ดีทั้งนั้น
สามีภรรยาคู่หนึ่งอยู่กินด้วยกันมานาน สามีเป็นคนใจเย็น ส่วนภรรยาเป็นคนเจ้าอารมณ์และแสนงอน แต่ก็ทำหน้าที่แม่บ้านไม่บกพร่อง วันหนึ่งภรรยาไปธุระกลับบ้านเย็นไปหน่อย เลยรีบหุงข้าวทำกับข้าวไว้รอท่าสามีเหมือนเคย เพราะรีบเร่งหุงจึงได้ข้าวสุกแบบสามกษัตริย์ คือ ข้างบนปากหม้อดิบ ตรงกลางแฉะ และที่ก้นหม้อไหม้ จะหุงใหม่ก็คงไม่ทัน นางจึงหาทางแก้ไขโดยยกสำรับกับข้าวไปที่หน้าบ้านซึ่งอยู่ติดคลองเพื่อให้ได้บรรยากาศ สามีจะได้ไม่ต่อว่าเรื่องข้าว พอถึงเวลาสามีกลับมาก็รีบออกไปรับหน้าแล้วพาไปที่ชานหน้าบ้าน ตักข้าวปากหม้อให้สามีและตัวเองรับประทานกัน พอรับประทานได้สองสามคำ ภรรยาก็พูดขึ้นว่า
“ข้าวปากหม้อแข็งไปหน่อย รีบหุงจึงไม่ค่อยสุก”
สามีตอบเอาใจภรรยาว่า “ดีเหมือนกัน ข้าวดิบๆ สุกๆ กินแล้วมันดี”
ภรรยาดีใจที่สามีไม่แสดงอาการไม่พอใจ เมื่อข้าวจานแรกหมดไป รีบตักให้อีก คราวนี้เป็นข้าวแฉะกลางหม้อ ก็พูดกับสามีว่า
“จานนี้คงจะแฉะหน่อย คงทานได้”
“แฉะชิด ไม่ต้องเคี้ยวมาก ของชอบอยู่แล้ว” สามีตอบเอาใจเหมือนเดิม
ภรรยาเริ่มหมั่นไส้ พอข้าวจานที่สองหมดจึงถามว่าอิ่มหรือยังเมื่อสามีตอบว่ายังจึงคิดข้าวส่วนก้นหม้อให้ทาน พร้อมทั้งบอกว่า
“นี่ข้าวก้นหม้อ ใช้ไฟแรงไปหน่อยจึงไหม้ไปนิดหนึ่ง”
สามีก็ตอบแบบเดิม “ดีสิ ข้าวไหม้ก็ดีนะ หอมดี นานๆ ได้กินข้าวหอมที”
ภรรยาหมั่นไส้เต็มแก่ ทนไม่ไหวจึงใช้มือทั้งสองจับจานข้าวแล้วยันโครมไปที่กลางอกสามี สามีซึ่งนั่งหันหลังให้คลองอยู่ไม่ทันระวังจึงหงายหลังตกลงไปในคลอง จมไปพักหนึ่งแล้วโผล่ขึ้นมาพร้อมกับตะโกนว่า
“ดีเหมือนกัน กำลังร้อนอยู่พอดี ได้อาบน้ำค่อยยังชั่วหน่อย”
ได้สดับมาแค่นี้
เรื่องนี้สื่อความให้เห็นว่า
การพูดจาที่ฟังดูดี ที่สร้างความสบายใจให้แก่ผู้ฟังด้วยความใจเย็น มองโลกในแง่ดี ไม่ติดใจถือสาในเรื่องเล็กน้อยนั้นสามารถจะหยุดสถานการณ์ที่เลวร้ายลงได้ ทั้งไม่เป็นเชื้อให้เรื่องลุกลามไปใหญ่โตจนแตกหักกันไป ในการคบหาสมาคมกันฉันเพื่อนหรืออยู่ด้วยกันแบบสามีภรรยาจำเป็นต้องอาศัยการพูดจาแบบนี้ทั้งสิ้น จึงจะคบหาและอยู่ด้วยกันยึด โดยเฉพาะคู่สามีภรรยาเมื่ออยู่ด้วยกันก็เหมือนลิ้นกับฟัน ย่อมกระทบกระทั่งกันบ้าง ทำสิ่งที่ทำให้ไม่สบายใจแก่กันบ้างเป็นธรรมดาต้องรักษาภาวะให้ดี คือเมื่อฝ่ายหนึ่งเป็นหรืออ่อนเหมือนลิ้น อีกฝ่ายต้องแข็งเหมือนฟัน เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้นำทาง ถ้าอ่อนด้วยกันทั้งคู่ก็เหลว แก้ปัญหาไม่ค่อยได้ หรือแข็งด้วยกันทั้งคู่ก็อยู่กันลำบากเพราะต่างไม่ยอมกัน มีแต่จะแตกหักกันไปข้างจึงถ้ายอมเสียฝ่ายหนึ่ง ทนได้ทนไว้นิ่งไว้ ไม่โต้ตอบ หรือถ้าจะตอบก็ตอบอย่างมีสติ แบบใจเย็น ใช้คำพูดที่เป็นน้ำ ฟังแล้วสบายใจไม่ขัดหู ก็จะดับไฟได้ แต่ถ้าตอบแบบไม่ลดราวาศอกไม่ยอมกันท่าเดียว ก็เท่ากับเติมเชื้อไฟเข้าไป ก็มีแต่จะลุกลามใหญ่โตสถานเดียว