คำถาม:
ในบรรดาพี่น้อง ๗ คน มีลูกเพียงคนเดียวที่ได้รับการศึกษาถึงระดับมหาวิทยาลัย ภายหลังจากที่คุณแม่เสียชีวิตไปแล้ว พี่น้องทุกคนต่างพร้อมใจกันโยนภาระครอบครัวทุกอย่างมาไว้ที่ลูก ซึ่งตอนนั้นตัวลูกทำงานเป็นครู แต่งงานและมีลูกแล้ว จึงเป็นภาระที่หนักอึ้ง ทำให้ลูกเกิดความเครียดมาก จนมีอาการเบลอๆ ต้องหยุดงานเป็นเวลาครึ่งปี ช่วงหยุดงานพักรักษาตัวก็กินอาหารไม่ค่อยลง ดื่มได้แค่ไมโลวันละครึ่งแก้ว น้ำหนักลดลง ๑๐ กิโล และบางครั้งคิดจะฆ่าตัวตาย แต่เนื่องจากเป็นห่วงสามีและลูกสาว จึงระงับความคิดนี้ไป
หลังจากพักหยุดงานได้ ๖ เดือน ลูกก็กลับไปทำงาน อาศัยการสวดมนต์ไหว้พระมาประคองสติตัวเอง แต่ก็ยังทานยาอยู่ ต่อมาก็เลิกทานยา อาศัยการสังเกตดูตัวเองว่า เครียดเมื่อไรก็สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ พร้อมกับไปช่วยงานที่วัดพุทธมหายาน จนกระทั่งกลับสู่สภาวะปกติ และกลับไปสอนหนังสือตามเดิมได้
๑. บุพกรรมใดที่ทำให้ลูกต้องมารับภาระของครอบครัวเดิม คือ พี่น้อง และครอบครัวใหม่ คือ สามีและลูก จนทำให้เป็นโรคเครียด ทานอาหารไม่ได้เป็นเวลาครึ่งปี และเคยคิดจะฆ่าตัวตาย
๒. บุญอะไรที่ช่วยลูกไว้ไม่ให้ฆ่าตัวตาย และหายจากโรคเครียดด้วยการสวดมนต์ไหว้พระ ลูกจะแก้ไขวิบากกรรมเหล่านี้อย่างไร จึงจะไม่ต้องประสบอีกทั้งในชาตินี้และชาติหน้าคะ
ที่นี่มีคำตอบ:
บุพกรรมที่ลูกต้องมารับภาระของครอบครัว จนทำให้เป็นโรคเครียด ทานอาหารไม่ได้ เพราะในอดีตลูกก็เคยมีนิสัยโยนภาระรับผิดชอบต่างๆ ให้กับพี่น้องคนอื่นๆ ทำให้พี่น้องคนอื่นเขาเครียดมากคล้ายๆ กับตัวลูก ในชาตินี้เลยโดนพี่ๆ น้องๆ โยนมาบ้าง แต่ลูกมีบุญที่เคยทำกับหมู่คณะและในพุทธศาสนาเอาไว้ จึงทำให้บุญช่วยลูกไว้ ไม่ให้ฆ่าตัวตาย และหายเครียดด้วยการสวดมนต์ไหว้พระ ประกอบกับลูกไม่มีวิบากกรรมฆ่าตัวตายด้วย
ลูกจะแก้ไขวิบากกรรมนี้ได้ ต้องทำหน้าที่กัลยาณมิตรมากๆ คือ ไปชวนคนทำความดี สร้างบุญทุกๆ บุญ อธิษฐานจิตให้ได้เกิดในครอบครัวที่ดี มีบุพการี พี่น้องที่ดีบ่อยๆ บุญนี้ก็จะช่วยให้ลูกไม่ประสบกับเหตุการณ์อย่างนี้อีกในชาติต่อๆ ไป
ที่นี่มีคำตอบ ฉบับมินิ เล่ม ๑ เรื่องแปลกแต่จริง
โดย คุณครูไม่ใหญ่
๓๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๐