เรื่องของโอโม กล่องที่ 2: ครอบครัว"ภัทรโกมล"
พ่อของเราคือพ่อสุนทร ส่วนแม่คือแม่ประยูร มีลูก 10 คน แต่เสียตั้งแต่เด็กๆ 2 คน เป็นชายทั้งคู่ ปัจจุบันจึงถือว่าเรามีพี่น้อง 8 คน เดิมเราเป็นคนสุดท้อง แต่ครองตำแหน่งได้แต่เพียง 5 ปี ก็มีน้องคนเล็ก คือ เอ ตามมาเกิด
บรรพบุรุษฝ่ายพ่อ คือก๋ง และย่า รวมถึงพ่อที่ยังเล็กๆ เดินทางมาจากเมืองจีน เคยถามกันในครอบครัวว่า ทำไมเราเรียกปู่ว่า"ก๋ง" แล้วทำไมไม่เรียกย่าว่า "อาม่า" ก็ไม่มีคำตอบ รวมถึงทำไม ก๋ง ย่า พ่อ จึงมีชื่อ นามสกุล สัญชาติไทยเร็วมาก ต่างจากคนอื่นๆซึ่ง ยังใช้ชื่อจีน ใช้แซ่ และถือหนังสือต่างด้าว ก๋ง มีชื่อไทยว่า ทองสุข ย่าชื่อ สำรวย นามสกุล ภัทรโกมล ถ้าไม่บอกว่าเป็นคนจีน ก็คิดว่าเป็นไทยแท้ๆเลย ข้อดีของการได้สัญชาติไทยเร็ว คือทำให้พ่อได้เรียนจบที่มัธยมวัดสระเกศ และได้เข้ารับราชการที่การรถไฟแห่งประเทศไทย พ่อมีพี่น้อง 3คน พ่อเป็นคนโต แล้วมีอาผู้หญิง อาผู้ชายคนเล็กชื่ออาแดง จบจากธรรมศาสตร์ และเป็นอดีตรองอธิบดีกรมธนารักษ์
บรรพบุรุษฝ่ายแม่ จะอยู่ที่หลังสถานีรถไฟเชียงราก ที่ปทุมธานีนี่เอง ตาคือ ตาพวง พวงยาว ยายชื่อยายสงวน แม่มีพี่น้อง 8 คน ชาย 5 หญิง 3 แม่เป็นคนที่ 3 ปัจจุบันได้เดินทางกลับบ้านเดิมไปแล้ว 6 ท่าน เหลือแต่น้าในลำดับที่ 7 และ 8 ในเชื้อสายของแม่ มีทั้ง ไทย มอญ และจีน เพราะแม่ก็มี ก๋ง เหมือนกัน
โดยสรุปแล้ว สัดส่วนเชื้อชาติในตัวเรา 50%จากพ่อคือจีนล้วนๆ จีนนอกด้วยนะ ส่วนอีก50% จากแม่ มีทั้ง ไทย มอญ จีน รวมกันแล้ว น่าจะเป็นจีนสัก 65 % แต่ดูตัวเองแล้ว หน้าเป็นไทยมากกว่า แถมพูดจีนไม่ได้ ที่บ้านเอง พ่อก็ไม่เคยจัดไหว้อะไร ดำเนินชีวิตแบบไทยๆมาตลอด
หลังจากทราบที่มาว่าทำไมชื่อเล่นของเราจึงชื่อ "โอโม" แล้ว ในส่วนชื่อจริงก็มีที่มาเหมือนกัน เคยถามแม่ว่าทำไมเราจึงชื่อ "วันชัย" แม่เล่าว่า ตอนไปแจ้งเกิดแจ้งชื่อที่เทศบาล แม่ได้บอกพ่อว่าให้เลือกชื่อใน 2 ชื่อนี้คือ "พิษณุ" หรือไม่ก็ "ยงยุทธ" เลยถามแม่ว่า ชื่อ พิษณุ พอเข้าใจได้ เพราะเกิดที่ พิษณุโลก แต่ ยงยุทธ นี่สิดูไม่เชื่อมโยงอะไรเลย แม่เลยบอกข้อมูลเชิงลึกที่พี่น้องในบ้านไม่มีใครรู้เลย ยงยุทธ คือชื่อแฟนเก่าแม่ไง ถ้าเป็นสมัยนี้ก็ต้องบอกว่าเรา หงายเงิบเลย ระหว่างที่พ่อเดินไปเทศบาลไม่รู้ไปเดินสะดุดรากไม้หรือก้อนหิน พอถึงเทศบาลก็ลืมชื่อที่แม่ให้มาเสียสิ้น พ่อเลยใช้ฐานข้อมูลปัจจุบันของทางราชการโดยถามเจ้าหน้าที่ว่า ชื่อที่นิยมตั้งกันตอนนี้คือชื่ออะไร เจ้าหน้าที่ก็ดีใจหาย บอกว่าชื่อที่นิยมติดชาร์ทมาข้ามปี คือ "วันชัย" กับ "สมชาย" และแล้วพ่อก็เลือกชื่อ "วันชัย" กลับมาถึงบ้านแม่โมโหซะ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ไปเปลี่ยนชื่อตามที่แม่ตั้ง จึงไม่สงสัยเลยว่าทำไมคน Gen Baby boom จึงชื่อ วันชัย กับ สมชาย กันจัง สรุปความเราจึงมีชื่ออันเป็นมงคลว่า "วันชัย" จนถึงปัจจุบัน จบข่าว