ฉบับที่ 115 พฤษภาคม ปี2555

เนกขัมมบารมี วิถีสมณะ

ปกิณกธรรม

เรื่อง : พระมหาเสถียร สุวณฺณฐิโต ป.ธ. ๙ / ภาพประกอบ : กองพุทธศิลป์

 

คุกเหล็ก
คุกเหล็ก

 

เนกขัมมบารมี

วิถีสมณะ

          " ดูก่อนสุเมธดาบส จากนี้ไปท่านพึงบำเพ็ญเนกขัมมบารมีให้บริบูรณ์ บุรุษผู้อยู่ในเรือนจำมานาน มิได้ชอบเรือนจำนั้นเลย มีแต่ความอึดอัด ไม่อยากอยู่ฉันใด แม้ท่านก็ฉันนั้น จงทำภพทั้งปวงให้เป็นเช่นกับเรือนจำ มุ่งหน้าต่อเนกขัมมบารมีคือการออกจากกามเท่านั้น ท่านจักได้เป็นพระพุทธเจ้า "

          สุเมธดาบสได้ตรวจตราดูว่าเมื่อมีบุญเป็นเสบียงในการเดินทางไกล และได้อัตภาพเป็นมนุษย์แล้ว ทำไมจึงยังไปไม่ถึงที่สุดแห่งทุกข์และยังมีกิเลส อาสวะเกาะติดแน่นอยู่ ก็ได้เห็นว่า สาเหตุมาจากมนุษย์ยังหลงติดอยู่ในเหยื่อล่อของพญามาร คือ เบญจกามคุณ จึงไปนิพพานไม่ได้ กามคุณนี่เอง ที่ครอบงำหมู่สัตว์ให้ติดในภพ แม้จะร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี ได้รูปร่างงดงาม แต่ถ้ามัวข้องเกี่ยวกับกามคุณ ก็ทำให้หมดเวลาในการสร้างบารมี จึงจำเป็นจะต้องหาทางออกบวชเพื่อสลัดออกจากกาม ให้ได้

         การประพฤติพรหมจรรย์เป็นวิธีการที่ตรงต่อ พระนิพพานที่สุด ไม่ต้องเสียเวลาหรือหาทรัพย์เพื่อมาหล่อเลี้ยงชีวิต ส่วนการครองเรือนเปรียบเสมือนถูกจองจำด้วยพันธนาการที่ผูกเงื่อนหย่อน ๆ บุตรธิดาเป็นเหมือนบ่วงคล้องคอ สามีภรรยาเหมือนบ่วงคล้องแขน ทรัพย์สมบัติเหมือนบ่วงคล้องเท้า หาอิสระได้ยาก บัณฑิตเห็นโทษการครองเรือนนี้แล้วจึงพากันสลัดตนออกให้พ้นจากบ่วงกาม

 

คุกเหล็ก

คุกเหล็ก

         ในสมัยหนึ่ง เมื่อพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติในกรุงพาราณสี อัครมเหสีของพระองค์ได้คลอดพระโอรส ขณะที่กำลังพักผ่อนอยู่นั้น ได้เกิดเหตุร้ายที่ไม่คาดฝัน มีนางยักษิณีตนหนึ่งแปลงกาย เป็นหญิงสาวเดินตรงเข้ามาชิงทารกต่อหน้าต่อตาพระเทวี เมื่อคว้าทารกได้ก็รีบอุ้มหนีไป แล้วเคี้ยว ทารกกินด้วยความเอร็ดอร่อย เหตุการณ์สยองขวัญ ได้ร่ำลือไปทั่วพระนคร เมื่อพระเทวีคลอดเป็นครั้งที่ สอง นางยักษิณีก็มาลักพาพระกุมารไปเคี้ยวกินอีก โดยที่ไม่มีใครสามารถป้องกันไว้ได้

          ในครั้งที่สาม พระโพธิสัตว์เจ้าทรงถือกำเนิดในพระครรภ์ของพระเทวี พระราชาทรงหาวิธีป้องกัน ด้วยการรับสั่งให้ช่างเหล็กมาสร้างตำหนักเหล็ก สิ่งก่อสร้างทุกอย่างตั้งแต่เสา ประตู หน้าต่าง ล้วน ทำด้วยเหล็ก สร้างเสร็จภายใน ๙ เดือน ทันเวลากับ ที่พระเทวีทรงให้การประสูติพระโอรสพอดี พระโอรส ได้รับการขนานนามว่า "อโยฆรกุมารŽ"

          พระโพธิสัตว์ทรงเจริญเติบโตในพระตำหนักเหล็ก และทรงศึกษาศิลปวิทยาทุกอย่างในตำหนักนั้น พระราชาทรงทราบว่า พระโอรสทรงเติบใหญ่ สามารถต่อกรกับยักษ์ได้ แม้จะมาเป็นพัน ๆ ก็ตาม จึงทรง รับสั่งข้าราชบริพารให้จัดการตกแต่งพระนคร แล้วอัญเชิญพระโอรสออกจากตำหนักเหล็ก เพื่อเสด็จเข้ารับเศวตฉัตรในพระราชฐาน

          ขณะที่พระโพธิสัตว์กำลังเวียนประทักษิณพระนครอยู่นั้น ได้ทอดพระเนตรเห็นสิ่งที่พระองค์ไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นพระราชอุทยาน สระโบกขรณีอันน่ารื่นรมย์ใจ ทรงถามอำมาตย์ว่า  "ที่ผ่านมาพระราชบิดาให้เราอยู่ในเรือนจำตลอด ไม่เคยให้เราได้เห็นพระนครที่สวยงามอย่างนี้มาก่อนเลย เรามีความผิดอะไรหนอŽ" อำมาตย์กราบทูล ว่า  "ขอเดชะ พระองค์ไม่มีความผิดหรอก ที่เป็น เช่นนี้ก็เพราะมียักษิณีตนหนึ่งมาเคี้ยวกินพระเชษฐา ถึง ๒ พระองค์ ดังนั้น พระราชาจึงรับสั่งให้พระองค์ อยู่แต่ในตำหนักเหล็ก ที่ทรงรอดมาได้เพราะตำหนัก เหล็กแท้ ๆŽ"

 

คุกในสังสารวัฏ

คุกในสังสารวัฏ

          เมื่ออโยฆรกุมารทรงสดับคำแล้ว ทรงดำริว่า "เราอยู่ในครรภ์ของพระมารดา ๑๐ เดือน เหมือนอยู่ในนรก แม้เราจะพ้นจากเงื้อมมือของนางยักษิณีมาได้ ใช่ว่าจะไม่แก่ไม่ตาย เราจะต้องการราชสมบัติ อีกทำไม หากถึงคราวครองราชย์จริง ๆ แล้ว จะออกบวชยาก เราจักให้พระราชบิดาทรงอนุญาตการบวชในวันนี้ให้ได้Ž"

          ครั้นพระราชกุมารเสด็จเวียนรอบพระนครแล้ว ก็เสด็จเข้าสู่พระราชวัง พระเจ้าพรหมทัตทรงรับสั่งว่า "ท่านทั้งหลายจงเชิญโอรสของเราให้ประทับเหนือกองรัตนะ ให้พระโอรสสวมพวงดอกไม้ทองคำ และทำพิธียกเศวตฉัตรขึ้นเถิดŽ พระกุมารทูลคัดค้าน ว่า  ข้าพระองค์ไม่ต้องการราชสมบัติ ขอพระองค์ได้โปรดทรงอนุญาตให้ข้าพระองค์บวชด้วยเถิดŽ ลูกรัก ลูกบอกคืนราชสมบัติเพื่อออกบวชเพราะอะไรหรือŽ"

          พระโพธิสัตว์ทูลตอบว่า "ขอเดชะ ข้าพระองค์อยู่ในครรภ์พระมารดา ๑๐ เดือน เหมือนอยู่ในนรก พอคลอดออกมาก็ไม่ได้โอกาสเห็นโลกภายนอก ถึงแม้จะพ้นจากเงื้อมมือนางยักษิณีแล้ว ใช่ว่าข้าพระองค์ จะไม่แก่ไม่ตาย ไม่มีใครสามารถจะชนะความตายได้ ข้าพระองค์เบื่อการเกิดยิ่งนัก ขอบวชไปจนกว่า วันสุดท้ายของชีวิต และปรารถนาจะบวชไปจนกว่า ชรา พยาธิ และมรณะ จะไม่มาถึงข้าพระองค์ ขอเดชะ ทรงโปรดอนุญาตให้ข้าพระองค์บวชด้วยเถิด"Ž

 

แหกคุก

แหกคุก

          พระราชาทรงเป็นห่วงราชสมบัติว่า "ราชอาณาเขตที่กว้างใหญ่ไพศาลล้วนเป็นของลูก ลูกจะทอดทิ้งเหล่าไพร่ฟ้าประชาราษฎร์ไปได้อย่างไรเล่าŽ" พระโอรสตรัสสำทับว่า "ความแก่ ความเจ็บ ความตายได้รุกรานข้าพระองค์ ซึ่งกำลังสนทนา กับพระองค์อยู่ ยังจะมัวเป็นห่วงราชสมบัติอยู่ไย มัจจุราชมิได้มีความเกรงใจเลยว่า ผู้นี้เป็นกษัตริย์ เป็นพราหมณ์ เป็นเศรษฐี ย่อมย่ำยีทั่วทั้งหมด นักเล่นกลทำกลมายากลางสนาม ลวงนัยน์ตาประชาชนให้หลงเชื่อได้ แต่จะลวงมัจจุราชให้หลงเชื่อไม่ได้ อสรพิษขบกัดมนุษย์ให้ถึงตายได้ แต่ไม่สามารถจะขบกัดมัจจุราชให้ตายได้ หมองูถอนพิษร้ายได้ แต่จะถอนพิษของผู้ถูกมัจจุราชประทุษร้ายไม่ได้ แพทย์ผู้มีชื่อเสียงกำจัดพิษพญานาคได้ แต่รักษาคนใกล้ตายไม่ได้ วิทยาธรร่ายอาคมก็หายตัวได้ แต่หายตัวไม่ให้มัจจุราชเห็นไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น หม่อมฉันจึงขอออกบวชเพื่อประพฤติธรรม ขอให้เสด็จพ่อทรงอยู่เป็นสุขสำราญเถิดŽ ว่าแล้วก็ถวายบังคมลาพระชนกชนนี มีใจเด็ดเดี่ยวดุจช้างที่สลัดจากห่วงเหล็กหลุดรอดไปได้

          ครั้นพระราชบิดาได้ฟังแล้วก็เกิดแรงบันดาลใจอยากบวช จึงตัดสินพระทัยเสด็จออกบวชทันที โดยไม่อาลัยในราชสมบัติเลย จากนั้น ทั้งพระเทวี หมู่อำมาตย์ราชบริพารต่างก็พากันออกบวชตาม ชาวพระนครพากันสละบ้านเรือนออกบวช จึงกลาย เป็นมหาสมาคมใหญ่ ทุกคนตามพระโพธิสัตว์เดินทาง เข้าป่าหิมพานต์ ท้าวสักกะเห็นปณิธานอันยิ่งใหญ่ของ พระโพธิสัตว์ก็เกิดศรัทธา ได้ส่งวิสสุกรรมเทพบุตรไป เนรมิตอาศรมเพื่อทุกคน ทั้งให้จัดแจงบริขารนักบวช ไว้ให้ครบถ้วน ทุกท่านได้บวชเป็นฤาษีแล้วตั้งใจบำเพ็ญสมณธรรม ได้ฌานสมาบัติ ครั้นละโลกแล้ว ก็ได้ไปเสวยสุขในพรหมโลก

          เราจะเห็นว่า.. วิสัยทัศน์ของพระโพธิสัตว์นั้นยาวไกลข้ามภพข้ามชาติ ไม่ยอมจมปลักอยู่กับสมบัติ นอกตัว แม้จะเลอเลิศสักปานใดก็ไม่ไยดี ทรงหาทาง แหกคุกคือสังสารวัฏเรื่อยมา ในที่สุดก็ทำได้สำเร็จคือตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หยุดการเวียนว่าย ตายเกิดได้อย่างเด็ดขาด ดังนั้น การหาโอกาสออก บวชจะเป็นระยะสั้นหรือระยะยาว ก็นับเป็นบุญที่ บุรุษเพศทั้งหลายไม่ควรพลาด แม้เป็นหญิงก็ควรหาโอกาสประพฤติพรหมจรรย์ด้วยการรักษาศีล ๘ หรือบวชอุบาสิกาแก้ว เพื่อสั่งสมเนกขัมมบารมีให้แก่รอบยิ่งขึ้น ไม่เช่นนั้นเราก็จะถูกตรึงติดอยู่กับเครื่องพันธนาการทั้งหลายร่ำไป..

           " เครื่องผูกที่ทำด้วยเหล็ก ทำด้วยไม้ นักปราชญ์ ไม่กล่าวว่าเป็นเครื่องผูกที่รัดแน่น ความยินดีใน ทรัพย์ ในบุตรภรรยา เป็นเครื่องผูกที่มั่นคงยิ่ง แก้ออกได้ยาก ทำให้ใจตกต่ำ ผู้มีปัญญาละกามสุขเหล่านี้หลีกออกได้ ย่อมพบสุขอันเป็นอมตะŽ "

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล