ฉบับที่ 72 ตุลาคม ปี 2551

อลัน เคมนิทซ์ ชายผู้ค้นพบกุญแกสู่ความเบิกบาน

สมาธิเปลี่ยนชีวิต
เรื่อง : Son  Backhome     e-mail : [email protected]
         คุณอลัน เป็นชาวคริสต์โดยกำเนิด เติบโตขึ้นท่ามกลางเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก นั่นคือประเทศกรีนแลนด์ ปัจจุบันอายุ ๔๖ ปี มีประสบการณ์ มากมายเกี่ยวกับการจัดการเทคโนโลยีการสื่อสารและ กลยุทธ์ขั้นสูง ประกอบอาชีพเป็นที่ปรึกษาด้าน IT ปัจจุบันมีชีวิตครอบครัวที่มีความสุขอยู่กับภรรยาและลูกๆ ที่น่ารักอีก ๒ คน ในเมืองโฮโบะ ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ทางตอนเหนือของประเทศเดนมาร์ก
         เขาเล่าว่า "ชีวิตในช่วงหนึ่งของผมต้องเผชิญกับประสบการณ์ที่แสนจะขมขื่น หลังการหย่าร้างจาก ภรรยาคนแรก ผมได้ตัดสินใจละทิ้งอดีตไปให้หมด พยายามค้นหาตัวเอง เพื่อที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ในช่วงนั้นผมรู้สึกว่า ผมไม่ได้รับการสนับสนุนและความสบายใจจากใครเลย ผมจึงจดจ่ออยู่แต่กับ การทำงาน ได้ท่องเที่ยวไปใน สแกนดิเนเวียและอเมริกา เป็นหนุ่มเจ้าสำราญไม่จริงใจกับใคร แม้จะ ท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ มากมาย แต่ผมกลับไม่สามารถ หาทางออกให้กับความเจ็บปวดของตัวเองได้ ในที่สุด จึงกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว เริ่มดื่มเหล้าอย่างหนักไม่สนใจสุขภาพ ดื่มแล้วดื่มอีก เพราะผมไม่สามารถ ปล่อยอดีตให้เป็นอดีตได้ครับ"
        คุณค่าของกัลยาณมิตรสามารถเปลี่ยนชีวิตของคนๆ หนึ่งให้กลายเป็นคนดีได้อย่างอัศจรรย์ และคุณอลันก็ได ้ประจักษ์ถึงคุณค่าของกัลยาณมิตร เช่นกัน
         "ในจังหวะที่ชีวิตของผมเริ่มหันเหสู่ความเลวร้ายมากไปทุกที ผมก็ได้พบสิ่งมีค่ามากที่สุด นั่นคือ "ผกามาศ" เธอเป็นสาวไทยที่แสนจะน่ารัก เธอเป็นเพื่อนรู้ใจที่สุดของผม และต่อมาเธอก็ได้มาเป็นภรรยาคู่ใจของผมครับ หลังจากนั้นผมจึงย้ายมาทำงานที่เดนมาร์ก เพื่อสร้างชีวิตใหม่ที่เดนมาร์ก แม้ว่าผมจะประสบความสำเร็จอย่างสูงในหน้าที่การงาน พร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่โต แต่ผม กลับไม่มีความสุขเลย ผมพยายามเลิกเหล้าหลายครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ จนวันหนึ่งภรรยามาบอกผมเกี่ยวกับ วัดพุทธเดนมาร์ก ผมจึงตกลงลองไปวัดกับเธอ เพื่อ ที่ผมจะได้เข้าใจในตัวเธอ และวัฒนธรรมของเธอ ให้มากขึ้น ผมคิดว่าสิ่งนี้เป็นการยุติธรรมต่อเธอ และยังเป็นการแสดง ให้เธอรู้ว่าผม แคร์เธอแค่ไหน
         แล้วผมก็ต้องขอบคุณเธอ ที่ทำให้ผมได้พบ กับประสบการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ ก้าวแรกที่ผมสัมผัสวัดพุทธเดนมาร์ก ผมรู้สึกได้ถึงความผูกพันกับพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า ผมได้นั่งสมาธิเพื่อค้นหาแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา ทั้งๆ ที่ผมยังเป็น คริสต์อยู่ เมื่อผมนั่งขัดสมาธิลงกับพื้นและปล่อยใจไปตามเสียงนำ เพียงแค่ ๒๐ นาที ผมรู้สึกว่าภายใน ตัวผมมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อลืมตาขึ้น ใจผมสว่าง สมองปลอดโปร่งโล่งสบาย ผมทราบได้ทันทีว่า "ผมเจอสิ่งมีค่าที่พิเศษสุดเข้าแล้ว" ในระหว่างทางกลับบ้าน ผมจึงสัญญากับตัวเองว่าจะนั่งสมาธิให้มากกว่านี้และจะต้องค้นหาสิ่งนี้ให้ได้ และผมก็ นึกรู้ขึ้นมาทันทีว่า การที่ผมจะรักษาความสว่างของ ใจให้ได้นั้น ผมต้องหยุดดื่ม แล้วผมก็ทำได้ ผมจึงคิดว่าการที่เราจะเลิก สิ่งใดได้เราต้องรัก ในอีกสิ่งหนึ่ง ให้มากกว่า เหมือนกับที่ผมรักการนั่งสมาธิมากกว่า การดื่ม แล้วปัญหาที่ยากที่สุด ของผมก็กลายเป็น สิ่งที่ง่ายที่สุด เพียงแค่นั่งลงทำสมาธิ อาการอยากดื่ม ที่เกิดขึ้นในช่วงแรก ก็หายเป็นปลิดทิ้ง ชีวิตผมตอนนี้ เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงแล้วครับ
         จากนั้นมาการนั่งสมาธิและศาสนาพุทธก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตประจำวันของผม ในขณะเดียวกันผมก็ได้รู้จักกับ สิ่งมหัศจรรย์ใหม่คือ "DMC" สิ่งนี้ทำให้ผมรู้ว่า ผมไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับสมาธิและศาสนาพุทธ ผมจึงอ่าน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจอทาง อินเทอร์เน็ต และอย่างแรกที่ผมได้จากการอ่านก็คือ สิ่งที่หลวงปู่วัดปากน้ำ ท่านสอนเรื่องโทษของน้ำเมาและผู้ติดเหล้า ทำให้ผมรำลึกหลายสิ่งหลายอย่างได้อีกครั้ง เหมือนเป็นการตอกย้ำให้ ผมดำเนินชีวิตใหม่ตามที่ได้ค้นพบ ซึ่งเป็นเป้าหมายอันสูงสุด
          ความจริงแล้ว ผมชอบนั่งสมาธินานๆ และมันก็ง่ายสำหรับผมที่จะหยุดใจ ซึ่งใช้เวลาไม่นาน ที่จะเข้าสู่ขั้นตอนต่างๆ พอผมหลับตา ลมหายใจ เริ่มช้าลง ความคิดต่างๆ ในใจก็ค่อยๆ ลดลง จนไม่มีความคิด ไม่นานนักผมก็เริ่มเห็นเป็นสี บางทีก็ จะมีแต่ความมืดเหมือนในห้องที่ผมอยู่ แต่มันกว้าง จนผมไม่สามารถไปถึงได้ และเวลาลืมตาจะรู้สึก แปลกใจที่มาอยู่ตรงนี้ บางครั้งตัวผมจะหายไป แต่ ก็ยังได้ยินเสียงในห้องอยู่ เช่น เสียงไม้หน้าต่างลั่น บางคราวผมคิดว่าผมนั่งสมาธิไปแค่ ๒๐ นาที แต่จริงๆ แล้วผมนั่งนานกว่า ๒ ชั่วโมงครับ
          ผมใช้เวลาไม่นานนักในการจินตนาการให้เห็น สิ่งใสๆ ซึ่งในที่สุดผมก็ได้เห็นดวงกลมใสๆ เกิดขึ้น แล้วเปลี่ยนเป็นดวงกลมสีทองใหญ่ขึ้นๆ หมุนไปรอบๆ และเปลี่ยนเป็นองค์พระสีทองในที่สุด นับเป็น ประสบการณ์ที่แสนพิเศษ สุดสำหรับผม องค์พระท่านเหมือนมีชีวิตและยิ้มให้ผม ราวกับจะบอกผมว่า "ยินดีต้อนรับ" ผมมีความสุขปนกับสนุกสนาน แต่พอ รู้สึกตื่นเต้นและแปลกใจ องค์พระท่านก็หายไปทันที แต่ทุกๆ ครั้งที่เห็นดวงใสๆ ผมจะรู้สึกดีมาก สมอง ผมเหมือนถูกทาด้วยยาหม่อง มีแต่ความสุขกับความสงบอย่างบอกไม่ถูก และผมก็ไม่สงสัยเลยกับ ความรู้สึกดีๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวผม
         สำหรับภรรยาผม เธอก็มีผลการปฏิบัติธรรมที่ดีเช่นเดียวกัน เธอบอกว่า พอหลับตาปุ๊บใช้เวลาไม่นานนัก ร่างกายก็จะ ผ่อนคลาย ความรู้สึกเหมือน ดิ่งลงไปแต่ว่าไม่น่ากลัว แล้วเธอก็จะเห็นดวงแก้ว บางครั้งก็จะเห็นดวงแก้วแว็บเป็นจุด แล้วก็เห็นเป็น องค์พระ และนับตั้งแต่ที่เธอได้นั่งสมาธิ ผมรู้สึกว่าเธอคลายความกังวล ให้อภัยคนอื่น และสามารถปล่อยวาง สิ่งต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
         สมาธิทำให้ชีวิตทั้งหมดของผมเปลี่ยนแปลง ผมคิดว่านี่คือ "ขุมทรัพย์ที่ผมค้นพบอย่างไม่คาดหวัง" ผมมีใจที่ปลอดโปร่ง มีความสุขมากขึ้น และมีอุปกรณ์ ที่พร้อมจะก้าวไปข้างหน้าและเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ได้ เมื่อก่อนผมชอบดื่มไวน์ เพื่อช่วยให้จิตใจสงบหลังจากการทำงานหนักและเคร่งเครียด แต่ตอนนี้ผมหันหลังให้กับวิธีนั้นแล้ว เมื่อความเครียดเริ่ม ก่อตัวขึ้น เพียงแค่ผมนั่งลงและทำสมาธิ ก็ทำให้ใจผมปลอดโปร่ง และนอนหลับอย่างเป็นสุขครับ ผมกล้าพูดได้เลยว่า ด้วยสติปัญญาจากธรรมะ และจากการนั่งสมาธิอย่างต่อเนื่องทำให้ผมเข้มแข็ง ผมอยากให้คนรอบข้าง ได้ทำเช่นผมครับ
         สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต คือ ความสุขและความ สมดุลภายใน ซึ่งควรเริ่มที่ตัวเราก่อน จากนั้นก็ค่อย ขยายไปสู่ผู้อื่น สำหรับผมแล้วการนั่งสมาธิเป็นกุญแจ นำไปสู่ความเบิกบาน ความสุข และความสำเร็จ เป็น ทางลัดที่จะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ และเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างดีงาม ผมทราบ ดีว่า เราต้องทำสมาธิทุกวันและต้องทำตลอดชีวิตที่ เหลืออยู่
         ทุกวันนี้... ความสุขจากการนั่งสมาธิเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเอาไปจากผมได้ ผมดีใจ ภูมิใจที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่ง ในการเผยแผ่การนั่งสมาธิให้กับผู้อื่น ผมได้ แปลบทความและให้สัมภาษณ์ในรายการวิทยุของประเทศเดนมาร์ก นอกจากนี้ผมได้จัดทำเว็บไซต์ วัดพุทธเดนมาร์ก และยังได้ลงเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาพุทธในบล็อกของผม เพื่อเผยแผ่เรื่องราวของ ศาสนาพุทธด้วย
         สมาธิทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไป มีคนกล่าวว่า "การเดินทางเริ่มต้นด้วยก้าวแรก" แต่ผมค้นพบแล้วว่า "การเดินทางของผมเริ่มต้นเมื่อผมหลับตา" ครับ"
         เชื่อแน่ว่า หลังจากที่เราได้ฟังบทสนทนาของผู้ชายใจดีท่านนี้จบ เราคงได้ค้นพบเคล็ดลับสำคัญ ซึ่งเป็นกุญแจนำไปสู่ความเบิกบาน ความสุข และความสำเร็จของเขา นั่นคือ การนั่งสมาธิ สิ่งที่เราจะต้องทำต่อจากนี้ ก็คือ อันดับแรก เราต้องตรวจตรา ตัวเองก่อนว่า หัวใจของเรากำลังถูกคุมขังด้วยความ สลดหดหู่หรือความทุกข์ท้อหมองหม่นใดๆ หรือไม่ หากพบว่าเป็นเช่นนั้น สิ่งต่อไปที่เราพึงได้รับรู้ก็คือ เรามีกุญแจที่จะไขตนเองออกจากที่คุมขังเหล่านั้นได้ และกุญแจที่ว่าไม่ได้อยู่ที่ใคร แต่อยู่ที่ใจของเรา "ปิดตาที่เคยเปิด หยุดใจที่เคยวิ่ง วางใจนิ่งๆ ที่ศูนย์กลางกาย" ดังที่ คุณอลัน เคมนิทซ์ ได้ทำสำเร็จมาแล้ว และในไม่ช้าหนทางแห่งอิสรภาพ ต้นธารแห่ง ความเบิกบานจักเปิดกว้าง ให้เราได้เดินทางสู่ถนนของความสุขอย่างยั่งยืน
 
บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล