ฉบับที่ ๑๔๘ เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๘

บวชสามเณรล้านทั่วไทย แก้ปัญหาเยาวชน

สู่เป้าหมายสามเณรทั้วไปล้านรูป

เรื่อง : พ.สนิทวงศ์

 

บวชสามเณรล้านทั่วไทย
แก้ปัญหาเยาวชน

 


    เยาวชนเป็นอนาคตของชาติ ดังนั้นจึงเป็นภารกิจที่       ทุกภาคส่วนในสังคมต้องมาช่วยกันประคับประคองให้เยาวชนของเราเป็นคน “เก่งและดี” ให้ได้


    แต่จากงานเก็บข้อมูลนักเรียนของโรงเรียนในเขต กทม. แห่งหนึ่ง ซึ่งมีนักเรียน ๑,๐๐๐ คน กลับมีการยกเลิกวิชาจริยธรรมทุกระดับชั้น!!! ผลการประเมินอุปนิสัยเบื้องต้น       จากการพูดคุยกับคุณครูผู้ดูแล พบภัยและปัญหา ดังนี้  

 


๑.    เด็กพูดคำหยาบคายมากจนเป็นปกติ ทำให้ผู้ใหญ่           ที่ไม่คุ้นเคยรู้สึกว่า เด็กไม่ได้รับการศึกษาหรือครอบครัวไม่อบรม 


๒.    เด็กติดเกมมาก มีทั้งเกมง่าย ๆ ดูธรรมดาไร้เดียงสา และค่อย ๆ เพิ่มความรุนแรง บางเกมทำให้เสมือนจริง สมมุติตัวเองเป็นโจรแล้วหาวิธีไล่ล่าตำรวจ บางเกม     สร้างความเป็นครอบครัว บน Social Animation ซึ่งมี ฉากล่อแหลม ติดเรตโป๊เปลือย มีการพบปะพูดคุยกับเพื่อนในเกมซึ่งไม่ได้รู้จักกัน แต่มีตัวละครในเกมเป็นตัวแทน (อวตาร) ซึ่งอาจนำไปสู่อาชญากรรมได้ เด็กบางคน เล่นเกมที่ใช้ Joy Stick และนั่งเล่นได้ต่อเนื่องเป็นวัน    เป็นคืน โดยไม่หลับไม่นอน ไม่รู้สึกหิว ทำให้เสียสุขภาพ และมีการซื้อขาย Item เพื่อเอาชนะในเกม จนทำให้เสียเงินทอง


๓.    เด็กติด Social Network เช่น Line, Facebook, Twitter จนเป็นสังคมก้มหน้า รวมถึงการเข้าถึงสื่อลามก สื่อรุนแรง ซึ่งเด็ก ๆ สามารถเข้าถึงได้ทุกวันพอ ๆ กับผู้ใหญ่ โดยขาดการปิดกั้น กลั่นกรอง ทั้ง ๆ ที่เด็กยังไม่สามารถคิดวิเคราะห์และพิจารณาได้ว่าสื่อนั้นสมควรอ่านหรือดูหรือไม่ ทำให้เด็กกร้านโลก ขาดความเกรงใจผู้ใหญ่


๔.    เด็กเป็นหนุ่มเป็นสาวเร็วขึ้น จากสื่อลามกทำให้เด็กจับกันเป็นคู่ ๆ จนมีค่านิยมผิด ๆ เช่น เด็ก ม.๓ ถ้าใครไม่มีแฟนถือว่าเชย, เด็กผู้หญิงอยากมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับครูผู้ชาย, หรือเด็กหนุ่ม ม.๓ หาวิธีจับคู่กับเด็กใส ๆ ไร้เดียงสา ป.๕ เป็นต้น


    ปัญหาเยาวชนเหล่านี้ไม่ใช่ของใหม่ เพียงแต่สมัยก่อนมีสื่อเร้าน้อย ปัญหาจึงอยู่ในวงแคบเฉพาะราย เช่น ๑ ห้อง อาจมีปัญหา ๑-๒ คน แต่ปัจจุบันสื่อที่กระตุ้นเด็กไปในทางไม่ดีมีมากขึ้นจนคิดว่าเป็นเรื่องปกติ ส่งผลให้เพิ่มปริมาณของปัญหาเยาวชนมากขึ้นเรื่อย ๆ


