ฉบับที่ 39 มกราคม ปี 2549

ปี ๒๕๔๘ ปีแห่งการสร้างบารมี เคียงคู่ไปดุสิตบุรี

 

   เสียงย่ำฆ้องกลองระฆังดังแว่วแว่ว ระสวดชัยมงคลแล้วสรรพศรี

เตรียมอาหารคาวหวานประดามี     เถลิงศกปีสี่เก้าด้วยทำทาน
    
แล้วรำลึกถึงวารวันบุญใหญ่        ที่ตั้งใจ สั่งสมไว้ มหาศาล

ให้ชุ่มชื่นรื่นเริงบันเทิงนาน         ปีใ หม่กาลขอสุขยิ่งเป็นมิ่งเอย

 

        แม้ว่าวันขึ้นปีใหม่ จะเป็นวันที่ชาวโลกสมมติ ขึ้นเพื่อความสะดวกในการนับช่วงเวลา แต่สำหรับยอดนักสร้างบารมี ย่อมถือเป็นกุศโลบาย สร้างบุญใหญ่ ให้ดีกว่าปีที่ผ่านมา หมั่นเตือนตนให้ตั้งอยู่
ในความไม่ประมาท เพราะเท่ากับเวลาในชีวิต ถูกนับถอยหลังอยู่ทุกขณะจิต

        ดังนั้น ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร สถานการณ์โลกจะผันผวนแค่ไหน แต่สิ่งหนึ่งที่ยังมั่นคง คือ บุญกุศลที่เราทำไว้ จะส่งผลเป็นอานิสงส์สืบต่อยาวนาน ตราบเท่าที่เราตามระลึกถึงอยู่เสมอ

 

 

 

 

 

         วันที่ ๒๙ ธ.ค.๒๕๔๗ -๑ ม.ค ๒๕๔๘ พิธีเปิดไฟส่อง "เสาแก้วพันปี" มหารัตนวิหารคด บริเวณรายรอบ ลานมหาธรรมกายเจดีย์ โคมประทีป นับแสนดวง ที่สว่างไสวเรืองรอง ดุจทะเลเทียน ส่องประกายระยิบระยับ ไปทั่วทุกพื้นที่

           น้อมถวายเป็นพุทธบูชาแด่ พระมหาปัญญาธิคุณ อันสว่างไสว ขององค์สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ขจัดความมืดมิด แห่งอวิชชา ให้หายสูญไปฉลองการเข้าสู่ศักราชใหม่ " ปีแห่งการสร้างบารมี เคียงคู่ไปดุสิตบุรี"

 

 

 

           วันที่ ๕ และ ๑๙ ม.ค.๒๕๔๘ พิธีบำเพ็ญกุศล ไว้อาลัยแด่ผู้ประสบภัย คลื่นยักษ์สึนามิ ครั้งที่ ๑ และ ๒ ณ สนามกีฬาสะพานหิน จ.ภูเก็ต และ สนามกีฬาเมืองตะกั่วป่า จ.ภูเก็ต ภาพดวงไฟนับหมื่นดวงที่ค่อยๆ ลอยสู่ฟากฟ้า คล้ายกลุ่มดวงดาว บนทางช้างเผือก สะกดมหาชนให้สงบนิ่ง รู้สึกซาบซึ้งกินใจไปกับความหมาย ของบทเพลงอันไพเราะ ราวกับได้น้อมส่งดวงวิญญาณ ทุกดวงของผู้ล่วงลับ ให้เดินทางสู่สุคติบนสรวงสวรรค์ ซึ่งสิ่งสำคัญประการหนึ่ง ที่ยังคงทิ้งร่องรอย จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ย่อมเป็นการยืนยันหนักแน่นว่า " ธรรมะของพระบรมศาสดา นับเป็นที่พึ่งอันประเสริฐของมวลมนุษยชาติอย่างแท้จริง"

 


 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล