สรณะอันเกษม
วันเวลาที่ผ่านไปแล้ว เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถจะเรียกกลับคืนมาได้ เหมือนดั่งสายน้ำที่ไหลผ่านเลยไปไม่อาจหวนกลับ ชีวิตคนเราก็เช่นกัน ย่อมผ่านไปพร้อมกับกาลเวลา ที่นำความแก่ชรามาสู่ตัวเราทุกอนุวินาที ซึ่งนักสร้างบารมีต้องรู้จักให้วันเวลานั้นผ่านไปพร้อมกับการสร้างความดี เราต้องใช้เวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดนี้ สร้างบารมีให้เต็มที่ เพื่อทำสิ่งที่มีคุณค่าที่สุด ให้เกิขึ้นกับตัวของเราเองและผู้อื่น ด้วยการประพฤติปฏิบัติธรรม แม้สภาวะเศรษฐกิจของโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
บางครั้งชีวิตเราอาจได้รับผลกระทบกระเทือนบ้าง คล้ายกับกำลังถูกมรสุมใหญ่โหมกระหน่ำ แต่ก็ขออย่าได้หวั่นไหว เพราะเหตุการณ์เช่นนี้เป็น....
...ธรรมดาของโลก...
สรณะที่แท้จริงนั้นมีอยู่ภายในเท่านั้น
คือ
พุทธรัตนะ
ธรรมะรัตนะ
สังฆรัตนะ
เป็นที่พึ่งอันเกษม เป็นที่พึ่งอันแม้จริงที่จะช่วยให้พ้นจากทุกข์ทั้งหลายได้ส่วนภูเขา ป่า ต้นไม้ใหญ่ อารามศักดิ์สิทธิ์สิ่งนั้นไม่ใช่ที่พึ่งอันเกษม
รัตนะทั้ง 3อยู่ภายในตัว
ในกึ่งกลางกายของทุกๆ คนเป็นที่พึ่งที่แท้จริงภายในแต่จะเข้าถึงตรงนี้ได้ต้องทำใจให้หยุดนิ่งอยู่ภายในหยุดอยู่ในกลางนั้นไปเรื่อยๆ
หยุดอยู่ในกลางกายพอถูกส่วนเข้าก็เข้าถึงดวงธรรมเบื้องต้น เรียกว่า ดวงธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน บังเกิดขึ้นที่กลางกาย
อย่างเล็กขนาดดวงดาวในอากาศ
อย่างกลางก็ขนาดพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ
อย่างใหญ่ขนาดพระอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน
เป็นดวงสว่างทีเดียวอยู่ในกลางกาย
นั่นคือเบื้องต้นที่จะเข้าถึงรัตนะทั้ง 3
ที่เป็นที่พึ่งที่ระลึกภายในเป็นสรณะอันเกษม
พระเทพญาณมหามุนี วิ.