    วิธีแก้ปัญหาเยาวชนทั้งชายและหญิง คือ ต้องอบรมศีลธรรมเท่านั้น!!! เด็กผู้ชายต้องบวชสามเณร เด็กผู้หญิงต้องมาอบรมถือศีล ๘ นุ่งขาวห่มขาว เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งทางศีลธรรมในใจเยาวชน เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันจากอบายมุขทั้งหลายได้

 

 

บวชสามเณรทั่วไทย คือ คำตอบการแก้ปัญหาเยาวชน


    โครงการบรรพชาสามเณรฟื้นฟูพระพุทธศาสนาทั่วไทย เป็นโครงการดี ๆ ที่เปิดโอกาส       ให้เยาวชนได้ใกล้ชิดพระพุทธศาสนา เป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา สร้างศาสนทายาท         ปลูกฝังศีลธรรมและประเพณีอันดีงามของสังคมไทยในยุคปัจจุบัน และเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในทุกพื้นที่ โดยใช้หลักสูตร “ความดีสากล ๕ ประการ” โดยฝึกนิสัยดี ๆ ผ่าน “๕ ห้องชีวิต เนรมิตนิสัย” 


    โดยมีวัตถุประสงค์ คือ 


๑.    เพื่อให้เยาวชนมีวินัย มีความเคารพ มีความอดทน และฝึกปฏิบัติ ความดีพื้นฐานสากล       จนเป็นนิสัย อยู่ร่วมกันในสังคมด้วยความสามัคคี ปฏิบัติศีล ๕ 


๒.    เพื่อเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมเยาวชน ให้เป็นผู้นำแห่งความดีในชุมชน รักษาวัฒนธรรมชาวพุทธและประเพณีไทยให้ธำรงอยู่คู่ชาติไทยสืบต่อไป ทั้งนี้เป้าหมายเชิงคุณภาพที่ตั้งไว้ได้แก่  ๑. มีความดีสากล คือ นิสัยดี ๕ ประการ สะอาด ระเบียบ สุภาพ ตรงต่อเวลา      มีสมาธิ ๒. มีวินัย  เคารพ  อดทน  ๓. รักษาศีลได้ ๔. มีจิตสาธารณะ ช่วยเหลือผู้อื่น

 

 

Line บรรยากาศตามคนบวชสามเณรล้านรูป 


    ช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ และมกราคม พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นช่วงที่ทีมงานชวนบวชทุกจังหวัด       ต้องทำงานแข่งกับเวลา เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ทางทีมงานพระอาจารย์และเจ้าหน้าที่    ได้ตั้งกลุ่ม Line และรายงานความเคลื่อนไหวมาที่ส่วนกลางเป็นประจำทุกวัน เพื่อเป็นกำลังใจ     และแลกเปลี่ยนข้อมูลวิธีการซึ่งกันและกัน เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จให้มีเด็กดีมากขึ้น โดยยกตัวอย่างพอสังเขป ดังนี้ 


    “อ.ดารณี ผู้มีหัวใจพระโพธิสัตว์ นำทีมพระอาจารย์, อ.กนิษฐ์เพ็ญ พร้อมทีมอาสาฟื้นฟู        ผู้มีหัวใจไม่เกี่ยง เคียงข้างไปดุสิตบุรี ออกประชาสัมพันธ์ใน รร.ดอนเมืองจาตุรจินดา แม้มีบททดสอบหัวใจนักสร้างบารมี แต่ก็ก้าวข้ามผ่านมาได้ในเบื้องต้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่น พระอาจารย์ได้พูดคุยกับอดีตสามเณร AEC ที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดหลังจากเข้าโครงการ              ที่ผ่านมา และมีนักเรียนที่มีความตั้งใจบวช สมัครเบื้องต้นประมาณ ๒๐ คน” ดอนเมือง รายงาน


    “พระอาจารย์สุนันท์ โคราช ๒ เล่ากลยุทธ์ชวนนักเรียนบวชสามเณรโตว่า ท่านเตรียมจัดค่ายอบรมนักเรียน ม.ปลาย เพื่อสร้างศรัทธาในการบวช คาดว่าน่าจะได้สัก ๒๐ เปอร์เซ็นต์ ของผู้เข้าอบรม รวมถึงยังส่งทีมงานไปเชิญชวนตามโรงเรียนต่าง ๆ ด้วย โดยเทคนิคตอนชวนต้องมีแรงจูงใจ หลักสูตรความเก่งคู่ความดีด้วย” โคราช รายงาน 


    “รร.ไทยรัฐวิทยา ๓๙ (บ้านนาโต๊ะหมิง) อ.เมือง จ.ตรัง เขียนใบสมัครบวช ๕๖ คน ส่วน   วันที่ ๘ ม.ค. รร.บ้านนาเมืองเพชร สมัครจำนวน ๔๔ คน, รร.บ้านห้วยต่อ สมัครจำนวน ๔๕ คน, ครูสุจิตรา จริงจิตร รร.วัดควนวิเศษ จำนวน ๓๗ คน ส่วนวันที่ ๑๒ ม.ค. ๕๘ ไปชวนบวช รร.บ้านวังหลาม สมัครและเต็มใจบวช ๒๖ คน ได้รับความร่วมมือจาก ผอ. และคุณครูเป็น        อย่างดี และวันที่ ๑๓ ม.ค. ไปชวนบวช รร.บ้านหนองสองพี่น้อง อ.ห้วยยอด และพานักเรียนมารับพระธุดงค์ วันที่ ๑๕-๑๘ ม.ค. โดยโรงเรียนแห่งนี้ทั้งคุณครูและนักเรียนพร้อมใจกันแต่งชุดขาวทุกวันอังคารด้วย และมีนักเรียนสมัครบวช  ๒๙ คน ส่วน รร.บ้านคลองมวน อ.ห้วยยอด คุณครูไปสัมมนาชวนบวชที่เขาแก้วเสด็จมาแล้ว มีนักเรียนสมัครบวช ๓๘ คน โดยทุกโรงเรียน ผอ. และคณะครู อำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี” ตรัง รายงาน 


    “ครูอาสาสกลนครเข้าอวยพรปีใหม่ ผอ.เขต สพม. ๒๓ และสพป. สกลนคร เขต ๑ และประสานงานชวนบวช ส่วนวันที่ ๑๓ ม.ค. ๕๘ รร.มัธยมวานรนิวาส อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร เขต ๓ พระอาจารย์สุรศักดิ์ ฐานกโร และทีมครูอาสา เข้าพบนายดิเรก ฤทธิ์ศรีบุญ ผอ.สพป.สกลนคร เขต ๓ เพื่อเสนอโครงการบวชสามเณร” สกลนคร รายงาน


    “รร.บ้านเรือ ต.กุดยม อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ๑๐ คน” ชัยภูมิ รายงาน


    “วันที่ ๑๙ ม.ค. ๒๕๕๘ แจ้งยอดใบสมัครบวชสามเณร ดังนี้ โกรกพระ ๖๐ คน, หนองตางู ๕๐ คน, บ้านวังม้า ๓๐ คน, หนองปลาไหล ๕๐ คน รวม ๑๙๐ คน” นครสวรรค์ รายงาน 


    รร.โป่งขวาก ฝึก ๕ ห้องชีวิต ชวนบวชสมัครแล้ว ๒๗ คน และชวนไปต้อนรับพระธุดงค์ด้วย” ลำปาง รายงาน 


    “พระอาจารย์หัวหน้าศูนย์บวชเณรไปสอนศีลธรรมเด็กนักเรียนที่โรงเรียนอนุบาลเมืองเสลภูมิ อ.เสลภูมิ และชวนบวชเณรด้วย” ร้อยเอ็ด รายงาน


    “ชวนบวช รร.บ้านชะลาดระฆัง และ รร.บ้านหนองนกปีกกา รวมได้ผู้สมัคร ๔๓ คน  และไปชวนบวช ๒ โรงเรียน รร.บ้านลานห้วยเดื่อ และ รร.บ้านตลุกกลางทุ่ง มีนักเรียนสนใจสมัคร รวม ๓๓ คน” ตาก รายงาน


    “ลงพื้นที่เก็บใบสมัครบวชที่ รร.บ้านคุงยาง อุตรดิตถ์ ได้ ๒๑ คน” อุตรดิตถ์ รายงาน

 


