ไม่มีศีลหรือศีลขาดมีโทษอย่างไร
ในพระบาลีมหาปรินิพพานสูตรนั้นเอง เรียกคนที่ไม่มีศีลคนที่ไร้ศีลว่าเป็น คนทุศีล เรียกอาการที่คนรับศีลแล้วเสียศีล คือขาดความสำรวมในศีลจนศีลขาดหรือด่างพร้อยว่า ผู้มีศีลวิบัติ
ในพระสูตรนั้นมีเนื้อหาว่า
“ดูก่อนคฤหบดีทั้งหลาย โทษแห่งศีลวิบัติของคนทุศีลมี ๕ ประการเหล่านี้ ๕ ประการ คืออะไรบ้าง คือ
ดูก่อนคฤหบดีทั้งหลาย คนทุศีลผู้มีศีลวิบัติในโลกนี้ย่อมเข้าถึงความเสื่อมแห่งโภคสมบัติใหญ่หลวงเพราะเหตุแห่งความประมาทนี้เป็นโทษประการที่ ๑ แห่งศีลวิบัติของคนทุศีล
โทษอย่างอื่นยังมีอีกคฤหบดีทั้งหลาย คือ ชื่อเสียงอันเลวทรามของคนทุศีล ผู้มีศีลวิบัติย่อมฟุ้งขจรไป นี้เป็นโทษประการที่ ๒ แห่งศีลวิบัติของคนทุศีล
โทษอย่างอื่นยังมีอีกคฤหบดีทั้งหลาย คือ คนทุศีลผู้มีศีลวิบัติเข้าไปยังบริษัทใดๆ ไม่ว่าจะเป็นขัตติยบริษัทก็ตาม พราหมณบริษัทก็ตาม คฤหบดีบริษัทก็ตาม สมณบริษัทก็ตาม ย่อมเป็นผู้ไม่แกล้วกล้าขวยเขินเข้าไปยังบริษัทนั้นๆ นี้เป็นโทษประการที่ ๓ แห่งศีลวิบัติของคนทุศีล
โทษอย่างอื่นยังมีอีกคฤหบดีทั้งหลาย คือ คนทุศีลผู้มีศีลวิบัติย่อมเป็นผู้หลงทำกาละ นี้เป็นโทษประการที่ ๔ แห่งศีลวิบัติของคนทุศีล
โทษอย่างอื่นยังมีอีกคฤหบดีทั้งหลาย คือ คนทุศีลผู้มีศีลวิบัติหลังจากตายไปย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก นี้เป็นโทษประการที่ ๕ แห่งศีลวิบัติของคนทุศีล
ดูก่อนคฤหบดีทั้งหลาย โทษแห่งศีลวิบัติของคนทุศีลมี ๕ ประการเหล่านี้”
กล่าวโดยสรุปก็คือ คนที่ไม่มีศีล คนที่เสียศีล ไม่สำรวมระวังรักษาศีลย่อมได้รับโทษ ๕ ประการคือ
๑. เสื่อมจากโภคทรัพย์ใหญ่หลวง
๒. ชื่อเสียงเสียฟุ้งขจรไป
๓. เป็นผู้ไม่แกล้วกล้า ขวยเขินเข้าไปยังบริษัททุกหมู่เหล่า
๔. เป็นผู้หลงตอนสิ้นชีวิต
๕. สิ้นชีวิตแล้วย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก