ฉบับที่ ๑๗๗ เดือนกันยายน ๒๕๖๐

ชีวิตหลังความตายและก่อนมาเกิด

ข้อคิดรอบตัว
เรื่อง : พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑฺโฒ)

 

   ชีวิตหลังความตายและก่อนมาเกิด

ชีวิตหลังความตายและก่อนมาเกิด,เนื้อนาใน,อยู่ในบุญ

ขณะใกล้ตาย สภาพจิตใจของคนเราเป็นอย่างไรบ้าง ?

     เรื่องความตาย ชาวโลกมีความเห็นต่างกัน ๓ แบบ บางคนบอกว่า ถ้าสมองตาย(สมองหยุดทำงาน) ก็ถือว่าตาย กรณีนี้ในทางพระพุทธศาสนาถือว่ายังไม่ตาย เพราะสมองเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ใจเขายังรับรู้อยู่ภายใน เขายังไม่ตาย กรณีที่สองคือลมหายใจหยุดหรือสิ้นลม ประเด็นนี้เกือบทั้งโลกถือว่าตายแล้ว แต่เคยมีข่าวว่าเอาร่างใส่โลงไว้แล้วสวดไปวันสองวันอยู่ๆฟื้นขึ้นมา แล้วอยู่ต่อเป็นปีๆก็มี อาการสิ้นลมส่วนใหญ่ ๙๙.๙๙ เปอร์เซ็นต์คือตาย ทางการแพทย์ถือว่าหยุด หายใจเพียงไม่กี่นาทีก็ตายแล้ว สมองขาด ออกซิเจนไปเลี้ยงก็ต้องตายแล้ว แต่มีบางกรณีแค่เกิดการชะงักงันบางส่วน เราลองนึกถึงเต่าจำศีล ทำไมเต่าจำศีลอยู่ได้หลายเดือน หรือพวกกบเขียดในหน้าแล้งก็จำศีลได้เป็นเดือนๆอย่างนี้คือการลดเมตาบอลิซึมทางร่างกาย จนเหลือต่ำที่สุด จนกระทั่งแค่การซึมของออกซิเจนผ่านผิวหนัง ก็พอจะหล่อเลี้ยงให้เซลล์ต่าง ๆ ไม่ตาย ยังคงสภาพอยู่ได้ กรณีแบบนี้ก็อยู่ในภาวะที่คล้ายๆกัน คือเผอิญเกิดภาวะพิเศษที่อัตราเมตาบอลิซึมของเขาลดต่ำที่สุดออกซิเจนเข้าไปเบาๆ ลมอาจจะไม่ขาดทีเดียวแต่น้อยกว่าทั่วไปเยอะ จนกระทั่งสังเกตไม่ได้ เลยคิดว่าสิ้นลมแล้ว แต่ความจริงลมยังเดินอยู่อย่างเบาบางมาก รวมทั้งได้รับออกซิเจนทางผิวหนังด้วย ก็เลยอยู่ได้ แต่มีเพียงหนึ่งในล้าน

     คราวนี้มาถึงกรณีที่คนตายแล้วกันบ้าง พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ท่านปฏิบัติธรรม จนกระทั่งไปเห็นว่า วิญญาณหรือกายละเอียด หลุดจากขั้วต่อที่ฐานที่ ๗ ซึ่งเป็นฐานที่ตั้งของใจ พอหลุดออกมาจากขั้วแล้ว ก็ไม่มีอะไรเชื่อมโยงอีก คือทิ้งฐานเลย ทิ้งกายหยาบแล้วหลุดออกไปเลย อาการทางหยาบที่เรามองเห็นเวลาจะตาย คือเขาจะหายใจ ๓ เฮือก เหมือนคนจะจมน้ำ แล้วตัวก็ยวบลงไป อย่างนี้กายละเอียดหลุดจากขั้วแล้ว ตายสนิท ไม่ต้องไปดูลมว่าหยุดหรือไม่หยุด สมองตายหรือไม่ตาย ขึ้นมา๓ เฮือกแล้วยวบลงไปเมื่อไรก็เรียบร้อย เอานิ้วไปอังดูที่จมูกไม่มีลมหายใจแล้ว ชีพจรราบเรียบ คลื่นสมองราบเรียบ สัญญาณชีวิตทั้งหมดหยุดลง กายละเอียดก็ไปหาที่เกิดใหม่ ตามแรงบุญแรงบาปที่สร้างเอาไว้ ถ้าคนไหนสร้างบุญไว้ดี ใจเป็นบุญเป็นกุศล อาการ ๓เฮือกจะเป็นแบบเหมือนกับค่อยๆสิ้นลมไป อย่างสงบ นุ่มนวล คนไหนที่ทำบาปทำกรรม เอาไว้เยอะ ๓ เฮือกจะรุนแรง บางทียังไม่ทัน ๓ เฮือก ก็เกิดอาการประสาทหลอนว่ามีใครจะมาทำร้าย มีอะไรมาขู่ให้ตกใจกลัว มีภาพมีเสียงมาหลอน นั้นเป็นคตินิมิตมาบีบคั้น เช่นมีภาพของภูมิที่จะไปเกิดในนรกมาแสดงให้เห็นก็ตกอกตกใจกลัว ถึงตอนจะ ๓ เฮือกก็เหมือนโดนกระชากหลุดไปอย่างรุนแรง


เมื่อตายไปแล้ว เรากำหนดชะตาชีวิต หลังความตายได้หรือไม่ ?

     ชีวิตหลังความตายถ้าหากไปเกิดเป็นเทวดา นางฟ้า หรือไปตกนรกเป็นเปรตอสุรกายนั้น เป็นช่วงเสวยผลบุญผลบาป มีกาย เป็นกายละเอียดทั้งเทวดาและสัตว์นรก เวลากายละเอียดประกอบกรรมแล้วมีผลเหมือนกัน

    แต่มีผลน้อย กรณีของสัตว์นรกแทบไม่มีโอกาสทำกรรมดีเลย เพราะว่าถูกเชือด เฉือน หั่น สับ ถูกทำร้ายตลอดเวลา เป็นช่วงที่เสวยผลบาป จนกว่าวิบากกรรมจะเบาบาง จากมหานรกก็มาอุสสทนรกขุมบริวาร พ้นจากอุสสทนรกก็มาอยู่ที่ยมโลก พ้นจากยมโลกแล้วก็มาเป็นเปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉานบ้าง

     แต่ตอนที่มีกายหยาบไม่ว่าเกิดเป็นคนหรือเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นตอนที่มีโอกาส ในการสร้างบุญสร้างกรรมได้อีก ถ้าเป็นสัตว์เดรัจฉานโอกาสสร้างกรรมเยอะกว่าสร้างบุญ แต่ไม่ใช่สร้างบุญไม่ได้ พระโพธิสัตว์บางชาติเกิดเป็นสัตว์ ก็ยังทำความดีได้ แต่ไม่เท่ามนุษย์เพราะมนุษย์ทำความดีได้มากที่สุด แต่ถ้าทำบาปก็ที่สุดเช่นกัน ชนิดที่สร้างอนันตริยกรรมจนธรณีสูบได้

 ส่วนกายละเอียดที่จะพอมีโอกาสทำความดีบ้าง ก็คือพวกเทวดาหรือนางฟ้าเพราะไม่ต้องไปโดนทรมานเหมือนในนรก เทวดายังมีโอกาสฟังธรรม ในวันพระก็ไปที่สุธรรมาเทวสภาในชั้นดาวดึงส์ ไปฟังธรรมไปบูชาพระเขี้ยวแก้วในจุฬามณีเจดีย์ เป็นต้น หรือว่าจะนั่งสมาธิก็ทำได้ แต่ผลไม่เท่ามนุษย์เพราะว่ามนุษย์มีกายหยาบ ทำอะไรแล้วแรงกว่าแต่เทวดาเป็นกายละเอียด ทำแล้วมีผลบ้างเหมือนกัน แต่ไม่มาก


