ศีลคือตราประทับความเป็นมนุษย์
ศีลเป็นหลักความประพฤติหรือเป็นจริยธรรมที่สำคัญ เพื่อยืนยันว่าเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ มิใช่เป็นมนุษย์เพียงมีรูปร่างที่เจริญเติบโตในทางสูง แต่จิตใจและพฤติกรรมมิได้แตกต่างจากดิรัจฉานที่เจริญเติบโตไปตามขวางหรือไปตามยาว
มนุษย์เป็นสัตวโลกชนิดหนึ่ง ว่ากันว่าถือกำเนิดและวิวัฒนาการมาแบบเดียวกันกับสัตวโลกชนิดอื่น ซึ่งเดิมก็เจริญเติบโตไปตามขวางหรือไปตามยาวแนวราบกับแผ่นดิน เรียกสัตวโลกชนิดนั้นว่า “ดิรัจฉาน” ซึ่งแปลว่า “ผู้ไปขวาง” คือผู้เติบโตไปตามขวาง แต่มนุษย์วิวัฒนาการเร็วกว่า มีพัฒนาการทางด้านจิตใจและพฤติกรรมที่สูงกว่า รูปร่างก็โตไปในทางสูง จึงเรียกสัตวโลกชนิดนั้นให้ต่างออกไปจากเดิมว่า “มนุษย์” ซึ่งแปลว่า “ผู้มีใจสูง” คือผู้มีใจรู้เรื่องที่เป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์
มนุษย์วิวัฒนาการขึ้นมาเรื่อยๆ ทั้งด้านสรีระ ด้านสติปัญญา ด้านความคิด และด้านพฤติกรรม จนดิรัจฉานไม่อาจเท่าเทียมได้
สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือเรื่องพฤติกรรม พฤติกรรมของมนุษย์มีการควบคุมมีการจัดระเบียบ มีการบังคับลงโทษเมื่อทำไม่ถูก ทำให้มนุษย์อยู่กันอย่างสุขสงบ พัฒนาการก้าวหน้าด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกนานาชนิด วิชาการต่างๆล้ำหน้าขึ้นเรื่อยๆ ปัจจัยอำนวยชีวิตโดยตรงคืออาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค และอุปกรณ์ช่วยเหลือ เช่น อุปกรณ์สื่อสาร อุปกรณ์ช่วยแรง อุปกรณ์การเดินทาง อุปกรณ์การทำมาหากิน มนุษย์ได้พัฒนาขึ้น ดีขึ้น เป็นประโยชน์มากขึ้นจนหาที่สุดมิได้
มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้มนุษย์สามารถควบคุมพฤติกรรมของมนุษย์ได้ แม้จะผลิตอะไรออกมาก็อยู่ในขอบเขตที่ไม่ให้ไปทำลาย ไม่ได้ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนให้เป็นประโยชน์แก่โลกเพียงอย่างเดียว สิ่งนั้นคือ ศีล
เมื่อมนุษย์อยู่ในหลักของศีล จึงมีความสมบูรณ์ทั้งด้านพฤติกรรมและจิตใจ คือมีพฤติกรรมที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ประกอบอาชีพในทางที่สุจริตรักเดียวใจเดียวในคู่ครองของตัวเอง สื่อสารกันด้วยความจริง ด้วยความซื่อสัตย์
ไม่หยาบคาย ไม่ข้องเกี่ยวกับสุรายาเสพติด สังคมมนุษย์ที่มีความเป็นมนุษย์สมบูรณ์อย่างนี้ก็สุขสงบ แม้จะมีสิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากสติปัญญาของพวกตนก็อำนวยความสะดวก เพิ่มพูนความสุขแก่พวกตนเป็นประการสำคัญ
ศีลทำให้มนุษย์เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ มีชีวิตเป็นปกติสุข เท่ากับว่าศีลเป็นหลักประกันความสงบสุข เป็นหลักจริยธรรมเพื่อให้มนุษย์มีพฤติกรรมโดยชอบ
หากมนุษย์ไม่มีศีล ไม่จำกัดพฤติกรรมตามหลักของศีล มนุษย์ก็จะมีพฤติกรรมที่เป็นไปในทางทำลาย ในทางที่ทำให้เดือดร้อน หรือในทางสะสมอำนาจไว้คอยข่มขี่เอาเปรียบผู้อื่น จิตใจก็จะคิดแต่ในเรื่องประโยชน์ส่วนตัวและพวกของตัวเท่านั้น สิ่งต่างๆ ที่ประดิษฐ์คิดทำกันขึ้นมาก็จะใช้เป็นเครื่องมือในการทำพฤติกรรมที่ผิด ใช้ไปในทางเบียดเบียนคนอื่น ทำให้คนอื่นสิ่งอื่นเดือดร้อน หรือทำให้ตัวเองเดือดร้อนโดยไม่รู้ตัวเดือดร้อน
พฤติกรรมและจิตใจของมนุษย์เช่นนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับของดิรัจฉานซึ่งเป็นสัตวโลทั่วไป มนุษย์เช่นนั้นเวลาไปทำผิด ไปก่อกรรมทำเข็ญแก่คนอื่นโดยขาดความเป็นมนุษย์ ผู้คนก็จะประณามไม่ต่างอะไรกับสัตว์ หรือเรียกอย่างหยาบคายว่า “ไอ้สัตว์” บ้าง “อีสัตว์” บ้าง เป็นการแสดงให้เห็นว่าเป็นมนุษย์เฉพาะร่างกายเท่านั้น ส่วนจิตใจและพฤติกรรมหาเป็นมนุษย์ไม่
ดังนั้นจึงกล่าวโดยภาพรวมได้ว่า
ศีลเป็นตราประทับความเป็นมนุษย์ คือทำให้มนุษย์เป็นมนุษย์สมบูรณ์ และเป็นหลักตัดสินว่าผู้ใดเป็นมนุษย์ทั้งร่างกาย จิตใจ และพฤติกรรม