.....วันนี้เป็นวันงดสูบบุหรี่โลกผมอยากอ้อนวอนให้ทุกคนเลิกทำลายสุขภาพตัวเองและคนรอบข้างเสียที จะเริ่มตั้งแต่วันนี้หรือจะเลิกเด็ดขาดเลยก็ได้แต่ผมก็ได้คำตอบแล้วว่าเป็นไปได้ยาก ทำให้นึกถึงโปสการ์ดไอเดียร์ของนักโฆษณาอันหนึ่งซึ่งมีรูปแบบแสนจะธรรมดาครับ แต่ความคิดนั้นโดนใจจนอดเอามากล่าวถึงไม่ได้ ผมว่ามันน่าจะเข้ากันกับการรณรงค์ให้เลิกสูบบุหรี่จริงๆ
.....ลักษณะของโปสการ์ดก็เป็นกระดาษพื้นสีขาวธรรมดาๆ แต่ถ้อยคำพิมพ์ด้วยตัวอักษรสีแดงสด เขียนว่า "สระผมบ่อยๆ ระวังเส้นเลือดในสมองแตก" อีกฉบับเขียนว่า "แปรงฟันทุกวัน เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์" และ "หวีผมเป็นประจำ ระวังสมรรถภาพทางเพศเสื่อม" อันสุดท้ายมีข้อความว่า "กินข้าวทุกวัน ระวังเป็นมะเร็ง" นอกจากมีข้อความชัดเจนอย่างที่กล่าวมาแล้ว เขายังมีตัวหนังสือเล็กๆ สีดำอยู่ในกรอบว่า "เรื่องโกหกทำตกใจ ทีเรื่องจริงทำไมไม่กลัว ปรารถดีจาก มูลนิธิธรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่"
.....เขาให้ข้อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า มันน่าคิดตรงที่ดูเหมือนคนจะรู้ดีว่า สูบบุหรี่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่คนก็ยังสูบกันอยู่ เขาเปรียบเทียบกับข่าวว่าคลื่นโทรศัพท์มือถือทำให้เกิดมะเร็งคนก็ตื่นตัวกันใหญ่โตเช่นกัน แต่ที่น่าแปลกใจที่ว่า ทำไมคนไม่กลัวอันตรายจากบุหรี่ ทั้งๆ ที่เรารู้กันมาตั้งแต่เด็ก การหยิบเรื่องใกล้ตัวที่เป็นกิจวัตรประจำวันอย่างกินข้าว หวีผม แปรงฟันมาแต่งเติมให้น่ากลัวแล้วก็ตบท้ายว่า เรื่องโกหกทำตกใจ ทีเรื่องจริงทำไมไม่กลัว
.....แนวคิดเรื่องนี้ผมมองว่าเขาเข้าไปในจิตใจของความคิด ความรู้สึกและการกระทำของมนุษย์ได้อย่างล้ำลึก คนเรามักจะตื่นตระหนกกับเรื่องราวที่แปลกๆ ใหม่ๆ เสมอ อย่างเรื่องคลื่นโทรศัพท์มันอาจมีส่วนเกี่ยวข้องบ้างล่ะสำหรับอันตรายที่เกิดขึ้น แต่ทุกครั้งที่ใช้โทรศัพท์ดังกล่าวมันเหมือนความรู้สึกว่าเรากำลังได้รับอันตรายเสียใหญ่หลวง พอมาเห็นโปสการ์ดสี่แผ่นนี้ผมยังไม่ทันอ่านกรอบเล็กๆ นั้นผมก็เริ่มเอามือลูบศรีษะเพราะผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบสระผมบ่อยๆ อ่านข้อความนี้จบพาลจะไม่สระผมเอาเลยทีเดียว ถ้าไม่ได้อ่านกรอบเล็กๆ ที่ว่า "เขาโกหก"
.....ความแปลกของมนุษย์ที่แก้ไม่หายก็คงจะเป็นเรื่องนี้ เข้าทำนองที่ว่า ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตานั้นแหละ คือหากยังไม่ต้องซ่อมปอด หลอดลม หรือถุงลมที่มันโป่งพองก็เห็นทีจะ เลิกสูบ บุหรียาก ขนาดที่ข้างซองบุหรี่เขียนไว้ชัดเจนว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ยังมีเรื่องอื่นอีกครับที่ยังไม่กลัวกันอย่างเมาเหล้าขับรถ หรือนั่งรถไม่คาดเข็มขัดนิรภัย คำเตือนต่างๆ นานาที่สรรหากันมาป้องกันดูจะไม่เป็นผล เพราะว่าทุกคนเขายังไม่สัมผัสถึงเหตุการณ์จริง แต่กว่าจะรู้ตัวไม่รู้ว่าสายไปหรือเปล่านี่สิครับ!!
นายตั้ม