ฉบับที่ ๑๔๙ เดือนมีนาคม ๒๕๕๘

การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุกในเม็กซิโก ดินแดนที่ผู้คนชอบขอพรพระ

สร้างโลกแก้ว
เรื่อง : กองบรรณาธิการ

 

การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุกในเม็กซิโก 
ดินแดนที่ผู้คนชอบขอพรพระ

 

 

    เมื่อประมาณ ๒,๖๐๐ ปี ที่ผ่านมา ขณะที่ยังไม่มีชาวพุทธเลยแม้แต่คนเดียว พระสัมมา-สัมพุทธเจ้าทรงใช้วิธีเผยแผ่พระธรรมคำสอน   ในเชิงรุก ด้วยการเสด็จไปโปรดปัญจวัคคีย์ จนกระทั่งมีพระสงฆ์เกิดขึ้น ทำให้มีพระรัตนตรัย ครบองค์สาม คือ พระพุทธ พระธรรม และ  พระสงฆ์ หลังจากนั้นอีกไม่นาน ทรงประชุม พระอรหันตสาวก ๖๐ องค์แรก และประทานโอวาทว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงเที่ยวจาริกไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่มหาชน เพื่อความเอ็นดูแก่โลก... แม้เราก็จักไปยัง  อุรุเวลาเสนานิคมเพื่อแสดงธรรม” ด้วยการเผยแผ่เชิงรุกดังนี้ ทำให้พระพุทธศาสนา แพร่หลายไปทั่วชมพูทวีปในเวลาไม่นานนัก แม้ศาสนาพุทธในประเทศไทยก็เกิดจากการที่พระเจ้าอโศกมหาราชทรงใช้แนวทางเผยแผ่ศาสนาในเชิงรุกเช่นกัน ด้วยการส่งพระสมณทูต จำนวน ๙ สาย ออกเผยแผ่พระพุทธศาสนา   ไปยังประเทศต่าง ๆ


    วัดพระธรรมกายเองก็ยึดหลักเดียวกันนี้ในการเผยแผ่ธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปทั่วโลก โดยมีทีมงานพีซเรฟโวลูชันเป็นทีมงานหนึ่งที่ทำหน้าที่เผยแผ่ธรรมะไปสู่ประเทศต่าง ๆ ทั้งนี้เพื่อขยายโอกาสในการเข้าถึงธรรม แก่มวลมนุษยชาติ ซึ่งจะทำให้มหาชนชาวโลก เกิดสันติสุขภายใน และจะเป็นทางมาของสันติภาพโลกอย่างแท้จริงในที่สุด

 


            ๑


    คอลัมน์สร้างโลกแก้วเดือนนี้ เป็นเรื่องการจัดกิจกรรม PIPO ของ  ทีมงานพีซเรฟโวลูชันที่ประเทศเม็กซิโก ในปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ซึ่งจัดขึ้น         เป็นปีที่ ๓ แล้ว โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๓-๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ ในเมืองแคนคูน, คัวนาวาคา, ปัวบลา, แอทลิโก และกรุงเม็กซิโกซิตี ซึ่ง      มีผู้สนใจมาเข้าร่วมกิจกรรม ๑,๕๕๐ คน ผู้จัดงานหลักมี ๖ คน คือ      พีซเอเจนต์เฟอร์นันดา, มาเรียม, มาเซลา, ลอเรนา, เอริกา และอิลเซ โดยจัดกิจกรรมแบบ Meditation Workshop ๑๖ รอบ และ Retreat ปฏิบัติธรรมสุดสัปดาห์ ๑ ครั้ง นอกจากนี้ยังเน้นเรื่องความร่วมมือกันอย่างจริงจังกับมหาวิทยาลัยเทคมิเลนิโอ(Universidad Tecmilenio) ซึ่งทำให้ทีมงานต้องทุ่มจัดกิจกรรมให้มหาวิทยาลัยนี้อย่างเต็มที่



    วันที่ ๔-๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ จัดกิจกรรมที่เมืองแคนคูน 


