ไปแล้วไปเลย

วันที่ 16 กค. พ.ศ.2567

ไปแล้วไปเลย

670716_b94.jpg


                  พระครูเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งเป็นพระที่ผู้คนเคารพนับถือรูปหนึ่งของจังหวัด ท่านมีปฏิปทาในเรื่องการปกครองที่แปลกกว่าที่อื่นอย่างหนึ่งคือ เมื่อพระภิกษุหรือสามเณรรูปใดทำผิดระเบียบของวัดถึงไล่ออก เมื่อสอบสวนจนได้ความว่าผิดจริงและยอมรับผิดแล้วท่านก็จะให้ออกจากวัดไป ต่อมาเมื่อเวลาผ่านไปจะเป็นกี่วันหรือเดือนก็ตาม หากพระภิกษุหรือสามเณรรูปนั้นกลับมาขออาศัยอยู่ในวัดอีก ท่านก็จะรับให้อยู่ต่อไปโดยไม่มีข้อแม้ ส่วนพระภิกษุหรือสามเณรรูปใดมาขอย้ายไปอยู่ที่อื่น ท่านก็จะอนุญาตให้ไปตามใจไม่ทักท้วง แต่หากต่อมาท่านรูปนั้นกลับมาขออยู่ในวัดอีก ท่านก็จะปฏิเสธไม่รับกลับมาอยู่ ท่านปฏิบัติอย่างนี้หลายครั้งจนเป็นที่รู้กัน

“ทำไมเป็นอย่างนั้นหลวงพ่อ” โยมอุบาสิกาคนหนึ่งกล้าถามหลวงพ่อเพื่อทราบเหตุผลหลวงพ่อว่า

“พระเณรที่ทำผิดและถูกลงโทษจนให้ออกจากวัดไป เมื่อเขาขอกลับมาอยู่ใหม่ แสดงว่าเขายังมีจิตใจผูกพันอยู่กับวัด ยังรักวัดของเราอยู่ ที่เขาไปก็จำใจไปเพราะทำผิดระเบียบผิดกติกา แต่มีโทษไม่ร้ายแรงถึงให้สึก เขายังเป็นพระเป็นเณรอยู่ เมื่อเขามาขออยู่ใหม่ก็แสดงว่าเขาสำนึกรู้สึกตัวและกลับเนื้อกลับตัวได้จึงควรให้อยู่ ไม่ควรห้ามเขา เมื่อเขาทำผิดอีกกว่ากันใหม่ ส่วนผู้ที่ขอย้ายตัวเองออกไป แสดงว่าเขาเต็มใจไป เขาไม่มีเยื่อใยไม่รักวัดของเราแล้ว แม้จะอ้างว่าไปศึกษาหาความก้าวหน้าต่อไปก็เป็นเรื่องส่วนตัวเขา เมื่อเขาย้อนกลับมา แสดงว่าเขาไปไม่รอดหรือไปแล้วไม่สมหวังจึงกลับมา”

“ไม่เป็นการขาดเมตตาธรรมไปหรือหลวงพ่อ” โยมย้อนถาม

“ก็ดูจะเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน แต่ที่ถูก เขาควรจะมีความมุมานะต่อสู้ดิ้นรนต่อไป ทำความฝันให้สำเร็จให้ได้ เมื่อสำเร็จแล้วจะกลับมาเยี่ยมเยียนวัดเก่าหรือมาค้างแรมชั่วคราวก็ได้ แต่ไม่ควรกลับมาอยู่ ทำแบบนั้นแสดงว่าใจคอโลเล เมื่อกลับมาอยู่แล้วหากคิดจะไปอีก ก็คงจะไปเหมือนเดิม เหมือนเห็นวัดเราเป็นโรงแรม นึกจะเข้าก็เข้า นึกจะออกก็ออก ดูไม่งาม หรือโยมว่าอย่างไร”

ไม่ได้ยินเสียงตอบจากโยม และไม่มีข่าวว่ามีใครมาถามหลวงพ่ออีก
 

เรื่องนี้สื่อความให้เห็นว่า
               ธรรมดาถิ่นที่เกิดและถิ่นที่อยู่ที่สามารถอำนวยความสุข ความเจริญให้แก่ผู้อยู่ได้ตามสมควรแก่อัตภาพ ไม่อย่างนั้นถิ่นต่างๆ ก็คงจะไม่มีคนอยู่ติดต่อกันมาเป็นสิบเป็นร้อยปี แต่หากต้องการความเจริญก้าวหน้ากว่าเดิม ต้องการไปแสวงโชคแบบไปตายเอาดาบหน้า ก็ย่อมเป็นสิทธิที่จะทำได้ และผู้คนทั่วไปเขาก็ทำกัน แต่ก็มีข้อที่น่าตระหนักอยู่ คือก่อนที่จะตัดสินใจละทิ้งถิ่นของตัวเองไปอยู่ถิ่นอื่น ควรคิดให้รอบคอบ คิดให้ถ้วนถี่ คิดทั้งแง่ลบและแง่บวก มิใช่คิดถึงแต่ความสำเร็จท่าเดียว หากผิดคาดขึ้นมาจะทำอย่างไร คิดเผื่อไว้ด้วย และเมื่อไปแล้ว ต้องเอาดีให้ได้ ต้องมุมานะทำฝันให้เป็นจริง หนักเอาเบาสู้ ไม่ท้อแท้ยอมแพ้ยอมถอยง่ายๆ อย่าย้อนหลังเมื่อยังไม่สมหวังในระดับใดระดับหนึ่ง จะกลับไปก็ต้องให้ดีกว่าเดิม ไม่อย่างนั้นเขาจะดูแคลน ไม่เชื่อถืออีกต่อไป

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.028461881478628 Mins