องค์กรยุวพุทธสงฆ์โลก (World Buddhism Sangka Youth: WBSY) จัดประชุมสามัญครั้งที่ ๔ ภายใต้ชื่อแนวคิด เราเป็นหนึ่งเดียว – ๒๕๕๐ ปี แห่งพระพุทธศาสนา หรือ We are one - 2550 Year of Buddhism ระหว่างวันที่ ๑๑ - ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ ที่ผ่านมา ซึ่งมีพระภิกษุจากทั้ง ๓ นิกาย ได้แก่ มหายาน วัชรยาน และเถรวาท จาก ๔๐ ประเทศ จำนวน ๔๐๐ รูป เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ โดยมี พระมูกุนุเวลา อนุรุทธะเถโร เลขาธิการองค์กรยุวพุทธสงฆ์โลก เป็นประธานจัดงาน และวัดสังฆทาน จ.นนทบุรี ร่วมกับวัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี รับเป็นเจ้าภาพจัดงาน
พิธีเปิดเริ่มด้วยสุนทรพจน์ของ พระอธิการสนอง กตปุญฺโญ เจ้าอาวาสวัดสังฆทาน ใจความว่า “รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ทางองค์กรยุวพุทธสงฆ์โลกให้ความไว้วางใจและเชื่อมั่นโดยเลือกวัดสังฆทานและวัดพระธรรมกาย เป็นสถานที่ในการจัดประชุม ซึ่งเชื่อว่าพระเถรานุเถระทุกรูปมีความเชื่อในคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์เดียวกัน จึงได้มาร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียงในครั้งนี้” จากนั้นเป็นสุนทรพจน์ของพระมูกุนุเวลา อนุรุทธะเถโร เลขาธิการองค์กรยุวพุทธสงฆ์โลก ความว่า “การประชุมในครั้งนี้จัดขึ้นในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ ๒๕๕๐ ปีแห่งพระพุทธศาสนา ถึงแม้ว่าคณะสงฆ์ที่มาร่วมประชุมในวันนี้จะต่างกันในเรื่องของ การแต่งกาย เชื้อชาติ และภาษา แต่เชื่อว่าเรามีพระพุทธศาสนาและพระศาสดาที่นับถือองค์เดียวกันจึงได้มารวมตัวกันในครั้งนี้”
หลังจากนั้นเป็นสุนทรพจน์จากพระบุญชู อริยธมฺโม พระผู้แทนจากวัดพระธรรมกาย โดยมีใจความว่า “เราต้องตั้งอยู่ในสัมมาทิฐิ และเชื่อว่านรกสวรรค์มีจริง ทั้งนี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านได้เข้าสู่นิพพานด้วยสมาธิเพราะฉะนั้นเราจึงต้องใช้สมาธิเพื่อเข้าสู่นิพพาน”
ที่ประชุมได้มีการเสวนาเรื่อง “We are one – เราเป็นหนึ่งเดียวกัน” กับการค้นพบธรรมะครั้งยิ่งใหญ่ โดยพระอธิการสนอง กตปญฺโญ เจ้าอาวาสวัดสังฆทาน พร้อมด้วย พระไดเจียว นากาจิมะ เจ้าอาวาสวัดฮอนริวจิ ประเทศญี่ปุ่น, พระไห่หยุน จิเม็ง ประธานสำนักสงฆ์หัวเหย็น ประเทศไต้หวัน, พระวัจระ ลอง เชง ประเทศออสเตรเลีย, ลามะกัลป์ซัง ประเทศเนปาล, ดร.ชัยสิทธิ์ สุวรรณวรางกูล ประเทศไทย โดยมีใจความสรุปว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงมีน้ำพระทัยเต็มเปี่ยมไปด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันไม่มีประมาณ ท่านได้ปฏิบัติตามหนทางสายกลางจนได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาโพธิญาณ ทรงรู้แจ้งสัจธรรมแล้วจึงทรงแนะนำสั่งสอน ทรงนำสัจธรรมความจริงแท้อันเกิดขึ้นจากความรู้แจ้งมาเปิดเผยให้แก่ชาวโลกเห็น ดังนั้นการที่พระพุทธศาสนาจะเป็นหนึ่งเดียวกันเราต้องนำหลักที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นไปเป็นแนวทางในการเผยแผ่ต่อไป
นอกจากนี้ยังได้ร่วมกันกล่าวปฎิญญาพุทธบุตรเป็นหนึ่งเดียว ณ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร จังหวัดนครปฐม โดยการนำของพระธรรมปริยัติเมธี เจ้าคณะภาค ๑๕ เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร โดยมีใจความว่า “เรามาอยู่รวมกันเพื่อช่วยเหลือพระพุทธศาสนา โดยยึดหลักโอวาทปาติโมกข์ คือ เราจะไม่ว่าร้ายกัน เราจะไม่ล้างผลาญกัน เราจะมีความสำรวมในพระปาติโมกข์ เราจะรู้จักประมาณการในการบริโภค เราจะอยู่ในเสนาสนะอันสงบ เราจะประกอบความเพียรเพื่อพระพุทธศาสนา”
สำหรับพิธีปิดการประชุมสามัญองค์กรยุวพุทธสงฆ์โลก ครั้งที่ ๔ จัดขึ้นในวันอาทิตย์ ที่ ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ ณ สภาธรรมกายสากล วัดพระธรรมกาย สำหรับพิธีเริ่มขึ้นโดยคณะสงฆ์ทุกรูป ที่เข้าร่วมประชุมได้ชมประมวลภาพในการประชุมที่ผ่านมา จากนั้น พระภาวนาวิริยคุณ รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้กล่าวสุนทรพจน์ ความว่า “การประชุมในครั้งนี้เห็นได้ว่าเราตั้งใจที่จะรวมกันเป็นหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญที่จะทำให้เรารวมกันเป็นหนึ่งได้นั้นคือ จิตใจ ซึ่งถ้าคณะสงฆ์ที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ยึดหลักคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว พระพุทธศาสนาก็จะเผยแผ่ไปได้ง่ายและเป็นหนึ่งเดียวกันในที่สุด อย่างไรก็ตาม เมื่อยึดหลักขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว พระสงฆ์ทุกรูป ทุกนิกายต้องฝึกฝนอบรมตนเองด้วยหลักอริยมรรคมีองค์ ๘ เพื่อตนเองและเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นที่น่าเลื่อมใสของประชาชน”
จากนั้นเป็นการกล่าวสุนทรพจน์จาก ผช.ดร. พระสุทธิวรญาณ รองคณะบดีต่างประเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย โดยมีใจความว่า “ถ้าพระสงฆ์ทุกรูปเชื่อในพระรัตนตรัย รวมถึงรักษาศีล และพระธรรมวินัยแล้ว ศาสนาพุทธก็จะยังคงอยู่และเป็นหนึ่งเดียวกันตลอดไป” และสุนทรพจน์จากนายโรฮานา ติสนายกะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนานครหลวงและเมืองโบราณ จากนั้นพระมูกุนุเวลา อนุรุทธะเถโร ประเทศศรีลังกา เป็นผู้ส่งมอบธง ให้กับเจ้าภาพการประชุมสามัญประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๑ ให้แก่ประเทศออสเตรเลียต่อไป