สาเหตุการตายในทางพระพุทธศาสนา มีกี่ประเภท อะไรบ้าง

      มีทั้งหมด ๔ ประเภท คือ

     ๑. สิ้นอายุ อายุมนุษย์เรายุคนี้โดยเฉลี่ย คือ ๗๕ ปี ถ้าในครั้งพุทธกาลคือ ๑๐๐ ปี ซึ่งจะเห็นว่ามีพระอายุ ๑๒๐ ปีเยอะเลย เช่น พระอานนท์ ๑๒๐ ปี พระมหากัสสปะ ๑๒๐ ปีบางรูปถึง ๑๖๐ ปี ปัจจุบันสถิติคนอายุยืนในกินเนสบุ๊ก ๑๒๐ กว่าปีเท่านั้น อายุเฉลี่ย ๗๕ปีนี้ ถ้าปล่อยให้มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียนหรือเกิดโรคระบาด เช่น มาลาเรีย ไทฟอยด์ โรคห่า หรือกาฬโรค อายุเฉลี่ยมนุษย์อาจเหลือไม่ถึง แต่ถ้าดูแลสรีระดี ๆ ก็อยู่ได้เฉลี่ย ๗๕ ปี ถ้าไม่ดูแล ปล่อยให้มีโรคระบาดหรือมีสงครามเกิดขึ้น ก็ตายก่อนวัยแน่นอน เป็นการตายอีกแบบหนึ่ง ส่วนเรื่องการแพทย์ก้าวหน้ามียาช่วย มีเครื่องช่วยหายใจ เวลาป่วยไข้มีการดูแลพิเศษ ก็อาจจะดึงอายุขัยให้ออกไปสัก ๘๐ ปีได้ แต่โดยสรีระจริง ๆ ก็คือ ๗๕ ปี เพราะฉะนั้นเมื่อครบกำหนดตามสรีระก็ตาย ดังที่เราเห็นคนในปัจจุบันถึงแก่กรรมด้วยโรคชรา คือร่างกายหมดสภาพไปเพราะแก่หง่อมนี้คือสิ้นอายุ

    ๒. สิ้นกรรม คือ กรรมที่ทำให้มาเกิดในภาวะนั้นหมดลง พอหมดกรรมก็ตาย คำว่าสิ้นกรรมมี ๒ แบบ ทั้งกรรมดี กรรมชั่ว ถ้ากรณีกรรมดีจะเรียกว่าสิ้นบุญ หมดบุญ เช่นสมมุติไปเกิดเป็นเทวดาหรือนางฟ้าบนสวรรค์ เช่น สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เทวดามีอายุ ๑,๐๐๐ ปีสวรรค์ บางคนอยู่บนโลกทำบุญนิดเดียว แต่เผอิญทำบุญเสร็จแล้ว ใจกำลังปลื้มในบุญ แล้วก็ตาย บุญนั้นเลยส่งผลก่อน เป็นอาสันนกรรมคือกรรมใกล้ตายให้ผลก่อน ส่วนกรรมไม่ดีอย่างอื่นมีอีกตั้งเยอะ ยังอยู่ข้างหลัง ก็เลยไป เกิดอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ อายุของเทวดาสวรรค์ชั้นดาวดึงส์อยู่ได้ ๑,๐๐๐ ปีทิพย์ แต่ทำบุญมานิดหน่อย อยู่ได้แค่ ๒ ปีสวรรค์ก็หมดบุญ จุติร่วงลงมาเลย ถ้าทำกรรมไม่ดีไว้เยอะ จากเทวดาก็ลงนรกเลย อย่าคิดว่าเป็นเทวดาต้องมาเกิดเป็นคน แล้วทำบาปค่อยตกนรก ไม่ใช่ ถ้าทำบาปไว้เยอะ แต่มีบุญนิดหน่อย ถ้าบุญส่งไปเป็นเทวดาหรือนางฟ้า พอหมดบุญจากเทวดาหรือนางฟ้า ก็ลงนรกได้เลยอย่าประมาท นี้คือกรณีสิ้นบุญ คนก็เหมือนกันอายุโดยสังขารอยู่ได้ ๗๕ ปี แต่บางทีอยู่มาได้๒ ขวบ ๓ ขวบ แล้วหมดบุญ ก็ตายไปก่อนวัยอันควร ส่วนกรณีที่ไปเกิดในภูมิไม่ดี เช่น ไปตกนรก และควรต้องอยู่ในนรก ๕๐๐ ปีนรก แต่บาปที่ทำไว้มีไม่มาก เพียงแต่ก่อนตายบาปให้ผลก่อนจึงลงนรก ไปรับกรรมอยู่แค่ ๓ ปี ๕ ปีนรก พอกรรมหมด ก็พ้นจากนรกขุมนั้นมาได้ ไม่จำเป็นต้องอยู่ครบช่วงอายุของภพภูมินั้นก็ได้

      ๓. สิ้นอายุและสิ้นกรรม คือ หมดทั้งสองอย่าง

      ๔. ตายเพราะกรรมตัดรอน คือ บุญยังไม่หมด สังขารยังอยู่ได้ ยังไม่หมดอายุ บุญในตัวก็มีเพียงพอ แต่เผอิญวิบากกรรมในอดีตชาติใดชาติหนึ่ง ที่รออยู่ได้ช่องส่งผลคือเรา เวียนว่ายตายเกิดมานับชาติไม่ถ้วน ทำกรรมดี กรรมชั่วไว้ก็เยอะ ไม่ใช่ว่าตายแล้วเอากรรมดีกรรมชั่วมาหักลบกัน ได้เหมือนบัญชีธนาคาร เอาตัวแดงตัวดำมาหักลบกันแล้ว เหลือตัวดำก็ไปขึ้นสวรรค์ เหลือตัวแดงก็ไปตกนรก แต่การให้ผลของกรรมซับซ้อนมาก พระพุทธเจ้ายังบอกว่าเป็นเรื่องอจินไตย คือ ใช้สมองคิดก็เป็นบ้า ต้องเป็นผู้ที่มีาณทัสนะถึงจะไปรู้ไปเห็นได้ ดังนั้นกรรมในอดีตที่เราทำไว้ก็เหมือนเป็นระเบิดเวลาซุกซ่อนอยู่ พอได้จังหวะก็ระเบิดตูมกรรมมาตัดรอนทำให้ตาย แล้วกรรมตัดรอน ก็มีทั้งกรรมในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ ไม่ใช่กรรมในอดีตอย่างเดียว เกิดมาในชาตินี้ไปเฮฮากับเพื่อน ทั้งกินเหล้า เสพยาเสพติดด้วยอดหลับอดนอนเล่นเกม ๓ วัน ๓ คืน สุดท้าย ช็อกตาย นี้คือกรรมปัจจุบันตัดรอน เพราะความประมาท  สาเหตุการตายประมวลได้ ๔ อย่างใหญ่ๆ แบบนี้


การฆ่าตัวตายเป็นบาปหรือไม่ และมีวิบากกรรมอย่างไร ?

   ฆ่าตัวตายเป็นบาป บาปเหมือนฆ่าคนจะฆ่าตัวเราเองหรือฆ่าคนอื่น ก็ฆ่าคนเหมือนกัน อย่าไปทำนะ บางคนบอกกลุ้มเหลือเกินไปรักเขาแล้วเขาไม่รักเรา ดูฟ้าแล้วหม่นหมองดูดินก็ไม่สวย ดูดอกไม้หรืออะไรก็ไม่เข้าท่า อย่าอยู่ต่อไปเลย ตายดีกว่า วัยรุ่นอารมณ์แรงมักมีอาการอย่างนี้ บางคนอยู่บนตึกชั้น ๖ ชั้น ๘ กระโดดลิ่วลงมา เพราะรู้สึกว่ามีทุกข์ มาก อยากจะหนีความทุกข์นั้น แต่ในสายตาผู้ใหญ่ดูแล้วรู้สึกว่าทำไมโง่อย่างนี้ เพราะรู้ว่าอารมณ์ที่กลุ้มๆ ทุกข์ ๆเป็นแค่อารมณ์ ชั่วคราว เดี๋ยวก็จะผ่านไป แต่เด็กวัยรุ่นที่เจออารมณ์อย่างนั้น ก็อยากตาย นึกว่าตายแล้ว จะได้พ้นจากภาวะนั้นไป หารู้ไม่ว่าจะไปเจอสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าหนีเสือปะจระเข้อีก น่ากลัวกว่าบนโลกเราล้านๆเท่า อย่าทำเด็ดขาดไม่คุ้มเลย


ทำไมเวลาเกิดใหม่แล้วจึงจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ ?

