ฉบับที่ ๑๗๓ เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๐

หลักฐานธรรมกาย ในคัมภีร์พุทธโบราณ (ตอนที่ ๒๒)

บทความพิเศษ
เรื่อง : พระสุธรรมญาณวิเทศ วิ. (สุธรรม สุธมฺโม)
และคณะนักวิจัย DIRI

 

หลักฐานธรรมกาย ในคัมภีร์พุทธโบราณ (ตอนที่ ๒๒),เนื้อนาใน,อยู่ในบุญ

หลักฐานธรรมกาย ในคัมภีร์พุทธโบราณ (ตอนที่ ๒๒),เนื้อนาใน,อยู่ในบุญ

            เดือนนี้เป็นเดือนสำคัญเดือนหนึ่งในชีวิตการสร้างบารมีของผู้เขียน ทำให้ผู้เขียนย้อนระลึกนึกถึงภารกิจสำคัญชิ้นหนึ่งที่ได้รับมอบหมายมาเมื่อ ๑๕-๑๖ ปีมาแล้ว นั่นคือภารกิจสืบค้นหลักฐานธรรมกายไปทั่วโลก(ตามดำริและปณิธานของหลวงพ่อธัมมชโยที่มีมายาวนานกว่า ๓๖ ปีแล้ว) ด้วยภารกิจดังกล่าว ทำให้ผู้เขียนและคณะพยายามดำเนินการตามพันธกิจ ๗ ขั้นตอนที่ได้รับมอบหมายมานั้นให้คืบหน้าเรื่อยมา (แม้ว่าจะเกิดปัญหาอุปสรรคทำให้ต้องว่างเว้นไปนานถึง ๒๐ ปีก็ตาม)

 

           เริ่มจากการสรรหาบุคลากร การบ่มเพาะบุคลากรส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของบุคลากรให้มีความพร้อมทั้งในด้านการอ่าน การแปล การศึกษาหลักฐานทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์ การร่วมทำงานวิจัยตลอดจนการนำผลการศึกษาวิจัยและหลักฐานธรรมกายไปนำเสนอและตีพิมพ์เผยแพร่ในเวทีระดับนานาชาติ การเข้าร่วมประชุมสัมมนาทางวิชาการพระพุทธศาสนา ฯลฯซึ่งกระบวนการต่าง ๆ เหล่านี้ถือเป็นความพยายามที่สำคัญในการทำให้พระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกายปักหลักมั่นคงในระดับสากลต่อไปได้

         อนึ่ง ปีนี้ยังนับเป็นปีสำคัญอีกปีหนึ่งของลูกศิษย์หลานศิษย์ในวิชชาธรรมกายด้วยกล่าวคือ เป็นปีแห่งการครบ ๑๐๐ ปี แห่งการบรรลุธรรมของพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกายซึ่งเมื่อ ๑๐๐ ปีก่อนหน้านี้ พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนีเคยตั้งสัตยาธิษฐานเอาชีวิตเปน็ เดมิ พนั ในการปฏิบัติสมาธภิาวนาจนบรรลุธรรม เข้าถึงพระธรรมกายในวันเพ็ญขึ้น ๑๕ค่ำ เดือน ๑๐ ณ อุโบสถวัดโบสถ์บน บางคูเวียงดังที่เราทราบกันมาแล้ว ดังนั้นสำหรับผู้เขียนแล้ว การที่ยังคงมุ่งมั่นดำเนินการสืบค้นหลักฐานธรรมกายของผู้เขียนและทีมงานจึงมีความสำคัญมาก เพราะในด้านหนึ่งย่อมเท่ากับเป็นการสานต่อภารกิจของพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ให้เป็นจริงอีกทางหนึ่ง กล่าวคือ เป็นการยืนยันถึงความแท้จริงและการมีอยู่จริงของวิชชาธรรมกายในภาคปริยัติ (วิชาการ) ให้ปรากฏออกมา ซึ่งทั้งผู้เขียนและทีมงานสถาบันวิจัยนานาชาติธรรมชัย (DIRI) ทุกคนต่างก็มีความตระหนักและมุ่งมั่นมากยิ่งขึ้นในการทำงานอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันเช่นเดียวกัน เพื่อเป็นการบูชาคุณพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี ครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกายให้ดีกว่าดีที่สุดนั่นเอง ทั้งนี้เพราะเราต่างทราบกันดีว่า หากทุก ๆ คนในโลกมีความรู้ความเข้าใจและเชื่อมั่นในวิชชาธรรมกาย และมีโอกาสน้อมนำไปปฏิบัติจนบังเกิดผลอย่างกว้างขวางแล้วสันติภาพและสันติสุขที่แท้จริงย่อมจะเกิดขึ้นทั่วโลกได้อย่างแน่นอน     

