คำถาม.....ชาวพุทธควรปฏิบัติตนอย่างไรในช่วงเข้าพรรษานี้ จึงจะได้บุญเต็มที่ครับ
คำตอบ.....ช่วงเข้าพรรษา พระภิกษุทั้งพระเก่าพระใหม่ท่านก็อยู่กันพร้อมหน้า เช่นนี้ก็จะเป็นโชคดีของญาติโยม โชคดีอย่างไร เมื่อเนื้อนาบุญอยู่พร้อมหน้า ญาติโยมตั้งแต่ปู่ย่าตาทวดมา ท่านจะไม่ปล่อยให้พระท่านเข้าพรรษาเพียงลำพังหรอก เพราะญาติโยมก็พลอยเข้าพรรษาไปด้วยเหมือนกัน แต่ว่าเข้าพรรษาของญาติโยม เป็นการเข้าพรรษาด้วยการอธิษฐานจิต
หลักธรรมในพระพุทธศาสนา มีแม่บทไว้ชัดอยู่ ๓ ข้อ
๑. ละชั่ว
๒. ทำดี
๓. กลั่นใจให้ใส
.....เมื่อพระท่านอยู่จำพรรษา ท่านก็มีหน้าที่ของท่านว่า “ละชั่ว” คำว่าละชั่วของพระ ไม่ใช่หมายถึง ชั่วแบบทำหยาบๆ คายๆ อย่างที่มนุษย์เป็นกัน แต่ว่าละชั่วของท่านในที่นี้ หมายถึง “กิเลส” ซึ่งโดยทางโลกแล้วมองไม่ออกหรอกว่าเป็นความชั่ว ความไม่ดี เช่น มีจิตฟุ้งซ่าน ความจริงก็อยู่ในใจท่าน คนอื่นมองไม่เห็นหรอก ถึงขนาดนั้นท่านก็พยายามจะละความฟุ้งซ่านของท่านให้ได้ ด้วยการเจริญภาวนาให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เป็นต้น ท่านก็ละกิเลส หรือละชั่วที่ละเอียดๆ ยิ่งๆ ขึ้นไป ให้สมภูมิธรรมแห่งความเป็นพระของท่าน ความดีท่านก็ทำให้ยิ่งๆ ขึ้น เช่น อยู่วัดพระท่านก็เทศน์ ก็สั่งสอน ก็อบรม ให้กับพระใหม่กันไป ส่วนพระใหม่ก็ตั้งใจศึกษาให้เป็นความรู้ เพิ่มพูนความดีให้กับตัวของท่านไป แล้วก็ทำใจให้ใสพร้อมๆ กันด้วยการสวดมนต์ภาวนา เช้ามืดท่านก็ตื่นขึ้นมาตั้งแต่ตี ๔ ตื่นขึ้นมาสวดมนต์แต่เช้า เป็นต้น
.....ทีนี้ สำหรับพวกญาติโยมทั้งหลาย พอวันเข้าพรรษาก็อธิษฐานพรรษาเหมือนกัน ตั้งแต่สมัยโบราณ อธิฐานอย่างไร ก็พรรษานี้ ๓ เดือนนี้ รู้ว่าอะไรเป็นนิสัยที่ไม่ดีในตัวเอง ก็อธิษฐานเลยพรรษานี้เลือกมาอย่างน้อย ๑ ข้อ เราจะแก้ไขตัวเองให้ได้ เช่น บางคนเคยกินเหล้า งวดนี้นี้เข้าพรรษาแล้ว อธิษฐานเลิกเหล้าให้เด็ดขาด บางคนเคยสูบบุหรี่อย่างน้อยพรรษานี้จะเลิกบุหรี่ให้เด็ดขาด อย่างนี้เป็นต้น เขาก็มีการอธิษฐานกันในวันเข้าพรรษาว่า พรรษานี้จะละความไม่ดีอะไรบ้าง ทั้งหยาบทั้งละเอียด ให้พยายามละกันทีเดียว คือทำตามพระให้เต็มที่นั่นเองในระดับของประชาชน
.....สิ่งใดที่เป็นความดี ก็พยายามที่จะทำให้ยิ่งๆขึ้นไป เช่น เมื่อก่อนนี้ ก่อนจะเข้าพรรษา ตักบาตรบ้าง ไม่ตักบาตรบ้าง วันไหนมีโอกาสก็ตัก วันไหนชักขี้เกียจก็ไม่ตัก ถ้าเช่นนั้นพรรษานี้ พระอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาดีแล้ว ตั้งใจเลยที่จะตักบาตรให้ได้ทุกเช้า เมื่อก่อนไม่ทุกเช้า แค่เสาร์อาทิตย์ หรือวันโกนวันพระ พรรษานี้พระอยู่พร้อมหน้า อธิษฐานเลยจะตักบาตรทุกเช้าทีเดียว ๓ เดือนที่เข้าพรรษานี่ก็เป็นธรรมเนียมที่ปู่ย่าตาทวดถือปฏิบัติกันมา
.....บางท่านยิ่งกว่านั้น ธรรมดาเคยถือศีล ๕ เป็นปกติอยู่แล้ว พรรษานี้ได้โอกาสเลยให้ถือศีล ๘ ทุกวันพระไปเลย แถมจากศีล ๕ ยกขึ้นไปเป็นศีล ๘ บางท่านเคยถือศีล ๘ ทุกวันพระ ถืออุโบสถศีลทั้งวันโกนวันพระ ก็เพิ่มเป็นสัปดาห์ละ ๒ วันขึ้นไป บางท่านเก่งกว่านั้นขึ้นไปอีก พรรษานี้จะรักษาอุโบสถศีล รักษาศีล ๘ กันตลอด ๓ เดือนเลย ก็แล้วแต่จะเลือก
.....ใครมีกุศลจิตศรัทธามากเพียงไหนก็ปฏิบัติให้ยิ่งๆ ขึ้นไปตามนั้น บางท่านยิ่งกว่านั้นขึ้นไปอีกถึงกับอธิษฐานเลยว่า พรรษานี้นอกจากถือศีลกันตลอดพรรษาแล้วยังไม่พอ อธิษฐานที่จะทำสมาธิทุกวัน ทุกคืนก่อนนอนวันละ ๑ ชั่วโมง ใครไม่เคยทำก็อธิษฐานวันละ ๑ ชั่วโมง คืนละ ๑ ชั่วโมง บางท่านเพิ่มเป็นคืนละ ๒ ชั่งโมง ๓ ชั่วโมง ก็ว่ากันไปตามกุศลศรัทธาอย่างนี้ นี่ก็เป็นสิ่งที่ปู่ย่าตาทวดเราถือปฏิบัติกันมา
.....อีกอย่างหนึ่งที่จะฝากก็คือ เนื่องจากปัจจุบันนี้สังคมเปลี่ยนไป ญาติโยมประชาชนส่วนมากหยุดงานวันเสาร์อาทิตย์ แต่พระเราแต่เดิมก็เทศน์กันวันโกนวันพระเป็นหลักอยู่แล้ว เมื่อเป็นอย่างนี้เข้า จึงทำให้เหลือแต่คนเฒ่าคนแก่เท่านั้นไปฟังเทศน์ในวันโกนวันพระ
.....แต่ครั้งนี้เข้าพรรษา ขอฝากกับหลวงพ่อหลวงพี่ด้วยก็แล้วกัน ถ้าจะเพิ่มวันเทศน์วันสอนธรรมะให้กับประชาชนในวันเสาร์อาทิตย์ ซึ่งญาติโยมเขาหยุดงานกันอีกสักวัน ๒ วัน ก็จะเป็นการดี แล้วก็ญาติโยมเองด้วย เมื่อรู้ว่าพระท่านเทศน์วันโกนวันพระแล้ว และครั้งนี้เข้าพรรษาท่านแถมในวันเสาร์วันอาทิตย์ให้อีกด้วย อย่าลืมไปฟังท่านเทศน์ด้วย ถ้าขยันกันอย่างนี้ ก็จะมีแต่บุญกุศลกันตลอดทั้งพรรษา แล้วความเจริญรุ่งเรืองทั้งกับตัวของเราเอง ทั้งพระพุทธศาสนา ประเทศชาติบ้านเมืองของเรา ก็จะบังเกิดขึ้นตลอดปี ตลอดไป.