    พอเรามาเกิด ลมชวาตจะทำให้เราจำอดีตไม่ได้ แต่ให้เรารู้ว่าในโลกนี้ไม่มีอะไร ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ทุกอย่างเหมือนมีกฎที่คุมอยู่ การไปเกิดมาเกิด ก็มีการคุมโดยกฎที่เรียกว่าพีชนิยาม กฎที่ว่าด้วยสิ่งมีชีวิต ทำไมคนถึงคลอดลูกออกมาเป็นคน ไม่คลอดลูกออกมาเป็นลิง ทำไมมะม่วงไม่ออกลูกเป็นมะพร้าว เป็นเพราะมีพีชนิยามคุมไว้ พีชนิยามนี้กำกับ ไว้ว่า ไม่ว่ามนุษย์จะมาจากเทวดา นางฟ้า หรือว่าเพิ่งพ้นกรรมจากนรกก็ตาม พอมาเกิดก็จะลืมภาพเก่า ลืมความทรงจำ แต่ว่ามีข้อยกเว้นมีคนอยู่ ๐.๐๐๐๑ เปอร์เซ็นต์ที่จำอดีตชาติได้กฎที่คุมอยู่ถ้าจะเปรียบให้พอเข้าใจ ก็เหมือนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เซ็ตอยู่นั่นเอง แล้วโปรแกรมคอมพิวเตอร์มีบั๊กไหม ไม่ว่าโปรแกรมอะไรก็ตาม สุดท้ายยังมีจุดบกพร่อง ยังมีบั๊กอยู่ถ้าคอมพิวเตอร์ไม่มีบั๊กเลยจะต้องไม่แฮงก์ ที่แฮงก์เพราะมันเจอบั๊กพอดี ถึงเกิดอาการพิเศษขึ้นมาเป็นกรณียกเว้น คล้ายกันกับการที่บางคนไม่ลืมอดีต จำอดีตชาติได้


ขอคำแนะนำในการรับมือกับความตาย

    วิธีที่ดีที่สุดคือตายแล้วต้องไปเกิดในสุคติภพ อย่าไปเกิดในทุคติภพเด็ดขาด เพราะว่ามันน่ากลัวมาก เราเกิดเป็นคนทุกข์แค่ไหนก็ยังดีกว่าเกิดเป็นสัตว์ แม้แต่เป็นคนชั้นล่างสุด ก็ยังดีกว่าเป็นสัตว์ชั้นสูงด้วยซ้ำไป เช่น สุนัข ที่ราคาแพง ๆ ที่เขาเลี้ยงอยู่ในบ้านหรู ๆ นั่งรถเก๋งแพง ๆ ก็เป็นได้แค่สุนัข จะมาสร้างบุญ สร้างกุศลเหมือนคนไม่ได้ จะให้บรรลุธรรมเหมือนมนุษย์ ก็ทำไม่ได้ ต่อให้เป็นพญานาค มีฤทธิ์แปลงกายได้ จะแปลงเป็นมนุษย์ก็ได้ พระพุทธเจ้ายังไม่อนุญาตให้บวชเลย เพราะว่าไม่สามารถบรรลุธรรมได้

     เป็นมนุษย์ประเสริฐที่สุดแล้ว เราละโลกไปแล้วสำคัญที่สุดต้องไม่ไปเกิดในอบาย ตั้งแต่สัตว์เดรัจฉาน เปรตอสุรกาย สัตว์นรก ไม่ไปเด็ดขาด มีแต่ต้องเป็นมนุษย์ เป็นเทวดา หรือพรหมเท่านั้น ซึ่งจะได้อย่างนี้ก็ต้องทำง่ายๆ ๒ ข้อ คือ

         ๑. อย่าทำบาปอกุศลเด็ดขาด

         ๒. ทำบุญกุศลเยอะ ๆ ทั้งทาน ศีล  ภาวนา   

    

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล