มูสิกาชาดก หนูกับสุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์
ในอดีตกาลเมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติอยู่ในเมืองพาราณสี พระโพธิสัตว์กำเนิดเป็นหนู มีร่างกายอ้วนท้วนเหมือนลูกสุกรอ่อน มีหนูหลายตัวเป็นบริวาร
ครั้งหนึ่งหมาจิ้งจอกตัวหนึ่งหวังจะลวงกินหนูเหล่านี้ จึงแหงนจ้องดวงอาทิตย์ยืนเท้าเดียว พระโพธิสัตว์เห็นก็เข้าใจว่าเป็นผู้ทรงศีล เข้าไปถามชื่อ มันตอบว่า "เราชื่อธรรมกะ"
ท่านมายืนเท้าเดียวเพราะเหตุใด
ถ้าเหยียบสี่เท้าแผ่นดินคงไม่อาจทนเราไหว ที่ต้องอ้าปากเพราะกินลมอย่างเดียวไม่กินอย่างอื่น ที่ต้องจ้องดวงอาทิตย์ก็เพราะเรานอบน้อมพระอาทิตย์
แต่นี้ก็เป็นวิธีที่จะลวงกินหนูของมัน หนูจึงมีจำนวนลดลงตามลำดับ
แต่ก่อนพวกเราต้องเบียดเสียดกันอยู่ เดี๋ยวนี้ดูหลวมๆ ไปพวกหนูสงสัยจึงนำมาเล่าให้พระโพธิสัตว์ฟัง
พระโพธิสัตว์ก็คิดว่าเพราะเหตุใดหนอ จึงคิดว่าต้องพิสูจน์เรื่องนี้ จึงคอยสังเกตหมาจิ้งจอกในเวลาที่ปรนนิบัติหมาจิ้งจอก ให้พวกบริวารหนูออกหน้า ตนอยู่หลังเพื่อน
พลันนั้นเอง สุนัขจิ้งจอกจึงรีบมาสะกัด ...หวังจะกินหนูอย่างเคย...
พระโพธิสัตว์จึงกล่าวว่า "เจ้าสุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ การบำเพ็ญพรตของเจ้านี้มิใช่การปฏิบัติในศีลธรรม แต่เจ้าแอบอ้างเอาธรรมเป็นธงขึ้นไว้เพื่อเบียดเบียนสัตว์อื่น" กล่าวจบพญาหนูก็กระโดดขึ้นเกาะคอมัน กัดที่ซอกคอใต้คางจนถึงแก่ความตาย ฝูงหนูพากันกัดกินหมาจิ้งจอก พวกหนูก็อยู่กันอย่างมีความสุขตลอดมา
ธรรมนิทานชาดกเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
"อย่งหลงเชื่อคนที่มีพฤติกรรมเอาธรรมบังหน้า"
พุทธศาสนสุภาษิตประจำเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
น ฆาสเหตูปิ กเรยฺย ปาปํ
ไม่ควรทำบาปเพราะเห็นแก่กิน