พืช
พืช..ที่ให้ความสุขเป็นผล ทั้งในโลกนี้ โลกหน้ากัลยาณมิตรผู้ดำเนินชีวิตด้วยปัญญาทุกท่านเมื่อถึงฤดูออกพรรษา ชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวกัลยาณมิตรเฝ้าเก็บเกี่ยวบุญครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาล กสิพราหมณ์ได้เอ่ยถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขณะที่พระองค์เสด็จผ่านที่นาของตนว่า พระองค์และสาวก ไม่ประกอบการงานอันใดเลย เป็นผู้เกียจคร้าน ยังชีพด้วยภักษาหารของผู้อื่น ผิดกับตนเอง ซึ่งเป็นชาวนา เมื่อปลูกข้าว ก็ได้ข้าวเป็นผลตอบแทน ไม่ต้องไปขอใครกิน
พระพุทธองค์ตรัสว่า “ดูก่อนพราหมณ์แม้เราก็ไถก็หว่านเหมือนกัน เมื่อได้ไถหว่านแล้ว จึงได้บริโภค” และพระองค์ก็ได้ตรัสอีกว่า “เรามีศรัทธาเป็นพืช ความเพียรเป็นฝน ปัญญาเป็นแอกและไถ ฯลฯ”กัลยาณมิตรผู้มีจิตผ่องใสทุกท่าน อายุของพระพุทธศาสนายืนยาวอยู่ได้ เพราะเมล็ดพืชแห่งศรัทธาในพุทธธรรม ยังคงงอกงามอยู่ในใจของเหล่าพุทธบริษัท ต้นกล้าเมื่อเจริญเติบโตขึ้นเป็นต้นข้าว ยังผลิตผลให้เมล็ดข้าวเป็นเครื่องบริโภคแก่ชาวนา ฉันใด เมล็ดพันธุ์แห่งศรัทธา ก็ย่อมก่อให้เกิดผลอันประเสริฐแก่ธรรมิกชน ฉันนั้นข้าวนั้น เมื่อบริโภคแล้ว ก็ยังคงความอิ่มเอมแก่ร่างกายเพียงชั่วครู่ แต่ธรรมะนั้น ยังความสุขสันติแก่บุคคล ทั้งในโลกนี้และโลกหน้าตลอดกาลนาน
ฉะนั้น เมื่อถึงฤดูออกพรรษา ชาวนาต่างก็เก็บเกี่ยวข้าวในนาของตน เราเหล่ากัลยาณมิตร ผู้มีเนื้อนาบุญ คือ พระภิกษุสงฆ์ที่ปฏิบัติธรรมมาตลอดพรรษา ย่อมจะไม่เพิกเฉยที่จะเก็บเกี่ยวบุญกันอย่างเต็มที่ ด้วยการทำทานตามวิสัยแห่งบัณฑิต ผู้ไม่อิ่มในการสร้างความดี สร้างบารมี ย่อมมุ่งนิพพานอย่างแน่นอน
ขอขอบคุณ หนังสือ “หน้าสุดท้าย” ประพันธ์โดย พระสุธรรม สุธมฺโม
สงวนลิขสิทธิ์ตาม พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗
ห้ามนำไปใช้ประโยชน์ทางการค้าหรือหากำไร ผู้ฝ่าฝืนมีความผิดและต้องรับโทษตามกฎหมาย