ฉบับที่ 107 กันยายน ปี2554

เคล็ด (ไม่) ลับ..อายุยืน

ปกิณกธรรม

เรื่อง : พระมหาเสถียร สุวณฺณฐิโต ป.ธ.๙ / พระมหาวิริยะ ธมฺมสารี ป.ธ.๙ / ภาพประกอบ : กองพุทธศิลป์

 




 

เคล็ด (ไม่) ลับ..อายุยืน

 "...การที่ไม่มีคนตายตอนอายุยังน้อยนี้ เป็นเพราะทำบุญอะไรมาหรือ ทำไมตระกูลของท่านจึงไม่มีใครตายตอนยังหนุ่ม.."


          "กิจฺโฉ มนุสฺสปฏิลาโภ" เมื่อได้อัตภาพของมนุษย์ที่ได้มายากแสนยากแล้ว การหาวิธีการให้สังขารร่างกายนี้ยืนยาวที่สุดเท่าที่จะทำได้นั้น เป็นเรื่องสำคัญทีเดียว แล้วอะไรเล่าคือยาอายุวัฒนะที่จะทำให้เราอายุยืน คำตอบคงไม่ใช่บัวหิมะหรือโสม เกาหลีกระมัง...

          ในสมัยก่อน มีบ้านของผู้มีบุญครอบครัวหนึ่ง ชื่อบ้านธรรมบาล หมายถึงบ้านที่ทุกคนในบ้านต่างรักษากุศลธรรม ๑๐ ประการ ได้อย่างบริสุทธิ์ครบถ้วน จนชาวบ้านยกย่องสรรเสริญให้เป็นหัวหน้าหมู่บ้าน พร้อมทั้งเรียกครอบครัวนี้ว่า "ครอบครัวธรรมบาล" เมื่อทุกคนในบ้านต่างล้วนแล้วแต่เป็น ผู้ประพฤติธรรม ก็มีผู้มีบุญลงมาเกิดในครอบครัวนี้ และได้รับการขนานนามว่า "ธรรมบาลกุมาร" เมื่อธรรมบาลเติบโตขึ้น พ่อแม่ส่งไปเรียนที่สำนักของอาจารย์ทิศาปาโมกข์ เมืองตักกสิลา ธรรมบาลเป็น ลูกศิษย์ที่เรียนดี จึงได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าของ ศิษย์ ๕๐๐ คน

          วันหนึ่ง ลูกชายคนโตของอาจารย์เสียชีวิตอย่างกะทันหัน อาจารย์เสียใจมาก แม้ฌาปนกิจ ศพลูกชายแล้ว ก็ยังเฝ้าร้องไห้ที่เชิงตะกอน ธรรมบาล ได้ถามเพื่อน ๆ ว่า "ลูกชายท่านอาจารย์ทำไมถึงตายในวัยที่ไม่สมควร" เพื่อน ๆ ซึ่งกำลังนั่งเศร้าโศก กันอยู่ ต่างพากันมองหน้าธรรมบาล แล้วถามว่า "แล้วที่บ้านของท่านไม่มีคนตายขณะที่ยังอายุน้อยเลยหรือ" "ไม่มี บ้านของฉันไม่มีใครตายตั้งแต่ ยังเด็กหรือเป็นหนุ่ม และยังเป็นประเพณีสืบต่อกันมายาวนานของพวกเราอีกด้วย" เพื่อน ๆ ฟังแล้ว รีบนำเรื่องนี้ไปเล่าให้อาจารย์ฟัง

 



 

          อาจารย์เกิดความประหลาดใจ ถึงกับเก็บน้ำตาไว้ชั่วคราว แล้วนึกในใจว่า ลูกศิษย์คนนี้พูดเรื่องเหลือเชื่อเกินไป จึงอยากทดสอบว่า ลูกศิษย์ของ ตนจะพูดจริงแค่ไหน ถ้าเป็นจริงตนจะได้เรียนวิชานี้เพื่อมาเป็นความรู้ไว้สั่งสอนลูกศิษย์ต่อไป หลังจาก ทำการฌาปนกิจศพลูกชายแล้ว ท่านอาจารย์จึงสั่งธรรมบาลว่า ตนจะไปธุระนอกเมืองหลายวัน ให้ธรรมบาลช่วยสอนลูกศิษย์ที่มาใหม่แทนด้วย

          จากนั้น อาจารย์ได้เก็บกระดูกแพะตัวหนึ่งใส่กระสอบ ให้คนรับใช้ถือตาม แล้วเดินทางไปยัง บ้านของธรรมบาล เมื่อไปถึงบ้านของเขา อาจารย์ ก็รู้สึกประทับใจที่ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากคนในครอบครัว ทุกคนในบ้านล้วนเอาใจใส่หาอาหารมาเลี้ยง จัดที่อยู่ที่หลับนอนให้อาจารย์พักผ่อนแล้ว นั่งสนทนาธรรมด้วย   ฝ่ายอาจารย์ทำเป็นแสร้งกล่าว กับพ่อของธรรมบาลว่า "ท่านพราหมณ์ เรามีข่าวดีและข่าวร้ายจะบอกท่าน เราจะบอกข่าวดีก่อน คือ เราขอชื่นชมในตัวลูกชายของท่านที่เป็นคนฉลาดหลักแหลมมาก เรียนจบไตรเพทและศิลปวิทยา ๑๘ ประการ จนหมดสิ้นความรู้ของเราเลยทีเดียว ซ้ำยังได้เป็นผู้นำของลูกศิษย์ทั้งหมด ส่วนข่าวร้ายก็คือน่าเสียดายที่ลูกชายของท่านเสียชีวิตแล้ว"

 



 

          ฝ่ายพราหมณ์แทนที่จะเศร้าโศก กลับตบเข่า แล้วหัวเราะลั่น สร้างความงุนงงให้กับอาจารย์มาก อาจารย์จึงถามขึ้นว่า "นี่ไม่ใช่เรื่องตลกเลย ท่านหัวเราะทำไม ขำประโยคไหนหรือ" พราหมณ์ตอบว่า "ก็หัวเราะเรื่องที่ท่านพูดนั่นแหละ ที่ตายคงจะเป็นคนอื่นมั้ง" เมื่ออาจารย์เห็นว่าทุกคนในบ้านไม่มี ใครเชื่อ จึงหยิบกระดูกออกมาให้ดูเป็นหลักฐาน ทุกคนต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า "คงจะเป็นกระดูกสัตว์กระมัง เรามั่นใจว่า ธรรมบาลยังไม่ตาย หรอก เพราะในตระกูลนี้ตลอด ๗ ชั่วคน ยังไม่เคย มีใครตายตอนยังอายุน้อยเลย"

ยาอายุวัฒนะ

          อาจารย์รู้สึกอัศจรรย์ใจยิ่งนัก ถามถึงเหตุที่ทำให้มีอายุยืนว่า "การที่ไม่มีคนตายตอนอายุยังน้อย นี้ เป็นเพราะทำกรรมอะไรมาหรือ ทำไมตระกูลของ ท่านจึงไม่มีใครตายตอนยังหนุ่ม" พราหมณ์ได้เล่าให้ฟังว่า "พวกเราประพฤติธรรมกัน ไม่พูดเท็จ งดเว้นกรรมชั่วทั้งหมด ก่อนจะให้ทาน พวกเราก็มีจิตเลื่อมใส ขณะให้ก็มีใจศรัทธา ครั้นให้แล้วก็ตามระลึก นึกถึงด้วยจิตที่เบิกบาน ไม่เคยรู้สึกเสียดายในทานนั้นเลย สมณชีพราหมณ์ ยาจก วณิพก คนเดินทาง เราก็ให้ทานแก่พวกเขาทั้งหมดโดยไม่เลือกชนชั้นวรรณะแต่อย่างใด ฉะนั้น คนในบ้านของเราจึงไม่ตายในขณะที่ยังอายุน้อย 

          "พวกเรางดเว้นจากการฆ่าสัตว์ ไม่ลักขโมยของคนอื่น ไม่นอกใจสามีภรรยา ไม่พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ และพูดจาเพ้อเจ้อ ทุกคนพูด แต่เรื่องที่เป็นอรรถเป็นธรรม พูดยกใจกันให้สูงขึ้น ไม่ดื่มของเมาและไม่ให้คนอื่นดื่มด้วย ไม่โลภอยากได้ของใคร และไม่คิดพยาบาทปองร้ายคนอื่น ใจของ ทุกคนมุ่งประโยชน์ในโลกหน้า เชื่อเรื่องชีวิตหลัง ความตาย เชื่อว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เพราะฉะนั้น จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมคนในบ้านนี้จึงมีอายุยืน"

          หลังจากนั้น พราหมณ์ได้กล่าวเป็นธรรม-ภาษิตปิดท้ายว่า "ธรรมที่ประพฤติแล้วย่อมนำสุขมาให้ ผู้ประพฤติธรรมย่อมไม่ไปสู่ทุคติ ธรรมย่อมรักษา ผู้ประพฤติธรรม เหมือนร่มใหญ่ที่กางกั้นฝนในฤดูฝน หรือกันแดดในฤดูร้อน เพราะฉะนั้น ธรรมบาลย่อมได้รับการคุ้มครองโดยธรรม พวกเราจึงเชื่อว่าเขาต้อง ไม่ตายแน่นอน"

          ท่านอาจารย์ได้ฟังคำพูดที่เป็นสิริมงคลเช่นนั้น ก็เกิดมหาปีติว่า การเดินทางมาในครั้งนี้ไม่สูญเปล่า ได้รู้วิธีที่จะทำให้มีอายุยืน และไม่ต้องตายเมื่อยังไม่ถึง กาล จึงได้ขอโทษทุกคนในบ้าน แล้วเล่าความจริงว่า "ที่มาก็เพื่อจะทดสอบคำพูดของลูกชายท่าน ดูเท่านั้น บัดนี้เราได้ประจักษ์แก่ใจแล้ว และในขณะนี้ลูกของท่านก็ยังมีความสุขสบายดี" จากนั้นอาจารย์ได้จำหัวข้อธรรมที่ครอบครัวของธรรมบาลประพฤติ เพื่อนำไปสั่งสอนและเผยแผ่ให้ลูกศิษย์ได้ ประพฤติปฏิบัติกันต่อไป

 



 

อายุยืนตามหลักพุทธวิธี

          คนที่มีอายุสั้น สาเหตุหลักเพราะทำกรรมปาณาติบาตมาข้ามชาติ แต่ถ้าหากไม่มีวิบากกรรมในอดีต เมื่อปรารถนาความเป็นผู้มีอายุยืนยาว ก็ควรปฏิบัติตามหลักที่บัณฑิตทั้งหลายได้ประพฤติกันมา คือ ยึดมั่นในกุศลกรรมบถ หรือรักษาศีลให้บริสุทธิ์นั่นเอง นอกจากนี้ให้หาโอกาสถวายยารักษา โรค ถวายภัตตาหารเป็นสังฆทานเป็นประจำ ไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต ขยันนั่งสมาธิแผ่เมตตาให้กับสรรพสัตว์ทั้งหลายรวมไปถึงคู่กรรมคู่เวรทุกหมู่เหล่า นี่คือธรรมโอสถที่จะหล่อเลี้ยงใจให้อิ่ม บุญ ร่างกายนับวันจะแข็งแกร่ง ธาตุธรรมภายใน จะสะอาดบริสุทธิ์ ตั้งแต่ธาตุสี่ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ จะทำงานประสานกันได้ดี ไม่มีธาตุเสีย มีแต่ธาตุ ดี เหมือนอะไหล่ที่ใหม่เสมอ ไม่มีสนิมเกาะ ส่วนกุศลธรรมจะคอยหล่อเลี้ยงใจและส่งผลมาถึงธาตุหยาบ ทำให้ธาตุแก่ ธาตุเจ็บ ธาตุตาย ไม่ได้โอกาส ให้ช่อง ร่างกายของเราก็จะดูแข็งแรงเหมือนวิสาขา มหาอุบาสิกา ที่มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง อายุยืน ๑๒๐ ปี ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน นี่คือยา อายุวัฒนะที่กินแล้วแข็งแรง ผู้ปรารถนามีอายุยืนควรทดลองทำดู ทำแล้วดี ทำแล้วอายุยืน ทำแล้วได้บุญ และได้ไปสวรรค์อย่างแน่นอน

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล