ฉบับที่ ๑๔๒ เดือนสิงหาคม ๒๕๕๗

ปฏิบัติการก่อการดี ที่บัลแกเรีย

สร้างโลกแก้ว
เรื่อง : กองบรรณาธิการ

 

 

ปฏิบัติการก่อการดี 
 

ที่บัลแกเรีย

 

   “บัลแกเรีย” มีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะต้นตำรับของการผลิตโยเกิร์ตด้วยจุลินทรีย์สายพันธุ์แท้แลคโตบาซิลัส บัลการิคัส ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ นอกจากนี้บัลแกเรียยังมีกุหลาบที่สวยที่สุดในโลก และมีชื่อเสียงด้านการผลิตน้ำมันกุหลาบเพื่อนำไปใช้ทำหัวน้ำหอมด้วย 


    ประเทศสาธารณรัฐบัลแกเรียตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป มีเมืองหลวง ชื่อโซเฟีย ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย มีประชากรประมาณ ๘ ล้านคน เป็นชาวบัลแกเรียเกือบ ๙๐ เปอร์เซ็นต์ และชาวเติร์ก ๑๐ เปอร์เซ็นต์ ประชากรนับถือศาสนาคริสต์ ๘๐ เปอร์เซ็นต์ อิสลาม ๑๐ เปอร์เซ็นต์ นอกนั้นเป็นความเชื่ออื่น ๆ 


    ตลอดระยะเวลาอันยาวนานในประวัติศาสตร์แห่งชาติบัลแกเรีย นับตั้งแต่ก่อตั้ง เป็นรัฐบัลแกเรียเมื่อปี พ.ศ. ๑๒๒๔ เป็นต้นมา มีเหตุการณ์สำคัญ ๆ เกิดขึ้นมากมาย และหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญนั้นก็คือ การก่อการดีด้วยพลังแห่ง Dhammakaya Meditation ซึ่งเริ่มขึ้น เมื่อวันที่ ๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗...

 

ซ้าย : คราซิเมียร์ คิริลอฟ / ขวา : ท่านกงสุลใหญ่แห่งประเทศไทยประจำบัลแกเรีย

พีซเอเจนต์ยานา ยานเชวา

 

 

 

    เมื่อวันที่ ๖-๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗ ทีมงานพีซเรฟโวลูชันเดินทางไปจัดปฏิบัติธรรมที่ประเทศบัลแกเรียเป็นครั้งแรก โดยมียานา ยานเชวา เป็นตัวกลางในการนำกุญแจที่ไขปริศนาแห่งศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ เข้าไปสู่ประเทศของเธอ


    ปัจจุบันยานามีอายุ ๓๑ ปี เธอเคยมาร่วมปฏิบัติธรรมเยาวชนยุโรปครั้งที่ ๒ และเคยมาปฏิบัติธรรมกับพีซเรฟโวลูชันที่เมืองไทยด้วย 


   ยานาเคยกล่าวไว้ว่า “สมาธิเปลี่ยนแปลงชีวิตของฉัน ช่วยให้ฉันเข้าใจตัวเองและรัก      ตัวเองมากขึ้น ทำให้รู้จักปล่อยวางและยอมรับความเป็นจริงในชีวิต และทำให้ฉันมั่นใจว่า  ชีวิตของฉันจะไม่ปราศจากสันติสุขอีกต่อไป” ประสบการณ์ดี ๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้ยานาสัญญากับตัวเองว่า สักวันหนึ่งเธอจะนำวิธีสร้างสันติสุขภายในไปเผยแผ่ในประเทศของเธอให้ได้

 

 

    ด้วยความมุ่งมั่นอยากจะให้ชาวบัลแกเรียได้ลิ้มลองรสสันติสุขภายในที่เลิศรสกว่า โยเกิร์ตแสนอร่อย ยานาจึงตัดสินใจโทรศัพท์ถึงวิกเตอร์ เมลาเม็ด กงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำประเทศบัลแกเรีย ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน 


    เมื่อยานาเล่าประสบการณ์ที่ได้จากการ ทำสมาธิให้ฟัง ท่านกงสุลก็ยินดีช่วยเหลือ โดยแนะนำให้เธอรู้จักกับนักธุรกิจชื่อคราซิเมียร์ คิริลอฟเพื่อขอให้ช่วยสนับสนุนเรื่องที่พักของทีมงาน ซึ่งคราซิเมียร์ก็ยินดีสนับสนุนห้องพักกลางกรุงโซเฟียให้ทั้งหมดอย่างไม่น่าเชื่อ

 


    
    จากนั้น ยานาเริ่มติดต่อหาสถานที่จัดปฏิบัติธรรม ซึ่งต่อมา เธอได้ค้นพบว่า การจัดปฏิบัติธรรมนั้นยากแค่ตอนตัดสินใจจะทำเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นอุปสรรคก็ค่อย ๆ คลี่คลายไปอย่างน่าอัศจรรย์ เนื่องจากเพื่อน ๆ ล้วนเต็มใจให้ความช่วยเหลือ


    แม้กระทั่งตอนที่เธอติดต่อไปยังสถานีโทรทัศน์แห่งชาติบัลแกเรีย เพื่อให้พระอาจารย์ไปออกอากาศ ทางสถานีโทรทัศน์ก็ตอบตกลงทันที ทั้ง ๆ ที่ใคร ๆ ก็บอกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะไปออกรายการนั้น และด้วยความทุ่มเทของยานาที่จะเผยแผ่วิธีสร้างสันติสุขภายในไปยังเพื่อนร่วมชาติให้มากที่สุด เธอจึงหาทางให้พระอาจารย์ได้สัมภาษณ์สื่อออนไลน์ รายการโทรทัศน์ และสถานีวิทยุแห่งชาติ รวมทั้งหมดถึง ๔ รายการ ซึ่งการสัมภาษณ์แต่ละครั้ง     มิเพียงสร้างความประทับใจแก่ผู้ชมจนกระทั่งมีหลายคนตามมานั่งสมาธิเท่านั้น แม้แต่พิธีกรหรือนักข่าวเองก็ยังตามมานั่งสมาธิด้วย

 


    
    นักข่าวสถานีวิทยุแห่งชาติบัลแกเรีย  (ชื่อ “ยานา” เหมือนกัน) บอกว่าประทับใจในคำตอบของพระอาจารย์ที่ทำให้เธอรู้สึกว่า  เป็นเรื่องง่ายที่คนเราจะมีความสุข ไร้ความเครียด ทั้งปวง เธอจึงตัดสินใจตอบตกลงมานั่งสมาธิ


    เมื่อได้นั่งสมาธิแล้ว เธอเล่าว่า รู้สึกเบาสบายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เหมือนลอยไปอยู่ในที่โล่งที่ปราศจากแรงโน้มถ่วง เมื่อเธอรู้สึกว่าร่างกายของเธอหายไป เธอรู้สึกกลัวเล็กน้อย แต่ก็รำพึงว่า “มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมาก” แม้เวลาผ่านไปถึง ๔๐ นาที เธอกลับรู้สึกว่าผ่านไปแค่ ๑๐ นาที เท่านั้น 


    ตอนนี้เธอเชื่อแล้วว่าสมาธิสามารถนำความรู้สึกอัศจรรย์มาสู่ชีวิตของเธอได้จริง     ดังนั้นวันหลังเธอจึงกลับมานั่งสมาธิกับ        พระอาจารย์อีกครั้ง แถมยังพาแฟนมาด้วย

 


    


    ย้อนกลับมาดูการจัดปฏิบัติธรรมครั้งแรกในประเทศบัลแกเรียกันบ้างดีกว่า รอบแรกจัดที่สตูดิโอโยคะอานามายะ กลางกรุงโซเฟีย รอบนี้ มีคนมาเกือบเต็มห้อง หลังจากนั่งสมาธิได้  ๔๐ นาที ปรากฏว่า ทุกคนต่างมีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี ตัวเบา ตัวหาย ผู้หญิงคนหนึ่งชื่อซลาตินา บอกว่า ตัวเธอหายไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ แต่ไม่ได้อยู่ในห้องนั้นแน่ ๆ เหมือนออกไปนอกโลก    และเหมือนเวลาผ่านไปแค่ ๑๐ นาทีเท่านั้น   ส่วนเจ้าของโยคะสตูดิโอก็บอกว่า เธอเห็นพระอาทิตย์ที่กลางกาย เหมือนอยู่ในความฝัน แต่มีสติตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

 

 

 

    การจัดปฏิบัติธรรมครั้งที่ ๒ และ ๓ จัดขึ้นที่เทศบาลใกล้ ๆ กรุงโซเฟียซึ่งเป็นเมืองมหาวิทยาลัย มีนักศึกษาอยู่มากมาย แต่ยานากลัวว่าจะมีคนมาไม่มาก เพราะว่าเธอไม่ได้     รับความช่วยเหลือจากเทศบาลในการทำประชาสัมพันธ์ แค่ได้รับอนุญาตให้ใช้สถานที่เท่านั้น


    การปฏิบัติธรรม ๒ รอบนี้ มีคนมาแค่    ๑๕ คน แม้ยานาจะถามพระอาจารย์ว่ายกเลิกรอบนั่งเลยดีไหม แต่พระอาจารย์อยากจะให้  ทุกคนได้รับประโยชน์สูงสุด เพราะการเจอกันนั้นยากเหลือเกิน ท่านจึงขอนำนั่งสมาธิตามปกติ

 



    
    รอบที่ ๔ และ ๕ ทีมงานต้องเดินทางไปที่เมืองบรากอบกราด ซึ่งอยู่ห่างไปเกือบ ๒ ชั่วโมง ระหว่างทางขณะพระอาจารย์แวะฉันภัตตาหาร มีคนมาถามท่านว่าเล่นกังฟูได้ไหม พระอาจารย์จึงตอบว่า “ไม่ใช่พระจีน พระไทย meditation only”


    วันนี้ ทีมงานเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยที่ยานาเคยเรียน ที่นี่ตัวแทนนักศึกษายินดีให้  พระอาจารย์สอนสมาธิในมหาวิทยาลัย ๒ รอบ แล้วยังประชาสัมพันธ์ให้ด้วย ทำให้มีนักศึกษา     จากทั่วทั้งยุโรปกว่า ๘๐ คน มานั่งสมาธิกับ      พีซเรฟโวลูชัน



    
    รอบแรกมีนักศึกษามาล้นห้องจนต้องไปขนเก้าอี้มาจากห้องอื่น แต่พวกเขายังไม่รู้ว่าสมาธิคืออะไร เข้าใจว่าเป็นการบรรยายธรรมดาที่จะลุกเข้าออกเมื่อไรก็ได้ เมื่อเริ่มนั่งไปได้      สักพักหนึ่งก็มีบางส่วนลุกไปเพราะมีคาบเรียน ทำให้เกิดเสียงดังพอสมควร


    นักศึกษาหนุ่มสาวพวกนี้ มีชีวิตอยู่ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง เพราะหลังจากบัลแกเรียออกจากระบอบคอมมิวนิสต์เมื่อ  ๒๕ ปีก่อน ประเทศชาติและประชาชนก็ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง มีวัฒนธรรมต่างชาติหลั่งไหลเข้ามามากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่สังคมบัลแกเรียยังไม่รู้จักก็คือ “สมาธิ”


    อย่างไรก็ตาม ผลการปฏิบัติธรรมในวันนี้กลับดีจนทีมงานประหลาดใจ นักศึกษาหลายคน รู้สึกโล่ง โปร่ง เบา สบาย ไม่รู้สึกถึงลมหายใจ หลายคนนั่งตัวหาย และส่วนใหญ่ที่ตัวหายยังเห็น แสงสว่างด้วย อีก ๗-๘ คนรู้สึกว่าตัวเองตกลงจากที่สูง และที่น่ายินดีก็คือ หลาย ๆ คนชวนเพื่อนมานั่งสมาธิในรอบค่ำด้วย

    



    


    รอบค่ำก่อนจะนั่งสมาธิ พระอาจารย์เน้นว่ารอบนี้ห้ามลุกออกไปไหนนะ ซึ่งก็ได้ผลดี คือห้องเงียบมาก พระอาจารย์นำนั่งไป ๔๐ นาที เมื่อพระอาจารย์ให้ลืมตาก็มีเสียงคุยกันอย่างประหลาดใจ เพราะนึกว่าเวลาผ่านไปแค่ ๕ นาทีเท่านั้น 


     หลาย ๆ คนเดินมาขอบคุณพระอาจารย์ โดยเฉพาะตัวแทนนักศึกษากล่าวว่า ตั้งแต่จัดกิจกรรมพิเศษให้มหาวิทยาลัยมา เขาเพิ่งรู้สึกว่า นี้คือกิจกรรมแรกที่นักศึกษาได้ประโยชน์จริง ๆ


    เมื่อพระอาจารย์เปิดโอกาสให้ถามคำถามคำถามรอบนี้วนเวียนอยู่กับชีวิตพระภิกษุ เช่น ทำไมจีวรต้องเป็นสีส้ม? ชีวิตประจำวันของพระเป็นอย่างไร? 


    คำตอบของพระอาจารย์ที่เกี่ยวกับชีวิตพระ การสร้างนิสัยที่ดีผ่านกรอบของศีล และการควบคุมปัจจัย ๔ คงเป็นสิ่งที่ไม่เคยได้ยินกันมาก่อน จึงฟังกันหูผึ่งเลยทีเดียว
                    


๑๐
     


      รอบที่ ๖ และ ๘ จัดที่สตูดิโอโยคะอานามายะ (ที่เดิม) 


    รอบที่ ๖ มีผู้หญิงคนหนึ่งเล่าว่า ตอนแรกกลัวจะนั่งสมาธิไม่ได้เพราะเป็นโรคปวดหลังเรื้อรัง แต่หลังจากหลับตาสักครู่ เธอก็รู้สึกว่า ตัวเธอหายไป อาการปวดหลังเรื้อรังก็หายไปหมด ทำให้เธอประหลาดใจว่า การนั่งสมาธิเพียง  ครั้งเดียวให้ผลที่น่าอัศจรรย์ได้ขนาดนี้เลยหรือ


    รอบที่ ๘ มีชายหญิงคู่หนึ่งบอกว่า มาเพราะประทับใจคำตอบที่พระอาจารย์ตอบในรายการทีวี และเปิดเผยว่า จริง ๆ แล้วทั้งคู่เป็นตัวแทนของศาสนาบาไฮ ซึ่งเดินทางไปเป็นอาสาสมัครของบาไฮในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก


    ฝ่ายหญิงประทับใจกิจกรรมของพีซเรฟโวลูชันที่เน้นการพัฒนาเยาวชนด้วยสมาธิและสัมมาทิฐิ และกล่าวว่า เธอเฝ้าหาอะไรบางอย่างมาตลอด โดยเฉพาะเรื่องการเพิ่มพลังงานทางบวกให้กับชีวิต วิธีการนึกถึงพระอาทิตย์เป็นนิมิตที่ศูนย์กลางกายทำให้เธอกระจ่างว่า เธอจะเข้าถึงพลังงานดังกล่าวได้อย่างไร เธอบอกว่า เมื่อพระอาทิตย์ในท้องของเธอส่องสว่างอย่างชัดเจน เธอก็รู้สึกถึงพลังงานมากมายมหาศาลที่แผ่พุ่งออกมาจากภายใน

สุภาพสตรีที่นับถือศาสนาบาไฮมาร่วมทำสมาธิด้วย

๑๑


    
    รอบที่ ๗, ๑๐, และ ๑๑ (ซึ่งเป็นรอบสุดท้าย) จัดที่สตูดิโอศิลปะ “เซโดรโบนุม” ของศิลปินชาวบัลแกเรียนชื่อดัง ย่านใจกลางเมือง

 
    ผลการปฏิบัติธรรม ๓ รอบนี้ มีหลาย ๆ คนเห็นแสงสว่างอยู่ตรงหน้า บางคนเห็นที่  กลางท้อง มีชายหญิงคู่หนึ่งกล่าวว่า เริ่มต้นก็นึกนิมิตเป็นพระจันทร์และภาวนาไปเรื่อย ๆ สำหรับ ผู้หญิงเห็นแสงสว่างและจุดที่สว่างที่สุดอยู่ที่ศูนย์กลางกาย เมื่อใจของเธอเริ่มฟุ้ง แสงสว่าง       ที่ศูนย์กลางกายก็จะช่วยนำทางให้ใจของเธอกลับมานิ่งอีกครั้ง สำหรับผู้ชายนั่งไปสักพัก  ดวงกลมใสก็ปรากฏขึ้นท่ามกลางความว่างเปล่า และส่องสว่างอยู่ที่กลางท้อง ทำให้รู้สึกเบาสบายและมีความมั่นใจว่ากำลังเดินไปในทางที่ถูกต้อง


    การจัดปฏิบัติธรรมที่สตูดิโอศิลปะ “เซโดร- โบนุม” นี้ มีบางคนมา ๒ รอบ บางคนมาครบทั้ง ๓ รอบ เมื่อพระอาจารย์ถาม แฟนพันธุ์แท้เหล่านี้ก็ตอบว่า “มานั่งสมาธิกับท่านแล้ว ฉัน    มีความสุข พวกฉันจึงมาอีก ยิ่งนั่งยิ่งรู้สึกว่านิ่งได้นานขึ้นเรื่อย ๆ ท่านไปแล้วพวกฉันจะทำสมาธิกันอย่างไร แล้วเมื่อไรท่านจะมาอีก”


    มีอาจารย์มหาวิทยาลัยคนหนึ่งบอกว่าที่มานั่งสมาธิเพราะสะดุดประวัติพระอาจารย์ว่าจบปริญญาเอกทางด้านคอมพิวเตอร์ แต่กลับ ทิ้งคอมพิวเตอร์มาบวช อาจารย์ท่านนี้เห็นว่า การเป็นโปรแกรมเมอร์กับพระน่าจะควบคู่กัน ไปได้ พระอาจารย์ตอบว่า เทคโนโลยีเป็นของ กลาง ๆ ถ้าคนที่มีนิสัยเป็นพระใช้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อสังคม ถ้าคนที่มีนิสัยตรงข้ามกับพระใช้ก็จะเกิดโทษ และปัจจุบันพระอาจารย์กับทีมงานก็ใช้เทคโนโลยีเพื่อหวังว่าจะนำสันติสุขไปสู่ใจของมวลมนุษยชาติ คิดว่าอาจารย์น่าจะพอใจในคำตอบ จึงยอมทำสมาธิ และรู้สึกเบาสบายเหมือนลอยได้ในที่สุด

 

 

๑๒


    
    รอบที่ ๙ เป็นรอบพิเศษที่จัดให้กลุ่ม    เจ้าภาพ ประกอบด้วยคราซิเมียร์ ท่านกงสุล   วิกเตอร์ เจ้าของโรงแรมเบสเวสเทิร์น เจ้าหน้าที่โรงแรม และกลุ่มเพื่อน ๆ 


    ท่านกงสุลวิกเตอร์นั่งแล้วเห็นแสงสว่างภายใน รู้สึกประทับใจและกล่าวว่าจะให้การสนับสนุนโครงการอีก 


    ทางด้านคราซิเมียร์บอกว่าเครียดมาหลายเดือนเพราะปัญหาทางธุรกิจ แต่วันนี้รู้สึก      ผ่อนคลายเหมือนไม่เคยมีปัญหามาก่อน เขาประทับใจการนั่งสมาธิมาก และเชิญพระอาจารย์กับทีมงานไปจัดปฏิบัติธรรมให้กับกลุ่มนักธุรกิจ
ในรีสอร์ตของเขาที่ริมชายหาดทะเลดำในช่วงปลายปีนี้


๑๓


    
    ระยะเวลาเจ็ดวันในประเทศบัลแกเรีย แม้ยอดจำนวนคนไม่มาก แค่เพียง ๒๐๐ คนเศษ แต่ทีมงานกลับรู้สึกว่า ครั้งนี้สามารถเจาะเข้า ไปถึงคนได้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าพ่อค้า นักธุรกิจ ข้าราชการ ศิลปิน นักศึกษามหาวิทยาลัย เปรียบเสมือนน้ำมันกุหลาบ ซึ่งแม้จะมีจำนวนน้อย แต่ก็สามารถนำไปผลิตเป็นน้ำหอมที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั้งปฐพีได้ 

 

ขอบคุณภาพจาก bulgariancenter.org


    จากบทเรียนในการจัดกิจกรรม PIPO  ครั้งนี้ กอปรกับจะมีพีซเอเจนต์ชาวบัลแกเรีย เข้ารับการอบรมในปี พ.ศ. ๒๕๕๗ นี้ ทำให้       พระอาจารย์และทีมงานพีซเรฟโวลูชันเชื่อว่า  อีกไม่นาน ชาวบัลแกเรียจะได้ลิ้มรสแห่งธรรม ซึ่งนอกจากจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงโมเลกุลใจของพวกเขาให้มีคุณภาพดีขึ้นแล้ว ยังจะทำให้พวกเขาได้สัมผัสกับความสุขที่เหนือชั้นกว่า  การได้ลิ้มลองโยเกิร์ตรสเลิศเป็นไหน ๆ.. 

 

 

 

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล