ศีล สําคัญอย่างไร
เท่าที่อ่านผ่านมาก็พอจะเห็นแล้วว่าศีลเป็นอย่างไร แต่เรื่องของศีลนี้ควรจะได้ศึกษาเรียนรู้ ทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งถ่องแท้กันมากสักหน่อย ทั้งนี้เพราะเรื่องของศีลเป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับชีวิต สำหรับสังคม และสำหรับโลก จะเป็นสิ่งหนุนนำให้ชีวิตดำเนินเป็นไปอย่างปกติสุข เป็นหลักประกันสังคมให้สงบ ไม่วุ่นวายยุ่งเหยิง และเป็นเครื่องมือรักษาโลกให้มีความปลอดภัย เหมาะที่จะอยู่อาศัยอย่างเป็นสุข
หากจะถามว่าศีลสำคัญอย่างไร จำเป็นอย่างไรที่จะต้องรักษาหรือต้องปฏิบัติตามกัน
คำตอบคงมีหลากหลายตามความเห็นและความรู้สึกของแต่ละบุคคลในที่นี้จักขอยกความเห็นเรื่องศีลของพระมหาเถระในสมัยพุทธกาลมาเป็นตัวอย่าง คือความเห็นของพระสีลวเถระผู้เป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งในสมัยนั้นท่านมีความรู้สึกถึงเรื่องศีลในแง่มุมต่างๆ ซึ่งได้รับการบรรจุไว้ในพระไตรปิฎกเป็นหลักฐานที่คงอยู่มาจนทุกวันนี้ คือท่านแสดงไว้เป็นรูปคาถาประพันธ์ซึ่งถอดความเป็นภาษาไทยได้ว่า
“กุลบุตรผู้ต้องการประโยชน์ในโลกนี้พึงศึกษาศีลให้ดี เพราะว่าศีลที่บุคคลศึกษาดีแล้ว สั่งสมดีแล้ว ย่อมน้อมนำสมบัติทั้งปวงเข้ามาให้แก่กุลบุตรนั้น
ผู้มีปัญญาเมื่อปรารภความสุข ๓ ประการ คือความสรรเสริญ ๑ การ ได้ความปลื้มใจ ๑ วามบันเทิงในสวรรค์เมื่อละไปแล้ว ๑ พึงรักษาศีล
ด้วยว่าผู้มีศีล มีความสำรวมย่อมได้มิตรมาก ส่วนผู้ทุศีล ประพฤติแต่บาปกรรมย่อม แตกจากมิตร
คนที่ทุศีลย่อมได้รับการติเตียนและความเสียชื่อเสียง ส่วนคนที่มีศีลย่อมได้รับการ ยกย่อง เกียรติคุณ และความสรรเสริญทุกเมื่อ
ศีลเป็นเบื้องต้น เป็นที่ตั้ง เป็นบ่อเกิดแห่งคุณความดีทั้งหลายและเป็นประธานแห่ง ธรรมทั้งปวง
สังวรศีลเป็นเครื่องกั้นความทุจริต ทำจิตให้ร่าเริง เป็นท่าที่หยั่งลงสู่มหาสมุทรคือพระ นิพพานของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ เพราะฉะนั้นพึงชำระศีลให้บริสุทธิ์
ศีลเป็นกำลังหาสิ่งเปรียบมิได้ เป็นอาวุธอย่างสูงสุด เป็นอาภรณ์อันประเสริฐ เป็นเกราะ อันน่าอัศจรรย์
ศีลเป็นสะพานที่มีกำลังมาก เป็นกลิ่นหอมชั้นเยี่ยม เป็นเครื่องลูบไล้อันประเสริฐ ซึ่งเป็น เหตุให้บุคคลผู้สมบูรณ์ด้วยศีลหอมฟุ้งไปทั่วทุกทิศ
ศีลเป็นข้าวห่อชั้นยอด เป็นเสบียงเดินทางชั้นเยี่ยม เป็นพาหนะอันประเสริฐยิ่งนัก ซึ่งพาไปได้ทั่วทุกทิศ
คนผู้มีจิตไม่ตั้งมั่นในศีลย่อมได้รับการนินทาในเวลาที่มีชีวิตอยู่ในโลกนี้ เมื่อตายไปแล้ว ย่อมได้รับทุกข์โทมนัสในอบายภูมิ ย่อมได้รับทุกข์โทมนัสในที่ทั่วไป
ธีรชนผู้มีจิตตั้งมั่นด้วยดีในศีล ย่อมได้รับความสรรเสริญในเวลาที่มีชีวิตอยู่ในโลกนี้ เมื่อตายไปแล้วก็ได้รับความสุขโสมนัสไปสวรรค์ ย่อมรื่นเริงใจในที่ทุกสถาน
ในโลกนี้ ศีลเท่านั้นจัดเป็นยอด ส่วนผู้มีปัญญาจัดเป็นผู้สูงสุด ชัยชนะต่อปฏิปักษ์ใน มนุษยโลกและเทวโลกย่อมมีได้เพราะศีลและปัญญา”
ตามคาถาประพันธ์เบื้องต้นนี้ พระสีลวเถระได้เปรียบศีลไว้เหมือนกับสิ่งต่างๆ อย่างลึกซึ้งน่าสนใจ ทำให้เห็นคุณค่าของศีลได้อย่างลึกซึ้ง ขอนำข้อความในส่วนนี้มาขยายความเพิ่มเติมสักเล็กน้อยเพื่อให้ชัดเจนขึ้นคือ
“ศีลเป็นกำลังหาสิ่งเปรียบมิได้” หมายความว่า ศีลเป็นพลังและมีกำลังที่ยอดเยี่ยม ไม่มีวัตถุอื่นใดที่จะมีกำลังเหมือนหรือเทียบเท่าได้ เพราะสามารถต่อสู้กำจัดมารและเสนามารได้ และสามารถผลักดันนำคนที่มีศีลให้บรรลุถึงเป้าหมายได้ ทำให้บรรลุถึงสุคติโลกสวรรค์และพระนิพพานได้
“ศีลเป็นอาวุธสูงสุด” หมายความว่า ศีลเป็นเครื่องประหารที่สามารถตัดสังกิเลสธรรม คือสิ่งที่จะมาทำให้เกิดความเศร้าหมองใจได้ เพราะเมื่อมีศีลแล้วก็จะงดเว้น ไม่ทำบาปทุจริตทางกายและทางวาจา ทำให้กายวาจาเป็นสุจริต ทำและพูดแต่สิ่งที่ถูกต้องดีงาม อันเป็นเหตุให้เกิดความผ่องแผ้วทางใจไม่มีความหวาดระแวง ความกลัวภัย ความหวาดสะดุ้งต่างๆ
“เป็นเครื่องลูบไล้อันประเสริฐ ซึ่งเป็นเหตุให้บุคคลผู้สมบูรณ์ด้วยศีลหอมฟุ้งไปทั่วทุกทิศ” หมายความว่า ศีลนี้เป็นเครื่องลูบไล้ที่มีคุณค่าประเสริฐกว่าเครื่องลูบไล้ทั่วไป เช่น สบู่ แป้งหอม น้ำหอม เพราะเมื่อลูบไล้ด้วยศีลคือมีศีลประดับตัวประดับใจแล้วก็จะทำให้ผู้นั้นหอมฟุ้งอบอวลไปทุกทิศมีชื่อเสียงเกียรติคุณขจรไปทุกทิศ