 

คณะนักวิจัยเข้าเยี่ยมชมวิธีการดูแลรักษาคัมภีร์โบราณ ของมหาวิทยาลัย Oslo นอร์เวย์

    เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่ผู้เขียนและคณะนักวิจัยสถาบันวิจัยนานาชาติธรรมชัย(DIRI) ได้รับโอกาสและความเมตตาจากนักวิชาการสำคัญทางพระพุทธศาสนาท่านต่างๆโดยเฉพาะจากแวดวงวิชาการตะวันตก ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วเป็นการเข้าไปร่วมศึกษา ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องราวพระสูตรต่างๆที่ปรากฏในคัมภีร์โบราณทางพระพุทธศาสนาระหว่างกันมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความคุ้นเคย และเกิดความซาบซึ้งในการจะเผยแผ่ความรู้ความเข้าใจในพระพุทธศาสนา (ที่พบในคัมภีร์โบราณ) ออกสู่โลกและสาธารณชนในช่วงเวลาต่อ ๆ มาจนปัจจุบัน
      คณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญชาวตะวันตกที่มีความเมตตาต่อคณะนักวิจัยของสถาบันวิจัยนานาชาติธรรมชัย (DIRI) มาอย่างต่อเนื่องนั้นได้แก่ ศาสตราจารย์ Jens Braarvig และศาสตราจารย์ Richard Salomon ผู้เชี่ยวชาญด้านระวัติศาสตร์ ภาษาโบราณ และคัมภีร์โบราณในพระพุทธศาสนา

 

ศาสตราจารย์ Jens Braarvig

          ศาสตราจารย์ Richard Salomon

       ท่านทั้งสองเป็นหนึ่งในจำนวนคณาจารย์มากมายที่ให้ความอนุเคราะห์ร่วมมือกับสถาบันตลอดมา โดยเปิดโอกาสให้นักวิจัยของสถาบันฯ (อาทิ พระวีรชัย เตชงฺกุโรและ ดร.ชนิดา จันทราศรีไศล1 เป็นต้น) ได้เข้าไปร่วมอ่านและศึกษาคัมภีร์โบราณทางพระพุทธศาสนามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่คัมภีร์โบราณแต่ละชุดล้วนเป็นทรัพยากรที่หายากและประเมินค่ามิได้ของโลก เป็นสมบัติทิพย์ที่บรรจุความรู้ เรื่องราว และหลักฐานสำคัญๆของพระพุทธศาสนาไว้มากมาย การได้รับโอกาสและความไว้วางใจดังกล่าวจึงเป็นประวัติศาสตร์อันงดงามที่ควรบันทึกไว้

          สิ่งที่เหมือนกันอย่างยิ่งประการหนึ่งของท่านศาสตราจารย์ Jens Braarvig และศาสตราจารย์ Richard Salomon ก็คือ การที่ท่านทั้งสองต่างก็มีความรักในการทำงานศึกษาค้นคว้าคัมภีร์โบราณอย่างสุดจิตสุดใจ แม้แต่ในวันหยุดประจำสัปดาห์ ท่านก็ยังเดินทางมาทำงาน มาอ่าน วิเคราะห์เรื่องราวที่ค้นพบอย่างไม่อิ่ม ไม่เบื่อ ท่านมีทัศนะว่า การถ่ายทอดความรู้ความเชี่ยวชาญในการอ่านคัมภีร์โบราณนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะความรู้เหล่านี้คือกุญแจที่จะช่วยไขความจริงและประวัติศาสตร์ของพระพุทธศาสนาในยุคก่อน ๆ ให้กระจ่างออกมาได้ ซึ่งการได้อ่าน ได้ตีความ และสังเคราะห์เรื่องราวที่ถูกบันทึกไว้นี้ถือเป็น“ความสุขของชีวิต” ในหลาย ๆ ครั้ง ท่านปรารภว่า “การได้อ่าน ได้แปล ข้อความพระสูตรต่าง ๆ ที่พบนั้น ทำให้รู้สึกเสมือนว่าได้ยินเสียงของพระภิกษุผู้คงแก่เรียนมาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสมัยพุทธกาลให้ท่านฟังโดยตรงเลยทีเดียว” ซึ่งทำให้ท่านรู้สึกซาบซึ้งอย่างยิ่งและแน่นอนที่สุดว่า คุณค่าที่เกิดขึ้นนี้ไม่อาจนำทรัพย์หรือสิ่งอื่นใดมาซื้อหาหรือทดแทนได้

