เป็นบุญท่านทำไปหมดทั้งนั้นแหละ คุณยายอาจารย์ของเราก็เช่นเดียวกันก็เป็นแบบอย่างที่ดีในการสร้างบารมีเนี่ย จนกระทั่งสังขารท่านไม่ไหวแต่เวลาหลวงพ่อไปเยี่ยมท่านทีไรเนี่ยท่านก็จะพูดถึงเรื่องบุญกุศลที่ท่านได้ทำผ่านมา ท่านได้ปรารภว่าท่านไม่มีแรงจะทำด้วยกำลังของท่านแล้วแต่ว่าจะทำด้วยปากทำด้วยใจในปัจจุบันเนี้ย เพราะฉะนั้นเราลูกหลานท่านต้องยึดท่านเป็นแบบในการสร้างบารมีต้องไวต่อการสร้างบารมีนะจ๊ะ 

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.021988316377004 Mins