หลวงพ่อวัดปากน้ำพยากรณ์ไว้ว่า

วันที่ 31 สค. พ.ศ.2558

 

หลวงพ่อวัดปากน้ำพยากรณ์ไว้ว่า

 

โอวาทหลวงปู่วัดปากน้ำ      

ตอนที่27   โดยสิงหล  26 ส.ค.58 
        นอกจากหลวงพ่อวัดปากน้ำจะพยากรณ์ว่าสมเด็จป๋าจะได้เป็นใหญ่ในหมู่สงฆ์ คือเป็นสมเด็จพระสังฆราชในอนาคตแล้ว หลวงพ่อท่านยังเคยพยากรณ์ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เจ้าอาวาสวัดปากน้ำองค์ปัจจุบัน  ในสมัยที่ท่านเป็นสามเณรว่า " องค์นี้แหละจะได้เป็นเจ้าอาวาสวัดปากน้ำองค์ต่อไป"     
      ต่อมาในปีพ.ศ. 2493  หลวงพ่อได้พาท่านสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ครั้งยังเป็นพระมหาช่วง วรปุญโญ ป.ธ. 7 ไปฝากเรียนป.ธ.8 และ 9 กับท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปลด กิตติโสภโณมหาเถร) วัดเบญจมบพิตร ครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่สมเด็จพระวันรัต 
          สมเด็จพระสังฆราชทรงเล่าประทานสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา ครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระธรรมปัญญาบดีว่า "ท่านวัดปากน้ำนำมาฝาก บอกว่าจะเอาไว้แทน เมื่อเรียนจบแล้วก็จะขอนำกลับไปวัดปากน้ำ "
         ในสมัยนั้นพระภิกษุสามเณรที่จะเข้ารับการศึกษาพระปริยัติธรรมที่สำนักวัดเบญจมบพิตร จะต้องได้รับการคัดเลือกอย่างมาก ไม่ใช่ว่าจะเข้าศึกษาได้ทุกรูป สมเด็จพระสังฆราช (ปลด กิตติโสภโณ) ท่านทรงคัดเลือกเอง ทรงพิจารณาท่วงทีกิริยา บุคลิกภาพ ถ้าไม่ดีพอไม่เป็นที่ถูกพระทัยท่านๆ ก็ไม่ทรงรับไว้ แต่รายท่านพระมหาช่วงรูปนี้  มีบุคลิกภาพเป็นที่ต้องพระทัยท่าน ประกอบกับความศรัทธาเลื่อมใสในหลวงพ่อวัดปากน้ำด้วย สมเด็จพระสังฆราชท่านจึงทรงรับไว้ด้วยความยินดี หลังจากที่พระมหาช่วงสำเร็จการศึกษาประโยค 9 แล้วได้ดำรงตำแหน่งเลขานุการในพระองค์ท่านอยู่ระยะหนึ่ง แล้วจึงกลับมาช่วยหลวงพ่อพัฒนาวัดปากน้ำโดยดำรงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่โรงเรียนพระปริยัติธรรมเมื่อปี พ.ศ. 2498 และได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระศรีวิสุทธิโมลี
        ต่อมาทางคณะศิษย์เห็นว่ากุฏิของหลวงพ่อนั้นเก่าทรุดโทรมมาก อยากให้หลวงพ่อท่านมีที่อยู่สะดวกสบายจึงได้ร่วมทุนการสร้างตึกถวายท่าน คือตึกมงคลจันทสร ระหว่างกำลังดำเนินการก่อสร้าง  หลวงพ่อท่านมักจะออกมานั่งดูอยู่เสมอๆ เมื่อมีผู้ถามท่านถึงตึกหลังนี้ท่านมักจะบอกว่า "ตึกหลังนี้สร้างให้ช่วงเขาอยู่" และปัจจุบันนี้ตึกมงคลจันทสรเป็นกุฏิของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ 
และในปีพ.ศ. 2508 คำพยากรณ์ของหลวงพ่อก็เป็นความจริง พระราชเวทีซึ่งได้เลื่อนสมณศักดิ์มาจากพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่พระศรีวิสุทธิโมลี ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดปากน้ำและเจ้าคณะภาค 3 (ปัจจุบันนี้เป็นสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช) แทนสมเด็จพระวันรัต  วัดพระเชตุพนฯ ซึ่งรักษาการเจ้าอาวาสอยู่ตั้งแต่หลวงพ่อมรณภาพ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์พ.ศ. 2502 

 

 

(มีหลักฐานปรากฏอยู่ในหนังสือจดหมายหิมพานต์ ของพระธรรมธีรราชมหามุนี(พระมหาช่วง วรปุญโญ)  เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พิมพ์เป็นมุทิตาสักการะในงานบำเพ็ญกุศลคล้ายวันเกิดในงานสมโภชสุพรรณบัฏ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์วัดสามพระยา วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม 2519 หน้า 97) 

(จากหนังสือตรีธาเล่าเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำ)

 

 

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.021074835459391 Mins