โอวาทหลวงปู่วัดปากน้ำ ตอนที่ 37
โดยสิงหล ตอนพิเศษ 5 ก.ย. 58
หลวงพ่อพยากรณ์ตัวเองว่า "อีกประมาณ 5 ปี จะมรณภาพ"
ก่อนที่หลวงพ่อ ท่านจะมรณภาพประมาณ 5 ปี ตอนนั้นผมพึ่งลาสิกขาไม่นาน คือหลังร่วมงานกฐินวัดปากน้ำปี พ.ศ.2496 ผมก็ลาสิกขา ต่อมาไม่นาน ประมาณช่วงปลายเดือนธันวาคม จำได้ว่าอากาศเริ่มหนาวเย็น หลวงพ่อท่านได้เรียกประชุมคณะศิษยานุศิษย์ทั้งเขตในและเขตนอกวัดปากน้ำ เป็นกรณีพิเศษ ที่ศาลาการเปรียญหลังเก่า คือบริเวณโรงฉันในปัจจุบัน เพื่อแจ้งให้ทุกคนทราบว่า ท่านจะถึงกาลมรณภาพ ในอีก 5 ปีข้างหน้า กิจการใดที่ หลวงพ่อได้ดำเนินไว้แล้ว ขอให้ช่วยกัน ทำกิจการนั้นๆ อย่าทอดทิ้ง ขอให้ทำไปเถิด ไม่ตกต่ำ มีแต่ความเจริญยิ่งขึ้น และท่านยังได้ แถลงโครงการ พัฒนาวัดปากน้ำ ของท่าน ให้คณะศิษย์ช่วยกัน ดำเนินต่อไปให้สำเร็จ
ท่านบอกว่า ต่อไปวัดปากน้ำจะเจริญรุ่งเรืองใหญ่โต แม้ว่าท่านจะมรณภาพไปแล้ว แต่ก็มีโอกาสช่วยวัด ได้มากกว่าที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ เมื่อผมได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกเสียใจ น้ำตาไหลออกมา และนึกในใจว่า หลวงพ่ออย่าทิ้งลูกไปเลย ลูกยังไม่แข็งแรง ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ มีลูกศิษย์หลายคนได้อาราธนาขอมิให้หลวงพ่อมรณภาพ ท่านก็ตอบว่าไม่ได้ ยังไงอีก 5 ปี ท่านจะไม่อยู่แน่ๆ แล้ว ซึ่งตอนนั้นไม่ค่อยมีคนเชื่อมากนัก เพราะดูหลวงพ่อแข็งแรง ไม่มีทีท่าว่าจะอาพาธเลย แต่เมื่อหลวงพ่อพูดคำพยากรณ์ของตัวท่านเอง ทุกคนจึงต้องฟัง
ทั้งนี้เพราะเรื่องต่างๆ ที่หลวงพ่อเคยพูดมาล้วนเป็นจริงทั้งสิ้น โดยเฉพาะพระภิกษุ สามเณรและแม่ชีที่นั่งทำวิชชากับหลวงพ่อในโรงงานทำวิชชา ต่างรู้ดีเพราะหลวงพ่อได้คุยปรึกษาหารือกันมาก่อนออกพรรษาแล้ว
เรื่องนี้ผมก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย คือในช่วงกลางๆพรรษา หลวงพ่อได้เรียกแม่ชีญาณี แม่ชีปุก แม่ชีจันทร์ และพระอาวุโสอีก3รูป มานั่งปรึกษากัน และก็ทำวิชชาไปด้วยกัน ตอนนั้นผมยังเป็นเณรคอยรับใช้อยู่ข้างๆหลวงพ่อ ส่วนโยมยายก็มานั่งฟังด้วย เพราะคุ้นเคยกับหลวงพ่อ นั่งคุยกันอยู่บริเวณที่หน้าเรือนชานที่หลวงพ่อร้บแขก คุยกันหลังญาติโยมกลับหมดแล้ว คุยกันอยู่หลายวัน คุยกันไปก็ค้นวิชชากันไป หลวงพ่อบอกให้ลูกจันทร์รับช่วงสืบต่อวิชชาธรรมกาย ต้องเป็นลูกจันทร์คนเดียวเท่านั้น
ถึงจะสืบสานวิชชาต่อจากหลวงพ่อไปได้ คนอื่นที่เก่งก็มาอายุสั้น มีแต่ลูกจันทร์นี้ เพราะเป็นลูกหลวงพ่อสร้างบารมีกันมานับหมื่นชาติแสนชาติแล้ว เพื่อส่งต่อวิชชาธรรมกายให้กับผู้ที่จะมาสืบทอด และหลวงพ่อบอกต่อไปอีกว่า ท่านผู้นี้จะเผยแผ่วิชชาธรรมกายไปได้กว้างไกล ไปทั่วโลก หลวงพ่อได้ไปอาราธนามาจากชั้นดุสิต โดยสั่งลูกจันทร์ว่า อย่าไปไหนหลังหลวงพ่อสิ้น ให้รออยู่ที่วัดปากน้ำ ผู้สืบทอดคนนี้จะมาหา ท่านผู้นี้เป็นผู้มีบารมีที่จะสู้กับมารได้ และขยายวิชชาธรรมกายไปทั่วโลก
ภาพการพูดคุยในเรื่องการสืบทอดวิชชาธรรมกายที่บริเวณหน้ากุฏิหลวงพ่อ ยังคงเป็นภาพที่ติดตาติดใจผมมาจนถึงทุกวันนี้ ทำให้ผมรู้สึกซาบซึ้งและศรัทธาเลื่อมใสในตัวหลวงพ่ออย่างจะนับจะประมาณมิได้ เพราะหลวงพ่อมีความห่วงใยและผูกพันต่อวัดปากน้ำ ต่อวิชชาธรรมกาย และศิษยานุศิษย์ทุกคน ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ไม่เช่นนั้นแล้ว หลวงพ่อท่านคงไม่เอ่ยปาก ฝากฝัง โครงการของท่าน ในเรื่องการสอน และเผยแผ่วิชชาธรรมกาย เรื่องการเลี้ยงพระ การศึกษาพระปริยัติธรรม การสร้างและบูรณะปฏิสังขรณ์ เสนาสนะต่างๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องการเผยแผ่วิชชาธรรมกายให้กว้างไกลไปทั่วโลก ซึ่งท่านเห็นเป็นเรื่องสำคัญที่สุด และเป็นประโยชน์ยิ่งกว่าเรื่องอื่นใด ท่านที่เคยมาวัดปากน้ำ
แต่ก่อน จะทราบดีว่าวัดปากน้ำในอดีต และปัจจุบันนั้น แตกต่างกันมาก จนเกือบไม่เหลือสภาพเดิมเลย ที่เป็นดังนี้เพราะ ศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อ ได้ปฏิบัติตามโครงการ ตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่อ จนสำเร็จลุล่วงจนมาถึงปัจจุบัน ส่วนการเผยแผ่วิชชาธรรมกายต้องขอชื่นชมว่าทางวัดพระธรรมกายทำได้ดีมากๆ เพราะสามารถขยายวิชชาธรรมกายไปได้ทั่วโลกตามผังที่หลวงพ่อได้วางไว้ นับเป็นความอัศจรรย์ที่คำพยากรณ์ของหลวงพ่อเป็นจริงทุกประการ และหลวงพ่อท่านก็ละสังขาร ถึงกาลมรณภาพจริงๆในวันที่3 กุมภาพันธ์ุ พ.ศ.2502 นับจากปลายปี2496 มา ก็ 5ปี โดยประมาณ ตรงกับคำที่หลวงพ่อพยากรณ์ตัวเองไว้ทุกประการ
(เรื่องเล่าโดยพระเตชวัน อาภากโร บุคคลยุคต้นวิชชาเล่ม1 ภาคพิเศษ)