    เมืองแคนคูนเป็นเมืองตากอากาศที่สวยงามและมีชื่อเสียง มีทะเลสาบขนาดใหญ่ อาคารบ้านเรือนออกแบบเก๋ไก๋และสดใสสไตล์เม็กซิกัน


    วันแรกจัดกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยของรัฐที่ใหญ่ที่สุดของเมือง ชื่อมหาวิทยาลัยคาริเบ     (Universidad del Caribe) ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่สองแล้ว 


    วันนี้ ห้องประชุม ๒๐๐ ที่นั่ง ไม่พอรองรับผู้เข้าร่วมกิจกรรม จึงต้องเอาเก้าอี้มาเสริม หัวข้อการบรรยายในรอบนี้เกี่ยวกับเรื่องพลังของใจ หรือ Power of the Mind จากนั้นพระอาจารย์     นำนั่งประมาณ ๔๐ นาที ปรากฏว่าทั้งห้องตัวเบา ตัวโล่ง ตัวหาย ตัวขยาย และกว่า ๗๕ เปอร์เซ็นต์ เห็นแสงสว่าง


    การจัดกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยนี้มีผู้คนสนใจอย่างล้นหลาม ทำให้พีซเอเจนต์ของเรา      ตัดสินใจยกเลิกกิจกรรมที่อื่น แล้วกลับมาจัดที่นี่อีกครั้ง 



    วันรุ่งขึ้นจัดกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยเทคมิเลนิโอ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเอกชน ผู้ร่วมกิจกรรมมีอายุตั้งแต่ ๑๕ ถึง ๕๐ ปี เนื่องจากเวลาที่จัดกิจกรรมคาบเกี่ยวกับช่วงเวลาเรียน พระอาจารย์จึงนำนั่งเพียงครึ่งชั่วโมง เพราะไม่อยากให้เด็กขาดเรียน แต่ปรากฏว่าเมื่อนั่งสมาธิครบกำหนดกลับไม่มีใครลุกออกไปเลย พระอาจารย์จึงเทศน์ต่อเรื่อง “สมาธิกับการบำบัดความเครียด”


    รอบนี้มีอาจารย์ท่านหนึ่งมาถามว่า มีศูนย์สมาธิที่นิคารากัวไหม เพราะเธอมาจากประเทศนี้ และอยากให้น้องสาวได้ลองทำสมาธิบ้าง ส่วนอาจารย์อีกท่านก็อยากให้จัดอีกรอบ  



    รอบสุดท้ายที่เมืองแคนคูน ทีมงานไปจัดกิจกรรมให้บริษัท Mayan Sales ซึ่งเป็นบริษัททัวร์ ผู้จัดงานทำงานในฝ่ายบุคคลของบริษัท เขาเคยไปร่วมกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยคาริเบแล้วประทับใจ มาก จึงนิมนต์พระอาจารย์ไปแนะนำวิธีทำสมาธิให้พนักงานซึ่งทั้งเครียดทั้งกดดันที่ต้องทำยอดขายให้เข้าเป้า 


    เมื่อนำนั่งเสร็จแล้ว พระอาจารย์อธิบายเรื่องการทำงานให้บรรลุเป้าหมายด้วยการนำ        หลักอิทธิบาท ๔ มาใช้ควบคู่กับการทำสมาธิ ซึ่งได้รับความสนใจจากพนักงานมากทั้งสองเรื่อง ตอนท้ายผู้จัดงานบอกว่าอยากมาจัดสัมมนาที่ประเทศไทย แล้วผนวกเรื่องสมาธิเข้ามาด้วย



    วันที่ ๘-๑๐ พฤศจิกายน จัดกิจกรรมที่เมืองคัวนาวาคา 


    เมืองคัวนาวาคาเป็นเมืองที่มีอากาศแบบฤดูใบไม้ผลิตลอดทั้งปี ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป ธรรมชาติก็งดงาม มีทั้งเทือกเขา หุบเขา มีดอกไม้หลากสี มีทุ่งข้าวโพด ข้าวสาลี บ้านเรือน       ก็น่ารัก สีสันสดใส พระอาจารย์บอกว่า เมืองนี้เหมาะสำหรับสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมมาก ทั้งในแง่ภูมิอากาศ และภูมิประเทศที่ห่างจากกรุงเม็กซิโกซิตีเพียง ๒ ชั่วโมง 

 


    วันนี้ อิลเซพาทีมงานชมเมือง และพาไปดูพีระมิดของเผ่าเอสเทค (Aztec) ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อ ๓๐๐ ปีก่อนคริสตกาล และเป็นอารยธรรมหลักของประเทศเม็กซิโก 


    การจัดกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยเทคมิเลนิโอ วิทยาเขตเมืองคัวนาวาคา มีนักศึกษา ๑๒๘ คน เข้าร่วมกิจกรรม พระอาจารย์เริ่มด้วยการอธิบายความสำคัญของสมาธิที่มีต่อการพัฒนาการเรียน และนำนั่งสมาธิไปเกือบ ๔๐ นาที ซึ่ง ๗๐ เปอร์เซ็นต์ของนักศึกษามีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี 


    รอบนี้มีนักศึกษาชายคนหนึ่งถามว่า ถ้าอยากเป็นชาวพุทธต้องทำอย่างไร เขาได้ยินมาว่า ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งสันติภาพ จึงอยากศึกษาและเป็นชาวพุทธบ้าง 



    ต่อไปเป็นการจัดกิจกรรมที่เมืองปัวบลา ระหว่างวันที่ ๑๑-๑๔ พฤศจิกายน 


    เมืองนี้วิวสวยไม่แพ้เมืองคัวนาวาคา แต่หนาวกว่าเล็กน้อย จากเมืองนี้มองเห็นภูเขาไฟ      ที่ยังคงปะทุตั้งเด่นเป็นสง่า สวยงาม ในเมืองปัวบลามีโบสถ์มากมายและมีโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศเม็กซิโกตั้งอยู่ โบสถ์แต่ละโบสถ์เก่าแก่และใหญ่โต ข้างในประดับด้วยทองคำ อลังการมาก 


    วันนี้ เจ้าของร้านเซรามิกที่พระอาจารย์แวะเข้าไปชม บอกว่าอยากถวายถ้วยกาแฟและ    ขอพรให้กิจการเจริญรุ่งเรือง พระอาจารย์เลยจัดให้ตามคำขอ ทำให้ปลาบปลื้มกันมากทีเดียว 


    กิจกรรมเริ่มต้นในช่วงเย็นที่ศูนย์โยคะ รอบนี้มีคนมาเพียง ๑๑ คน ส่วนใหญ่เคยนั่งสมาธิมาแล้ว พระอาจารย์จึงนำนั่งถึง ๕๐ นาที แทบทุกคนบอกว่าสบาย ตัวเบา เห็นแสง หลังจากนั้นมีการขอให้พระอาจารย์สวดให้พร พระอาจารย์จึงสวดชัยมงคลคาถาให้ เขาปลื้มกันมาก นั่งพนมมือรับพรกันด้วยความนอบน้อม



    วันรุ่งขึ้น จัดกิจกรรมที่โรงเรียนซานอังเคล 


    เมื่อพระอาจารย์เดินทางไปถึง ปรากฏว่าเด็ก ๆ ระดับมัธยมต้นจำนวน ๑๕๐ คน นั่งรอกันอยู่แล้ว พวกเขาตื่นเต้นมากเมื่อเห็นพระ


    วันนี้เด็ก ๆ นั่งสมาธิไป ๒๕ นาที เมื่อพระอาจารย์ถามผลการปฏิบัติธรรมก็ยกมือกันใหญ่ บอกว่าเห็นแสงสว่างบ้าง ตัวลอยบ้าง 


    หลังจากนั้นพระอาจารย์เดินทางไปฉันเพลที่มหาวิทยาลัยเทคมิเลนิโอ วิทยาเขตเมืองปัวบลา ที่นี่มีคนมาขอพรด้วย และเมื่อพระอาจารย์อธิบายความหมายของพร เขาก็ตื่นเต้นดีใจกันใหญ่      ประเทศนี้เป็นประเทศเดียวในแถบละตินอเมริกาที่มีคนเข้ามาขอพรจากพระกันมากมาย          พระอาจารย์บอกว่า การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในดินแดนนี้ไม่น่ายาก 



