เกียรติคุณสัตบุรุษนั้น เปรียบปาน
กลิ่นรื่นุมามาลย์ กลิ่นไม้
หอมตลบตลอดกาล ไป่หยุด
หวานสายลมหอมได้ ทั่วทั้ง ทิศา
(พระนิพนธ์ ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา)
กัลยาณมิตรที่รักทั้งหลาย ความดีที่บุคคลได้กระทำไว้ ย่อมจะไม่สูญสลาย แต่จะยังคงอยู่และคอยประกาศเกียรติคุณของผู้กระทำอยู่เสมอ เหมือนดั่งผงธุลีที่ปลวกตัวเล็กๆ ได้นำมาสะสมทีละน้อย สักวันหนึ่งก็กลายเป็นจอมปลวกขนาดใหญ่มหึมายิ่งกว่าตัวปลวกตัวมดหลายเท่าพวกเราเหล่ากัลยาณมิตรทั้งหลาย ได้ชื่อว่าเป็นสัตบุรุษ ผู้มีธรรมะเป็นอาภรณ์ นอกจากจะฝึกฝนตนเองให้ถึงพร้อมแล้ว ยังมุ่งจะสงเคราะห์ชาวโลกทั้งหลาย ให้ได้พบหนทางแห่งความประเสริฐและถือเป็นโชคอันมหาศาลที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงวางแบบแผนของการเกื้อกูลหมู่สรรพสัตว์ทั้งหลายด้วยกระแสธรรมว่า ความอดทน..เป็นตบะธรรมอันเลิศ (ขันตี ปรมํ ตโป ตี ติกขา) จะต้องไม่ไปว่าร้าย (อนูปวาโท) จะต้องไม่ทำร้าย (อนูปฆาโต) เป็นต้น ซึ่งก็คือ โอวาทปาติโมกข์ ที่พระองค์ได้แสดงแก่พระอรหันตสาวกในกาลแห่งมาฆฤกษ์
กัลยาณมิตรที่รัก เราทั้งหลายในเส้นทางแห่งความดีสายนี้ เราต่างไม่มุ่งที่จะว่าร้าย หรือทำร้ายใคร และเราเองก็ไม่ประสงค์จะถูกว่าร้าย หรือถูกทำร้ายใดๆ ด้วย แต่กระนั้นก็ตาม บนเส้นทางแห่งการสร้างบารมี เราอาจจะต้องพบเจออุปสรรคหลายรูปแบบ ความอดทนจึงเป็นตบะธรรมอันเลิศ ประดุจภูเขาศิลาแท่งทึบ ย่อมไม่หวั่นไหวต่อแรงลมที่พัดมาทั้งสี่ทิศเช่นเดียวกัน ความดีแห่งเรา เหล่ากัลยาณมิตรทุกคน ที่หมั่นสะสมมาแล้วนี้ ย่อมจะไม่ถูกพัดพา กลืนหายไปกับกระแสลม แต่กลับจะหอมทวนลมตลบไปทั่วสารทิศ ให้เป็นที่แซ่ซ้องสรรเสริญ แม้หมู่อมนุษย์และเทวดาทั่วอนันตจักรวาลแล
ขอขอบคุณ หนังสือ “หน้าสุดท้าย” ประพันธ์โดย พระสุธรรม สุธมฺโม
สงวนลิขสิทธิ์ตาม พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗
ห้ามนำไปใช้ประโยชน์ทางการค้าหรือหากำไร ผู้ฝ่าฝืนมีความผิดและต้องรับโทษตามกฎหมาย