“ศีลเป็นข้าวห่อชั้นยอด” หมายความว่า ศีลเปรียบเหมือนข้าวห่อข้าวห่อซึ่งคนเดินทางหรือคนทํางานนอกบ้านนิยมจัดทำแล้วนำติดตัวไปด้วยเมื่อถึงเวลาทานหรือเมื่อหิวขึ้นมาก็นำออกมาทาน ทำให้หายหิว มีกำลังเดินทางหรือทำงานต่อไปได้ ทำให้ไม่ลำบากเดือดร้อนอะไร คนผู้มีศีลก็เป็นเช่นนั้นเมื่อเดินทางไกลกันดารในสังสารวัฏ ก็จะไม่ลำบากอะไรในที่ที่ตนไป จะเกิดเป็นอะไรในถิ่นไหนก็ไม่อดอยาก มีข้าวห่อคือศีลเลี้ยงตนตลอดกาล ศีลจึงเป็นข้าวห่อชั้นยอดของผู้เดินทางไกลในสังสารวัฏ
“ศีลเป็นเสบียงเดินทางชั้นเยี่ยม” หมายความว่า ศีลนี้นอกจากเป็นข้าวห่อชั้นยอดแล้วยังใช้เป็นเสบียงอันยอดเยี่ยมสำหรับเดินทางไกลในสังสารวัฏได้ด้วย โจรผู้ร้ายก็แย่งชิงไม่ได้ เพราะไม่ใช่เป็นของสาธารณะเหมือนเสบียงทั่วไป ทั้งหนุนให้ได้รับความสำเร็จในกิจที่ปรารถนาได้ทุกอย่าง หนุนให้ได้สมบัติที่ปรารถนาได้ทุกอย่าง
“ศีลเป็นพาหนะอันประเสริฐยิ่งนัก ซึ่งพาไปได้ทั่วทุกทิศ” หมายความว่าศีลนี้สามารถนำพาผู้มีศีลให้เดินทางไปได้สะดวก เหมือนเดินทางด้วยยานพาหนะทั่วไป แต่ศีลเป็นพาหนะที่วิเศษกว่า สามารถนำพาไปได้ทุกทิศทางไม่ว่าจะเป็นที่ควรไปหรือไม่ควรไป เมื่อพาไปแล้วก็ทำให้สะดวกสบายในที่ทุกสถาน ถึงจุดหมายปลายทางที่ประสงค์ได้แน่นอน
พระสีลวเถระเห็นประจักษ์ว่าศีลเป็นอย่างนี้ ศีลมีประโยชน์อย่างนี้คืออย่างที่อธิบายขยายความมาทั้งหมดนี้ จึงมั่นอยู่ในศีลและประกาศให้โลกรู้เชิญชวนให้โลกมีศีลรักษาศีลเพื่อจะได้รับอานิสงส์เหมือนตน พระมหาเถระต่อมาจึงนำคำเชิญชวนเรื่องศีลของท่านมาบันทึกไว้ในพระไตรปิฎกเพื่อมิให้สูญหาย ถ้อยคำเหล่านี้จึงได้ตกทอดมาถึงยุคสมัยของเรา
และเพราะศีลเป็นอย่างนี้ มีความสำคัญยิ่งยวดอย่างนี้ ในพระพุทธศาสนาจึงยกย่องว่าศีลเป็นบารมีอย่างหนึ่งใน ๑๐ อย่าง ที่พระโพธิสัตว์บำเพ็ญกันมาเป็นร้อยชาติแล้วส่งผลให้บรรลุพระโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้าในกาลต่อมา เรียกว่า สีลบารมี
ยกย่องว่าศีลเป็นที่ตั้งแห่งการบำเพ็ญบุญอย่างหนึ่งใน ๓ ทาง ที่ทำให้ผู้บำเพ็ญได้รับอานิสงส์สูงสุดในหลายประการ เรียกว่า สีลมัย
ยกย่องว่าศีลเป็นสิกขาคือเป็นข้อสำหรับประพฤติปฏิบัติเบื้องต้นเพื่อให้บรรลุธรรมในระดับสูงขึ้นไป เรียกว่า สีลสิกขา หรือ อธิสีลสิกขา
นอกจากนั้นยังยกย่องศีลในแง่มุมอื่น ๆ อีกมาก และสั่งสอนว่าศีลเป็นองค์ประกอบหนึ่งในหมวดธรรมต่างๆ ซึ่งเมื่อปฏิบัติควบคู่ไปกับคุณธรรมอื่นในหมวดธรรมนั้นแล้วย่อมได้รับประโยชน์ได้รับอานิสงส์อย่างนั้นอย่างนี้