     ด้วยความโชคดีมีโอกาสที่ดีๆได้พบผู้รู้ที่จิตใจดีเช่นนี้ ทำให้การทำงานสืบค้นหลักฐานธรรมกายของทีมงานฯ เกิดความสำเร็จและคืบหน้ามาโดยลำดับ ทำให้สถาบันผลิตผลงานและตีพิมพ์ชิ้นงานวิจัยเกี่ยวกับหลักฐานธรรมกายที่ศึกษาโดยตรงมาจากคัมภีร์พุทธโบราณอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งศักยภาพในการสร้างนักวิจัยที่อ่านและศึกษาคัมภีร์โบราณ ภาษาโบราณ ก็เพิ่มมากขึ้นอย่างเป็นอัศจรรย์ ซึ่งในอนาคตนักวิจัยหลายๆคนหลายๆท่านที่ศึกษาและทำงานคลุกคลีอยู่กับคัมภีร์โบราณในขณะนี้ ก็จะเป็นส่วนหนึ่งของการ “ปักหลักพระพุทธศาสนา” “ปักหลักวิชชาธรรมกาย” เชื่อมโยงความรู้ภาคปริยัติ ปฏิบัติปฏิเวธ ให้สำเร็จสมบูรณ์ยิ่งขึ้นในอนาคต   

 

ร่วมประชุมสหภาพพระธรรมทูตไทย-โอเชียเนีย ณ เมืองไครสต์เชิร์ช นิวซีแลนด์ ๑๙-๒๐ มีนาคม ๒๕๖๐

 

มอบทุนการศึกษาที่ Department of Theology and Religion มหาวิทยาลัย Otago นิวซีแลนด์

 

อาคารสำนักงานแห่งใหม่ของสถาบันวิจัยนานาชาติธรรมชัย (DIRI) ตั้งอยู่ตรงข้ามมหาวิทยาลัย Otago
เมืองดันนีดิน นิวซีแลนด์

     ในส่วนของผู้เขียนเองก็ได้พยายามสร้างและให้การสนับสนุนส่งเสริมนักศึกษา   นักวิจัยเพิ่มขึ้นตลอดมา โดยตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา (ในเดือนกุมภาพันธ์- มีนาคม ๒๕๖๐)ก่อนเดินทางไปประกอบศาสนกิจที่ประเทศอังกฤษ ผู้เขียนได้ร่วมทำบุญใหญ่กับวัดสาขาทั่วทุกแห่งในโอเชียเนียในวาระโอกาสอายุวัฒนมงคล ๖๕ ปี ได้ร่วมพัฒนาวัดทั้งที่เมืองโอคแลนด์ ดันนีดิน เวลลิงตัน และซิดนีย์ ได้เข้าร่วมประชุมสหภาพพระธรรมทูตไทยโอเชียเนียในระหว่างวันที่ ๑๙-๒๐ มีนาคมพ.ศ. ๒๕๖๐ พร้อมทั้งร่วมมอบทุนการศึกษา แก่นักศึกษาที่สอบได้คะแนนดีเยี่ยมในแต่ละปีที่ Department of Theology and Religionณ มหาวิทยาลัย Otago ประเทศนิวซีแลนด์ระหว่างนั้นได้สนับสนุนการจัดหาทุนเพื่อการจัดงาน “วิสาขบูชาแห่งออสเตรเลีย” พร้อมกันไปด้วย ทำให้ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา การปฏิบัติศาสนกิจส่วนใหญ่ดูจะเป็นการมุ่งเน้นไปในเรื่องการบ่มเพาะและส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร (ทางพระพุทธศาสนา)ร่วม ๆ ไปกับการร่วมประชุมเสวนา และการประสานความร่วมมือกับองค์กรทางพระพุทธศาสนาอื่น ๆ ซึ่งก็ถือว่าเป็นส่วนสำคัญมากในพันธกิจ ๗ ขั้นตอนที่ได้ดำเนินการตลอดมาเช่นกัน

 

บรรยากาศภายในห้องสมุดของมหาวิทยาลัย Oxford

       จนเมื่อผู้เขียนเดินทางมาที่ประเทศอังกฤษในช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา    ก่อนที่ผู้เขียนจะเดินทางไปที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด (Oxford University) ได้แวะเยี่ยมให้กำลังใจพระภิกษุทีมงาน (พระเกียรติศักดิ์กิตฺติปัญฺ โญ) ที่กำลังศึกษาและร่วมทำงานสืบค้นหลักฐานธรรมกายอยู่ที่มหาวิทยาลัยลอนดอนก่อนสิ่งอื่น และได้ทราบว่าผลการศึกษาและค้นคว้าของท่านมีความก้าวหน้า ประสบความสำเร็จด้วยดีเป็นที่น่าปลื้มใจในระหว่างการไปเยี่ยมเยียน ผู้เขียนได้ใช้เวลาช่วงหนึ่งเพื่ออ่านและศึกษาค้นคว้าข้อมูลภายในห้องสมุดของมหาวิทยาลัยด้วย ทำให้พบเห็นข้อมูลระดับปฐมภูมิที่เก่าแก่และสำคัญหลายเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่องานระพุทธศาสนา

 

อาณาบริเวณต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย Oxford

    ได้พบเห็นและสัมผัสบรรยากาศความเป็นวิชาการในอาณาบริเวณต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย ทั้งที่มหาวิทยาลัย Londonและมหาวิทยาลัย Oxford โดยเฉพาะที่ KebleCollege ภายในมหาวิทยาลัย Oxford นั้นผู้เขียนประทับใจในความสะอาดเป็นระเบียบการอนุรักษ์มรดกทางสถาปัตยกรรมและวิถีวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมไว้อย่างมาก ทำให้ระลึกถึงเรื่องการปลูกฝังแนวคิด “ความดีสากล๕ ประการ” (UG 5) ที่คุณครูไม่เล็กท่านดำเนินการมาโดยตลอด ว่าช่างสอดคล้องกับวัฒนธรรมทางสังคมของที่นี่อย่างมาก ทำให้เกิดแรงบันดาลใจอย่างมากมายที่จะส่งเสริมบรรยากาศทางวิชาการในพระพุทธศาสนา     ในมิติต่าง ๆ ขึ้นอีกมากในอนาคต

 

    ร่วมหารือกับท่านศาสตราจารย์ Richard Gombrich ณ ศูนย์พุทธศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด
(Oxford Centre for Buddhist Studies)

  นอกจากการมาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจทีมงานและนักวิจัยแล้ว ในการเดินทางมาประเทศอังกฤษในครั้งนี้ ผู้เขียนยังได้ร่วมหารือรายละเอียดความร่วมมือทางวิชาการกับท่านศาสตราจารย์ Richard Gombrich ที่ศูนย์พุทธศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด(Oxford Centre for Buddhist Studies) ในหลาย ๆประเด็นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสนับสนุนส่งเสริมการศึกษาภาษาบาลี การสนับสนุนเรื่องการทำงานวิจัยในประเด็นใหม่ๆที่สำคัญๆฯลฯเนื่องด้วยท่านศาสตราจารย์ RichardGombrich ถือเป็นบุคคลที่ทรงคุณค่าในวงการพระพุทธศาสนาอย่างยิ่ง ศิษยานุศิษย์ของท่านที่มีอยู่จำนวนมากนั้นก็ล้วนแต่ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยสำคัญไม่น้อยกว่า ๒๐ แห่ง จำนวนกว่า ๔๐ ท่านซึ่งเครือข่ายนักวิชาการดังกล่าวก็ยังคงมีบทบาทผลิตองค์ความรู้ใหม่ ๆ การค้นคว้า  ใหม่ ๆ ออกมาอยู่ตลอดเวลา การได้มาเยี่ยมเยียนท่านศาสตราจารย์ Richard Gombrichครั้งนี้ จึงนับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะในแง่ของการส่งเสริมสังคหวัตถุธรรมและสามัคคีธรรมระหว่างกัน

 

ลงนามสัญญาความร่วมมือสนับสนุนการศึกษากับมหาวิทยาลัย Otago นิวซีแลนด์

         ก่อนที่ผู้เขียนจะเดินทางกลับไปยังประเทศนิวซีแลนด์ ผู้เขียนได้บันทึกถึงการเดินทางครั้งนี้ไว้ว่าเป็นการเดินทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่คุ้มค่า ทั้งนี้มิได้หมายเอาแต่เพียงความสำเร็จในการแสวงหาความร่วมมือทางวิชาการระหว่างกันของผู้เขียนและผู้ทรงความรู้ต่างๆ หรือความสำเร็จในการส่งเสริมการศึกษาของทีมงานเท่านั้น แต่ในความรู้สึกของผู้เขียนแล้ว การเดินทางครั้งนี้ยังคุ้มค่าต่อการ          “ค่อยๆต่อภาพความสำเร็จของเรื่องราวหลักฐานธรรมกายให้เป็นรูปธรรมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย”ในทัศนะของผู้เขียนแล้ว แม้ว่าในระหว่างการเดินทาง เราอาจไม่พบสิ่งที่ระบุเรื่องราวของ “ธรรมกาย” ได้ในทันทีทุก ๆ ครั้งแต่หลักฐานธรรมกายที่มีอยู่ทั่วทุกมุมโลกนั้นมักจะ “ดำเนินเข้ามาหากันทีละก้าว ๆ” อย่างค่อยเป็นค่อยไป เช่นเดียวกับที่เราเห็นในวิถี การเผยแผ่และถ่ายทอดวิชชาธรรมกายของพระเดชพระคุณหลวงปู่ พระมงคลเทพมุนี (สดจนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ตลอดชีวิตการสร้างบารมีของท่านก็เป็นการค่อยๆ ต่อภาพความสำเร็จของหลักฐานธรรมกายให้เกิดขึ้นเช่นเดียวกับที่เรากำลังทำต่างกันตรงที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านดำเนินจากปริยัติเข้าไปสู่การปฏิบัติและสำเร็จลงที่ปฏิเวธ ขณะที่ยุคของเรากำลังเป็นการ “ยืนยันย้อนกลับจากปฏิเวธนั้นด้วยปริยัติธรรม” ให้สอดคล้องกันทั้งนี้ก็เพื่อให้สาธุชนผู้มีบุญในอนาคตได้มีข้อมูล มีความเชื่อมั่นมากเพียงพอที่จะเข้ามาพิสูจน์ มาศึกษา และค้นพบความจริงอันไพบูลย์ภายในตน เพราะธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นเป็นสิ่งที่อยู่เหนือกาลเวลา(อกาลิโก) จะต้องรู้เห็นได้ด้วยตนเองจากการปฏิบัติ (สันทิฏฐิโก) เป็นของที่มีจริงและดีจริง

         (เอหิปัสสิโก) ผู้อื่นจะพลอยรู้พลอยเห็นไปด้วยมิได้ (ปัจจัตตัง เวทิตตัพโพ วิญญูหิ) ดังนี้

      ในท้ายที่สุดนี้ ผู้เขียนขอน้อมนำบุญทุก ๆ บุญที่ได้กระทำมาด้วยดีแล้วรวมกับบุญที่ตั้งใจสานงานสืบค้นหลักฐานธรรมกายนี้ถวายเป็นพุทธบูชา ถวายเป็นกตัญญูบูชาแด่มหาปูชนียาจารย์วิชชาธรรมกาย กับทั้งขอให้บุญนี้เป็นบุญใหญ่แผ่ไปถึงยังพุทธศาสนิกชนและท่านสาธุชนทุกท่าน ให้มีดวงปัญญา สว่างไสว รู้แจ้งเห็นจริงในปัญญาตรัสรู้ธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ติดตามตามติดพระเดชพระคุณหลวงปู่ หลวงพ่อธัมมชโย และมหาปูชนียาจารย์ทุกท่านไปจนตราบกระทั่งเข้าถึงที่สุดแห่งธรรมเทอญฯ ขอเจริญพร

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล