โอวาทหลวงปู่วัดปากน้ำ
ตอนที่ 26 โดยสิงหล 25 ส.ค. 58
ส่วนฉันเจอหลวงพ่อครั้งแรก ท่านก็เรียกให้ไปเข้าโรงงานทำวิชชา แต่ใจเราไม่ได้คิดว่าจะอยู่ ก็ไม่ยอมเข้าไป หลวงพ่อท่านพูดว่า ให้เข้ามาช่วยทำวิชชา มีครั้งหนึ่ง หลวงพ่อลงจากธรรมาสน์ ท่านก็กวักมือเรียก ท่านบอกว่า"นี่ได้ธรรมะ ขาดรู้ได้ด้วย เก่ง เข้าโรงงานนะ" ไอ้เราก็ดื้อไม่นึกว่าจะอยู่ ถ้านึกว่าจะอยู่ก็เข้าไปในโรงงานแล้ว ท่านเคยส่งให้เราไปต่อวิชชากับครูญาณี แต่ไม่ถูกจริตเรา ครูญาณีสอนช้าไม่ถูกใจ เราชอบแบบไวๆ เคยเข้าแบบไวๆมาก่อน มันก็เลยเรียนกับครูญาณีไม่ได้ ตอนนั้นไม่รู้ยังไงกลัวสารพัด คือในโรงงานคนอยู่กันเยอะ มีแม่ชีเกือบ 80 เห็นจะได้ เข้าเวรละ 10 คน เวลา 4 ชั่วโมง ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกัน ทำตลอด 24 ชั่วโมง คนไหนได้ธรรมะ หลวงพ่อเรียกไปหมด ที่ได้เงินเดือนทำงานข้างนอก ท่านก็เรียกไป ถามว่าได้เงินเดือนเท่าไร เขาบอกว่า 500 บาท หลวงพ่อบอกว่ามาทำที่นี่ มาอยู่กับหลวงพ่อ หลวงพ่อจะให้เงินเดือน 600 ที่นี่มีเงินเยอะ เดี๋ยววันหน้าก็รวยเอง ในโรงงานมีทั้งแม่ชีที่โกนผม และฆราวาสที่เป็นผู้หญิงที่ไม่ได้โกนผม เด็กนักเรียนก็มี หน้าตาดีๆทั้งนั้น ในโรงงานเวลานอน ใครไม่มีบ้านก็นอนในโรงงาน ใครมีบ้านข้างนอก(ใกล้วัด) ก็ออกมานอนข้างนอก เราได้ยินคนบางคนพูดกันว่า "ถ้าอยู่ในโรงงาน ต่อไปสึก ออกไปก็ไม่ดี" ไอ้เราก็คิดจะสึก เราก็เลยไม่คิดจะเข้าไปอยู่ ก็เลยไม่ได้เข้าไปทำวิชชากับเขาในโรงงาน ก็อยู่ข้างนอก เป็นบ้านอยู่ในบริเวณวัด ช่วยทำครัวบ้าง นั่งธรรมะ ฟังเทศน์หลวงพ่อ อยู่มาเรื่อยๆ ส่วนป้าอรสามาบวชเป็นชี ปีเดียวกับฉัน ตอนป้าอรสามาอายุ 22 ปี เป็นแม่ครัว แจวเรือเก่ง เช้าๆ จะไปจ่ายตลาดกับแม่ท้วม ทำขนมหวานอร่อย เป็นคนว่องไว ทำงานเร็ว ดูแลเรื่องตักบาตรถวายพระ ตักอาหารเร็ว เร็วจนคนเลี้ยงถวายไม่ทัน ขนาดสมัยนั้นเลี้ยงพระเณรที 500 องค์ ป้าอรสาอยู่กับหลวงพ่อ 7 ปีเหมือนกัน เดี๋ยวนี้ป้าอรสาเปิดร้านขายอาหารอยู่หัวมุมวัดปากน้ำ อายุ 86 ปีแล้ว หลวงพ่อท่านเคยไปตามเทพมาจากสวรรค์ มาช่วยทำวิชชา ที่ฉันจำได้ชื่อวรนิตย์ ตอนนั้นมาบวชเป็นเณรอายุ 7 ขวบ ฉันยังไปต่อธรรมะกับเณรเลย พอเข้าวัยรุ่นเณรก็สึกไป หลวงพ่อจะลงเทศน์ให้พระเณรทุกวันในโบสถ์ ์ส่วนชีท่านจะลงเทศน์ให้ในวันอาทิตย์และวันพระ วันอาทิตย์ท่านจะให้รับศีล 5 วันพระจะให้รับศีล 8 ฉันอยู่กับหลวงพ่อมา 7 ปี ตั้งแต่ปี 2495 อยู่จนท่านมรณภาพ หลวงพ่อสอนเสมอว่า "สึกไปไม่ดี แต่งงานไม่ได้ คนแต่งงานมีเวร สำหรับคนไม่แต่งงานไม่มีเวร" อยู่ไปอยู่ไป ก็ติดหลวงพ่อ เพราะท่านเทศน์ถูกใจเรา ไม่มีใครเทศน์ได้อย่างท่าน เราก็ชอบ เลยอยู่กับท่านเรื่อยไป
ปัจจุบันแม่ชีพราหมณ์ได้เสียชีวิตไปแล้วเกือบ10ปี แต่ท่านก็ได้ฝากสิ่งที่มีคุณค่าในชีวิต มอบให้แด่อนุชนรุ่นหลังไว้เป็นข้อคิดสะกิดใจในการสร้างบารมีสืบไป
(เรื่องเล่าโดย แม่ชีพราหมณ์ ข้างเขียว บุคคลยุคต้นวิชชาเล่ม1)