    รุ่งขึ้นทีมงานกลับไปที่โรงเรียนซานอังเคลอีกครั้ง เพื่อนำนั่งสมาธิแก่กลุ่มครูและผู้ปกครอง แต่เมื่อไปถึงก็ต้องแปลกใจ เพราะมีแต่เด็กอนุบาลและประถมเกือบ ๒๐๐ คน และครูอีก ๓๐ คน     พระอาจารย์จึงเปิดวิดีโอ แล้วอธิบายเรื่องสมาธิกับการเป็นเด็กเก่งและดี 


    เด็กโรงเรียนนี้ว่าง่าย บอกให้ทำอะไรก็ทำ บอกให้กลืนดวงดาวเข้าไปในท้อง แล้วมองดู ดวงดาวสว่างนั้นไปเรื่อย ๆ ก็ทำตามได้อย่างง่าย ๆ เมื่อพระอาจารย์ถามผลการปฏิบัติธรรม มีคนตอบว่า สบายเหมือนบินได้ แถมยังเห็นดวงดาวกันถ้วนหน้า บางคนบอกว่า เหมือนไม่มีตัวเองอยู่ตรงนี้เลย หลังจากนั้นพระอาจารย์ก็ปิดท้ายด้วยเรื่องพระคุณพ่อแม่ 

 


    เลิกกิจกรรมแล้ว มีคุณแม่พาลูกสาวมาขอพร บอกว่าลูกเป็นโรคลมชัก พระอาจารย์เลยให้นึกถึงความดีที่ทำมา และสวดให้พร เขาปลื้มขนาดร้องไห้เลยทีเดียว



    ภารกิจวันต่อมา ทีมงานกลับไปที่มหาวิทยาลัยเทคมิเลนิโออีกครั้ง 


    รอบนี้มีนักศึกษามหาวิทยาลัยและผู้ปกครองมาร่วมกิจกรรม ๑๖๐ คน พระอาจารย์อธิบายถึงความสำคัญของสมาธิว่าช่วยแก้ปัญหาการเรียนและชีวิตได้อย่างไร หลังจากนั้นนำนั่งสมาธิ      ๔๕ นาที ส่วนใหญ่มีประสบการณ์ที่ดี มีคนหนึ่งถามว่า นั่งไปสักพักรู้สึกตัวขยายแล้วก็หดลง     เขาทำผิดหรือไม่ ส่วนอีกคนถามว่า นั่งแล้วเห็นแสงสว่างภายใน มีความสุข แล้วแสงก็หายไป  เป็นความมืดแทน เขาทำผิดไหม ต้องทำอย่างไรต่อ 


    ค่ำวันนี้ ไปจัดกิจกรรมที่ศูนย์โยคะ มีคนเข้าร่วมกิจกรรม ๑๐ คน ส่วนใหญ่หน้าตาเคร่งเครียด พระอาจารย์นำนั่งนานถึง ๑ ชั่วโมง มีผู้หญิงคนหนึ่งบอกว่า รู้สึกว่าครึ่งตัวล่างหายไป เมื่อเลิกนั่งแล้ว พวกเขาขอให้พระอาจารย์สวดให้พรด้วย


๑๐


    วันต่อมาเป็นกิจกรรมที่โรงเรียนไซมอนโบลิวาร์ ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ ๒ แล้ว 


    รอบแรกเป็นรอบของนักเรียนประถม ๑๑๐ คน บรรยากาศในโรงเรียนนี้เบิกบานเป็นพิเศษ เด็กยกมือแย่งกันตอบคำถามเรื่องสมาธิกับพระอาจารย์กันด้วยความกระตือรือร้น


    รอบต่อไปเป็นเด็กมัธยมปลายและผู้ปกครอง ทั้งหมดมีประมาณ ๔๐ คน ที่น่าแปลกคือเด็กดูหน้าตาไม่ค่อยร่าเริง แถมผู้ประสานงานยังขอให้พระอาจารย์ช่วยสอนเรื่องความเคารพด้วย 


    รอบนี้นั่งสมาธิ ๔๐ นาที บรรยากาศเงียบ ตั้งใจนั่งกันดี ส่วนใหญ่ดูผ่อนคลาย หลายคน           รู้สึกตัวหาย ตัวลอย ตัวขยาย เมื่อพระอาจารย์ถามว่าใครเห็นดวงอาทิตย์ในท้องบ้าง ก็ยกมือ    เกินครึ่ง เรียกว่าไม่ธรรมดาทีเดียว

 


    วันนี้ พระอาจารย์สอนเรื่องความเคารพ ว่ามาจากการมองเห็นความดีของผู้อื่น เริ่มต้นจากการเรียนรู้ที่จะเคารพตนเองให้เป็น ด้วยการสร้างความดีให้เกิดขึ้นในตัว เด็กกลุ่มนี้ตั้งใจฟังมาก ทำให้อาจารย์ใหญ่แปลกใจ เพราะปกติเด็กพวกนี้ไม่ใส่ใจฟังอะไรทั้งนั้น


๑๑


    จัดปฏิบัติธรรม ๓ วัน ที่เมืองแอทลิโก ระหว่างวันที่ ๑๕-๑๗ พฤศจิกายน 


    คนที่มาร่วมกิจกรรมมีทั้งหมด ๑๒ คน พวกเขาทราบข่าวจากสื่อออนไลน์ ส่วนใหญ่เป็น   ผู้หญิงกลางคนที่ดูเครียด ๆ ที่มาร่วมกิจกรรมก็เพราะอยากมาค้นหาคำตอบให้ชีวิต อยากเข้าใจตัวเอง 


    ผลการปฏิบัติธรรมของกลุ่มนี้ถือว่าใช้ได้ทีเดียว เช่น รู้สึกเหมือนเข้าไปในอุโมงค์ที่ปลายทางมีแสงสว่าง รู้สึกมีความสุขมาก แต่เมื่อพยายามเข้าไปหาแสง แสงกลับหายไป บางคนเห็นแสงสีต่าง ๆ ที่บริเวณด้านหน้า รู้สึกสบาย รู้สึกถึงความโล่งว่าง บางคนเหมือนตัดขาดจากโลกภายนอก รู้สึกเหมือนตกจากที่สูง บางคนรู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งไปทั่วตัว ฯลฯ


    รอบนี้พระอาจารย์เน้นเทศน์เรื่องความเข้าใจชีวิต การปล่อยวาง การรักตัวเอง และการทำให้ตัวเองมีความสุขอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งน่าจะโดนใจผู้ฟังมาก พวกเขาจึงนั่งซับน้ำตาเป็นระยะ ๆ   ก่อนพระอาจารย์จะกลับก็มีคนมาขอพร แถมบางคนยังเอาของมาให้เสกด้วย   


๑๒


    วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน จัดกิจกรรมสุดท้ายที่กรุงเม็กซิโกซิตี ที่มหาวิทยาลัยเทคมิเลนิโอ วิทยาเขตเม็กซิโกซิตี 


    ปีนี้ ทีมงานทุ่มให้กับมหาวิทยาลัยเทคมิเลนิโอกันเต็มที่ รอบนี้มีนักศึกษาและอาจารย์เข้าร่วม กิจกรรมประมาณ ๒๐๐ คน เปิดรายการด้วยการกล่าวต้อนรับจากท่านอธิการบดี ท่านกล่าวว่า มหาวิทยาลัยพยายามเปิดกว้างให้นักศึกษามีโอกาสพัฒนาศักยภาพ ทั้งเรื่องการพัฒนาบุคลิกภาพ ความรู้ และคุณธรรมควบคู่กันไป เมื่อถึงคิวพระอาจารย์ ท่านก็อธิบายเชื่อมต่อว่า จุดเริ่มต้นของการพัฒนาศักยภาพอยู่ที่การพัฒนาจิตใจ ซึ่งเรียกความสนใจก่อนนั่งสมาธิได้ดีทีเดียว 


    รอบนี้ พระอาจารย์นำนั่งไปเกือบ ๔๐ นาที ผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า ๓๐ เปอร์เซ็นต์ บอกว่าเห็นแสงที่กลางท้อง 


    วันนี้ กลุ่มอาจารย์และนักศึกษาซึ่งมาจากชมรมพัฒนาคุณภาพมนุษย์บอกว่าชอบและดีใจมากที่ได้มาร่วมกิจกรรม ส่วนท่านอธิการบดีประทับใจมาก บอกว่าเนื้อหาที่บรรยายสอดคล้องกับหลักการของมหาวิทยาลัย อยากให้ทีมงานมาอีก ยินดีต้อนรับเป็นอย่างยิ่ง

 


๑๓


    หลังจากทีมงานพีซเรฟโวลูชันกลับมาจากการจัดกิจกรรมในประเทศเม็กซิโกแล้ว มาเซลา ผู้ประสานงานของพีซเรฟโวลูชัน ได้รับการติดต่อจากมหาวิทยาลัยเทคมิเลนิโอให้จัดทำหลักสูตร Mindfulness Course ซึ่งก็คือ คอร์สสติกับสมาธินั่นเอง แต่ที่ใช้คำนี้เพราะฟังดูเป็นกลางกว่าคำว่า Meditation ที่หลายคนยังเข้าใจว่าเกี่ยวกับศาสนาอยู่ โดยทางมหาวิทยาลัยจะเชิญมาเซลา       และอิลเซไปทดลองสอนหลักสูตรนำร่องใน ๔ วิทยาเขตของเมืองมอนเตอเรย์ ถ้าหากหลักสูตรนำร่องประสบความสำเร็จดี ทางมหาวิทยาลัยมีแผนให้จัดการสอนแก่ ๓๐ วิทยาเขตทั่วประเทศซึ่งมีนักศึกษาถึง ๑๒,๐๐๐ คน เป็นเวลา ๑๕ สัปดาห์ และพร้อมที่จะออกค่าเดินทาง ค่าที่พัก และค่าอาหารของทีมงานตลอดโครงการ 


    เรียกได้ว่างานนี้จะเป็นโมเดลสำคัญในการก้าวไปสู่ความสำเร็จอันยั่งยืนอีกจุดหนึ่งของ     โครงการพีซเรฟโวลูชันเลยทีเดียว และจะทำให้ได้เครดิตอย่างมหาศาลกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ไม่เฉพาะในละตินอเมริกาเท่านั้น


๑๔


    ตลอดเวลากว่า ๗ ปี ที่ทีมงานพีซเรฟโวลูชันทำภารกิจเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุก         แก่ชาวต่างประเทศ ไม่ว่าในประเทศใดก็ตาม มิได้มุ่งเน้นที่จะไปเปลี่ยนศาสนาของใคร แต่มุ่งนำคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปช่วยกำจัดทุกข์แก่ชาวโลก โดยสอนวิธีปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง คือ พระรัตนตรัยภายใน และเมื่อใดก็ตามที่เขาเหล่านั้นสามารถเข้าถึงความสุขภายในไปจนกระทั่งเข้าถึงพระรัตนตรัยภายในได้แล้ว เขาจะตระหนักถึงคุณค่าอันไม่มีประมาณของศาสนาพุทธ และจะเกิดศรัทธาที่แท้จริงในพระพุทธศาสนา ที่เรียกว่า "ตถาคตโพธิสัทธา"  จากนั้นเขาจะเป็นกำลังหลักในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปสู่ผู้คนในท้องถิ่นต่อไป ดังเช่น พีซเอเจนต์และพีซอาร์คิเทคที่ทำหน้าที่เผยแผ่อยู่ตามประเทศต่าง ๆ ในปัจจุบัน และบรรพบุรุษชาวไทยในอดีตที่เรียนรู้คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจากสมณทูตและนำมาปฏิบัติตาม เมื่อเห็นผลด้วยตนเองแล้ว ก็ช่วยกันเผยแผ่พระพุทธศาสนาจนกระทั่งเจริญรุ่งเรืองและสืบทอดมาถึงปัจจุบัน

 
    กราบอนุโมทนาบุญทีมงานพีซเรฟโวลูชัน และทุก ๆ ทีมงาน ที่จาริกไปเพื่อประโยชน์       เพื่อความสุขแก่มหาชนชาวโลกตลอดมา 

 

 

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล