ฉลาดแกมโกง
ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งมีเด็กชาย ๕ คนซึ่งอยู่ห้องเดียวกันชวนกันหนีโรงเรียนไปเที่ยว แล้วถูกจับได้ ครูจึงสั่งลงโทษให้ทำความสะอาดห้องน้ำชายทุกห้องหลังจากเลิกเรียนตอนเย็นแล้ว
“พวกเธอต้องทำให้สะอาดทุกห้องในเวลา ๑ ชั่วโมง ครูประชุมเสร็จแล้วจะมาตรวจดูอีกที”
โดยสั่งว่าหลังจากเลิกเรียน เพื่อนๆ กลับกันหมดแล้ว นักเรียน ๕ คนที่ถูกทำโทษเริ่มทำความสะอาดห้องน้ำกัน มีอยู่ ๔ คนที่ทำอย่างแข่งขันด้วยรู้สึกว่าตัวเองทำผิด ช่วยกันล้างเช็ดถูจนสะอาดทั้งโถส้วมและพื้น รีบทำเพื่อให้เสร็จทันในหนึ่งชั่วโมงตามคำสั่งครู ส่วนอีกคนหนึ่งเอาเปรียบเพื่อน ด้วยการทำนิดหน่อยพอเป็นพิธีแล้วบอกเพื่อนว่าปวดท้องไม่ค่อยสบายขอนั่งพัก เพื่อนที่เหลือก็มิได้ว่าอะไรเพียงครึ่งชั่วโมงก็เสร็จเรียบร้อย แต่ครูยังไม่มาจึงนั่งพักผ่อนกันแล้วเผลอหลับไป
ด้วยความอ่อนเพลียส่วนคนที่บอกว่าปวดท้องคอยดูนาฬิกาอยู่ เห็นว่าอีก ๕ นาที่จะครบชั่วโมงและครูจะมาตรวจ จึงรีบลุกขึ้นทำที่เป็นขยัน เอาน้ำมาลูบหน้าลูบแขนและรดเสื้อกางเกงให้เปียก ล้างพื้นเป็นพัลวันครูมาถึงเห็นเด็กคนนั้นกำลังง่วนทำความสะอาดอยู่คนเดียวส่วนอีก ๔ คนเห็นนั่งหลับกันอยู่ จึงเอาไม้เคาะศีรษะปลุกให้ตื่น แล้วพูดอบรมดังๆ ว่า
“นี่พวกเธอ ครูสั่งให้ช่วยกันทำความสะอาดห้องน้ำ พวกเธอนี่ช่างขี้เกียจเหลือเกิน เอาเปรียบเพื่อนด้วย ปล่อยให้เพื่อนทำงานงั่กๆ คนเดียว ส่วนตัวเองมานั่งหลับเสียนี่ มันน่านัก คราวหลังอย่าทำอย่างนี้อีกนะ มันไม่ถูก”
ทั้งสี่คนได้แต่มองหน้ากันเลิกลัก ไม่เข้าใจครู พวกตัวเป็นคนทำความสะอาดแท้ๆ กลับมาหาว่าขี้เกียจ เอาเปรียบเพื่อน ส่วนคนที่เพิ่งลุกไปทำกลับหาว่าดี แต่ก็ทำได้แค่มองหน้าครูเท่านั้น ไม่กล้าโต้ตอบครู
เรื่องนี้สื่อความให้เห็นว่า
ความฉลาดนั้นเป็นของดี แต่ควรใช้ให้ถูกต้อง ใช้ในทางที่ดี ไม่ก่อโทษไม่ก่อความผิดความเสียหายให้แก่คนอื่น และไม่ใช้ไปในทางเอารัดเอาเปรียบคนอื่น อย่างนี้จึงจะเรียกว่าฉลาดจริง แต่ถ้าใช้ไปในทางที่ไม่ควร ใช้เพื่อหลบเลี่ยงเอาตัวรอดโดยทำให้คนอื่นเดือดร้อนหรือใช้ตบตาคนอื่น อย่างนี้เรียกว่าฉลาดแกมโกง ยิ่งใช้ไปในทางเอารัดเอาเปรียบคนที่รู้เท่าไม่ถึงหรือคนที่โง่กว่ายิ่งน่ารังเกียจนัก ไม่ดีแน่นอน คนที่ฉลาดแกมโกงเช่นนี้ต้องระวังกันไว้ให้มาก พ่อแม่ ครูอาจารย์ พี่น้อง และมิตรสหายที่ใจซื่อต่างเสียรู้ เสียท่า และเสียใจเพราะหลงเชื่อลูก หลงเชื่อศิษย์ หลงเชื่อพี่น้อง และหลงเชื่อเพื่อนที่ฉลาดแกมโกงเช่นนี้มามากต่อมากแล้ว จึงควรระวังกันให้ดี อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ได้เห็นหรือตามที่ได้ฟังก่อนที่จะพิจารณาสอบทานให้ถ่องแท้ว่าอะไรเป็นอะไร