ชื่อนั้นสําคัญจริงหรือ

วันที่ 21 สค. พ.ศ.2567

ชื่อนั้นสําคัญจริงหรือ

670821_b163.jpg
                 ในสำนักอาจารย์ทิศาปาโมกข์แห่งเมืองตักสิลา มีลูกศิษย์อาศัยเรียนกันอยู่ประมาณ ๕๐๐ คน มีลูกศิษย์คนหนึ่งชื่อ บาป ที่แปลว่าชั่วหรือเลว เพื่อนๆชอบล้อเลียนเขามาตลอด สมัยเด็กก็ไม่คิดอะไรมาก แต่พอโตเป็นหนุ่มเช้าก็เริ่มอาย โดยเฉพาะตอนออกไปที่ตลาด เมื่อโดนเรียกชื่อต่อหน้าสาวๆ และพวกเธอมองตนแล้วยิ้มๆ ก็ให้ยิ่งอายหนักขึ้น บ่อยเข้าก็ทนไม่ไหว เข้าไปหาอาจารย์ทิสาปาโมกข์ ขอให้ท่านเปลี่ยนชื่อให้
 

“อาจารย์ครับ ชื่อผมเป็นอวมงคล ผมอยากเปลี่ยนชื่อใหม่กรุณาเปลี่ยนให้ผมด้วยเถิดครับ”
 

อาจารย์จึงสั่งว่า “ตอนช่วงปิดเทอม เธอไปถามคนในนอกเมืองดูว่า ใครชื่ออะไรบ้าง เธออยากได้ชื่ออะไร ก็มาบอกฉันก็แล้วกัน”
 

เขาดีใจที่จะได้เปลี่ยนชื่อให้เป็นมงคล พอปิดเทอมเขาก็ออกจากสำนักไปนอกเมือง พอดีเห็นคนกำลังหามศพไปฝังกัน จึงเข้าไปถามว่าคนตายชื่ออะไร


“เขาชื่อ ชีวกะ จ้ะ” คนหามบอก


เขาจึงพูดเปรยๆ ว่า “เออหนอ คนชื่อชีวกะที่แปลว่ารอด เป็นชื่อมงคลแท้ๆ แต่ก็ยังไม่รอด ยังตายได้นิ”
 

คนหามจึงบอกว่า “จะชื่อว่าชีวกะหรืออชีวกะก็ตายทั้งนั้นแหล่ะคุณ ชื่อเป็นเพียงสมมติเรียกกัน คุณนี่ท่าจะบ้าหรือโง่จริงๆ”


เขาจึงเดินจากไป สักพักหนึ่งเห็นคนมุงดูอะไรกันอยู่ เข้าไปดู ก็เห็นชายคนหนึ่งกำลังตีทาสีคนหนึ่งด้วยหวาย จึงถามหญิงคนหนึ่ง ว่าเขาตีทำไมนางบอกว่า

 

“ผู้หญิงคนนี้เป็นนางทาสี ไปขอกู้เงินเขามา เมื่อเจ้าของมาทวงเงินไม่มีให้เขา เขาจึงตีเอาอย่างที่เห็นนี่แหละ”
 

“แล้วนางคนนี้ชื่ออะไรครับ” เขาถามต่อ
 

“ชื่อธนปาลีจ้ะ” นางบอก
 

เขาคิดว่า “ชื่อธนปาลี ก็เพราะดีนะ ความหมายก็ดีด้วยเพราะหมายถึงคนรวยคนมีทรัพย์ แต่ไหงนางจึงยากจนล่ะ”
 

จากตรงนั้นไปอีกพักหนึ่ง มีชายคนหนึ่งมาถามเขา

 

“ขอโทษครับ ผมขอถามหน่อย ทางที่จะไปหมู่บ้านชื่อนี้ไปทางไหน ผมหาทางไปไม่ถูก ไม่รู้ว่าอยู่ทางทิศใด”
 

“ไปทางนี้นะ” เขาชี้เส้นทางให้ชายคนนั้นดู แต่พอนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงถามชายคนนั้นว่า
 

“พี่ชื่ออะไรครับ”
 

“ผมชื่อปันถกะ”
 

เขาตอบแล้วรีบเดินไปตามเส้นทางนั้น เมื่อชายคนนั้นจากไปแล้ว เขาส่ายหน้ายิ้ม นึกขำอยู่ในใจ
 

“เออประหลาดดี คนชื่อว่าปันถกะ ซึ่งแปลว่าชำนาญทาง แต่กลับหลงทาง หาทางไม่เจอ ไม่สมชื่อเลยจริงๆ”
 

พอคิดมาถึงตรงนี้ ความคิดเขาก็เริ่มสว่าง โดยหวนกลับมาคิดถึงชื่อตัวเอง
 

“เราชื่อบาป แต่ก็ไม่เคยทำบาปทำกรรม ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน สอบได้คะแนนดีเสียด้วย ไม่เห็นเป็นอวมงคลอย่างชื่อเลย เรานี่ท่าจะบ้าอย่างที่เขาว่าจริงๆ”


เมื่อตาสว่างก็รีบกลับไปยังสำนัก เมื่อไปถึงก็เข้าไปหาอาจารย์ทันที อาจารย์ถามว่า
 

“ได้ชื่อใหม่หรือยัง”


“ไม่ได้เลยครับ ชื่อเก่านั้นดีแล้วครับ ผมไม่อยากเปลี่ยนชื่อแล้ว” เขาตอบพร้อมทั้งเล่าเรื่องที่ไปพบเห็นมาให้อาจารย์ฟังโดยละเอียด
 

เรื่องนี้สื่อความให้เห็นว่า

                    คนเราจะดีจะเลวอยู่ที่ตัวทำ จะสูงจะต่ำอยู่ที่ทำตัว หาอยู่ที่ชื่อไม่ ชื่อเป็นเพียงบัญญัติที่สมมติกันขึ้น เพื่อให้เรียกขานกัน เพื่อสื่อความกันว่าหมายถึงผู้นั้นผู้นี้เท่านั้น หามีอิทธิพลต่อชีวิตโดยทำให้ดีให้ชั่ว ให้สูงส่งหรือให้ตกต่ำได้ไม่ อย่างดีก็แค่ทำให้ไม่สบายใจหรือทำให้อายคนอื่นเท่านั้น แต่ถ้าเจ้าตัวไม่คิดไม่ติดใจเสียอย่างเดียว คนอื่นเขาก็ไม่คิดรังเกียจเดียดฉันอะไร เพียงเพราะเรามีชื่ออย่างนั้นอย่างนี้ ยิ่งเป็นชื่อที่พ่อตั้งให้แม่ตั้งให้ด้วยแล้ว ยิ่งต้องรักต้องหวงแหนให้มากเข้าไว้ เป็นที่ส่วนใหญ่ชื่อที่เจ้าตัวคิดว่าไม่เพราะไม่เป็นมงคลนั้น พ่อแม่ย่อมมีเหตุผลสำคัญหรือเห็นว่าเป็นมงคลนามแล้วจึงตั้งชื่อนั้นให้ พ่อแม่ทุกคนย่อมต้องการให้ลูกอยู่ดีมีสุขและได้รับความเจริญก้าวหน้าอันเป็นมงคลทั้งนั้น ไฉนท่านจะมาตั้งชื่อที่ไม่เป็นมงคลให้แก่ลูกเล่า

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.049819314479828 Mins