    “เลยแลนด์สู่เณรล้าน…ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเลยมอบหมายให้ท่านรองผู้ว่าฯ นำประชุมคณะกรรมการ ‘โครงการบรรพชาสามเณรดีศรีเมืองเลย ต้นแบบความดีสากล เยาวชนเมืองเลย ๒,๐๐๐ รูป (รุ่นที่ ๒)’ ซึ่งได้รับโครงการดังกล่าวเข้าเป็นโครงการของจังหวัด และมีหนังสือแต่งตั้งคณะกรรมการทำงานอย่างเป็นทางการ โดยการประชุมจัดขึ้นที่ห้องประชุมภูสวนทราย ศาลากลางจังหวัดเลย ได้รับความเมตตาจากตัวแทนท่านเจ้าคณะจังหวัดฝ่ายธรรมยุตมาร่วมประชุมวางแผน พร้อมกับหน่วยราชการต่าง ๆ ได้แก่ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา, ประธานสภา อบจ., สพป.เลย เขต ๑, ๒ และ ๓, สพม.เลย เขต ๑๙, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด, ประชาสัมพันธ์จังหวัด, บก.หนังสือพิมพ์เมืองเลยนิวส์, ครูอาสาและทีมงานพระอาจารย์ เจ้าหน้าที่ ศูนย์กัลยาณมิตร       จังหวัดเลย…บรรยากาศในที่ประชุมเป็นไปอย่างราบรื่นเป็นกันเอง ในแต่ละเขตพื้นที่การศึกษา       ต่างตั้งเป้าชวนบวชกันอย่างคึกคัก กว่า ๒,๐๐๐ รูป ... โดยท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า โครงการนี้ใช้หลักความดีสากลที่เป็นประโยชน์สอดคล้องกับนโยบายของทุกภาคส่วน ท่านผู้ว่าฯ จังหวัดเลยก็มีนโยบายมุ่งเน้นให้จังหวัดเลยเป็นเมืองที่สะอาด อีกทั้งยังตอบสนองกับนโยบาย        ค่านิยม ๑๒ ประการ ของท่านนายกฯ นโยบายเด็กไทยอ่านออกเขียนได้ของกระทรวงศึกษาธิการ ต้องฝึกสมาธิให้จิตใจตั้งมั่น อีกทั้งยังเป็นการรื้อฟื้นเครือข่าย บวร ให้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง       เห็นความร่วมมือของทุกฝ่ายเช่นนี้ ปี ๕๙ ที่จะขยายผลคงสำเร็จแน่นอน” เลย รายงาน


    “วันที่ ๑๒ ม.ค. ชวนบวช รร.วัดพระนอนหนองผึ้ง ได้เด็กส่งใบสมัครบวช ๑๕ คน และโรงเรียนสารภีวิทยาคมไปชวนบวชและชวนไปต้อนรับพระธุดงค์ด้วย” เชียงใหม่ รายงาน 


    “วันที่ ๑๔ ม.ค. ๒๕๕๘ รร.เทศบาลขลุง ๑ เด็กสมัครบวชสามเณร ๓๓ คน และ                   รร.วัดตกพรม สมัครบวชสามเณร ๖๔ คน วันที่ ๑๕ ม.ค. รร.เวฬุวัน สมัครบวชสามเณร ๔๑ คน” จันทบุรี รายงาน 


    “เด็กมาโปรยดาวรวย สมัครบวชกันทุก ๆ วันเลยครับ และเตรียมทำ Wristband ข้อความว่า ‘ซาบซึ้งพระคุณแม่ บวชให้แน่ปิดเทอมนี้’ เพื่อเตรียมมอบให้ผู้สมัครบวชสามเณร ม.ปลาย       พี่เลี้ยง ไว้เป็นสัญญาใจของลูกผู้ชาย” ทีมงานส่วนกลาง


    ปัญหาเยาวชนเป็นเรื่องใหญ่ การแก้ปัญหาโดยใช้การบวชสามเณร ๑ ล้านรูป ก็เป็น           เป้าหมายที่ใหญ่ ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วน จะทำโดยองค์กรใดองค์กรหนึ่งไม่ได้ ต้องช่วยกัน ต้องสามัคคี ต้องปรองดองกันจึงสำเร็จ สมดังคำของพระเดชพระคุณพระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) ที่กล่าวว่า “พุทธบริษัทสี่ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว”

 

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล