เห็นความตั้งใจจริงของสามเณรยุวธรรมทายาทแล้วทำให้ซาบซึ้งพุทธพจน์บทหนึ่งว่า “อย่าดูถูกไฟว่าเพียงเล็กน้อย อย่าดูถูกงูพิษว่าตัวเล็ก อย่าดูถูกกษัตริย์ว่ายังเยาว์ อย่าดูถูกภิกษุว่ายังหนุ่ม”
ข้อ ๑ “อย่าดูถูกว่าไฟเพียงเล็กน้อย” ไฟนิดเดียวแค่ก้านไม้ขีดนี่แหละ ถ้าประมาทล่ะก็เดี๋ยวเถอะ มันเผาเมืองได้ อาจไม่ป่า ไหม้บ้าน ไหม้เมือง ไหม้โลกได้ ตัวอย่างเคยมีมาแล้ว
ข้อ ๒ “อย่าดูถูกงูพิษว่าตัวเล็ก” หลวงพ่อเคยเจอไข่งูเห่าฟองโตกว่าหัวแม่มือนิดเดียว กลมๆ รีๆ สมัยเด็กก็ซนล่ะนะ เห็นแล้วก็ไม่รู้ว่าไข่อะไร ความอยากรู้ก็ทุกข์ พอทุบเผละ ลูกงูเห่ามันเด้งออกมาตัวยาวสักคืบยังเล็กอยู่เลย แต่พอออกจากไข่เท่านั้นไม่น่าเชื่อ มันยกหัวแผ่แม่เบี้ยเลย ชูคอขึ้นมาพ่นพิษฟ่อๆ ทั้งน้ำลายทั้งพิษกระเด็นเป็นฝอยเลยอย่างนี้ถ้ามันกัดได้ล่ะก็ตาย ดูท่าก็รู้กัดตายแน่ มิน่าล่ะ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านจจึงตรัสว่า อย่าดูถูกงูพิษว่าตัวเล็ก ดูถูกไม่ได้
ข้อ ๓ “อย่าดูถูกกษัตริย์ว่ายังเยาว์” กษัตริย์แม้อายุน้อยแต่อำนาจมาก มหาราชบางพระองค์อายุยังนิดเดียว คุมทัพไปรบที่นั่นที่นี่ ปราบไปทั่ว อย่างเช่นพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช อายุ ๑๕ ถึง ๑๖ ขวบ เวลาพ่อไปรบชนะมาทีไรเป็นต้องร้องไห้ทุกที พอมีคนไปถามว่าร้องไห้ทำไม ทำไมไม่ดีใจในชัยชนะของพ่อ ท่านตอบว่ายังงัยรู้มั้ย
“ก็พ่อเล่นรบชนะไปหมดแล้วอีกหน่อยเราโตขึ้นจะไปรบกับใครล่ะ”
ดูนะ กลัวพ่อจะปราบหมดแล้ว ตัวจะไม่มีที่ไปรบ คิดวางแผนล่วงหน้าแต่เล็กเชียว เพราะฉะนั้น จึงตรัสว่า อย่าดูถูกกษัตริย์ว่ายังเยาว์
ข้อ ๔ สุดท้าย “อย่าดูถูกภิกษุว่ายังหนุ่ม” ที่หลวงพ่อเจอยังไม่ทันหนุ่มเลย แค่สามเณรเท่านั้นยังน่าเลื่อมใสแล้ว เห็นตอนยังไม่ได้บวช ยังไม่ได้โกนหัวก็เหมือนเด็กทั่วไป แต่ทันทีที่โกนหัว นุ่งสบงทรงจีวรเข้า เอ๊ะ มาดเปลี่ยนไปเลย แค่ ๗ ขวบกับ ๘ เดือนเท่านั้นแหละ เห็นแล้วรัก เห็นแล้วชื่นใจว่าเหล่ากอของพระบรมศาสดานี่มีลักษณะสง่าผ่าเผย ตั้งแต่ยังเป็นเด็หัวเท่ากำปั้น ชื่นใจจริงๆ